ในเมื่อตัดสินใจกลับประเทศแล้ว งั้นก็ไม่ต้องรอช้าแล้ว ในคืนนั้น เธอกับฟางยู่เชินรีบเดินทางไปที่สนามบินทันที
พอมาถึงสนามบิน ฝู้จิงเหวินก็เข้าไปกอดเธอกะทันหัน และยังกอดเธอไว้แน่น
ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอเข้าใจผิดไปเองหรือเปล่า เธอรู้สึกว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว
ความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้พุ่งเข้ามาในหัวใจของเธอ เธอก็ยกมือขึ้นมากอดเขากลับ ขอบตาของเธอชื้นเล็กน้อย
“พี่ฝู้ พี่มีโอกาสจะต้องมาหาฉันที่เมืองจิ่นนะคะ ฉันกับเฟิงเฉินและลูก ๆ จะต้องดีใจมากแน่ๆ”
เสียงที่นุ่มนวลและอ่อนหวานของเธอตกลงดังเข้ามาในหูของเขา ทำให้ใจของเขาสั่นคลอน ความเศร้าเกาะกุมหัวใจของเขาจนหมด
เขากำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว และตอบกลับอย่างอึมครึม “ตกลง”
ฟางยู่เชินมองดูพวกเขา ก่อนจะอดที่จะหัวเราะและหยอกล้อไม่ได้ “โชคดีที่น้องเขยของผมไม่อยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องหึงมากแน่ๆ”
พอได้ยินแบบนี้ ฝู้จิงเหวินจึงรีบปล่อยมือ ก่อนจะมองเจียงสื้อสื้ออย่างลึกซึ้ง แล้วยิ้มออกมา “ถ้าอย่างนั้นพี่ก็ขอให้เขาอยู่ที่นั่น แบบนี้สื้อสื้อจะได้ไม่ต้องกังวลเพราะเขาอีก”
“ฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ” เจียงสื้อสื้อพูดเสีนงเบา ก่อนจะหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหันไปพูดกับเขายิ้มๆ “พี่ฝู้ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ พวกเรากลับก่อนแล้ว”
“อืม เธอก็ด้วย”
เจียงสื้อสื้อโบกมือให้เขา แล้วหันหลังเดินเข้าไปในล็อบบี้ของสนามบินพร้อมกับฟางยู่เชิน
พอมองจนกว่าไม่เห็นแผ่นหลังของพวกเขา ฝู้จิงเหวินถอนสายตาของเขากลับมา แล้วก้มหน้าลง ก่อนจะหัวเราะเยาะตัวเอง
ตลอดชีวิตนี้ เขาอาจจะไม่ได้เจอเธออีกแล้ว
“ทำใจไม่ได้หรือไง”
เสียงที่คุ้นเคยดังเข้ามาในหูของเขา
เขาเงยหน้าขึ้น พอเห็นข่ายสื้อลินยืนกอดอกมองอยู่ไม่ไกล คิ้วคมของเขาก็ขมวดเข้าหากันช้าๆ
ข่ายสื้อลินเดินเข้ามาหาเขา พร้อมกับยิ้มเยาะเย้ย “ฝู้จิงเหวิน อย่าลืมสิ่งที่คุณสัญญาไว้กับฉัน”
“ผมไม่ได้ลืม” ฝู้จิงเหวินตอบอย่างเย็นชา
“งั้นก็ดี” ข่ายสื้อลินเหลือบมองไปข้างในสนามบิน ก่อนจะยกยิ้ม “จากนี้ไปคุณจะไม่ได้เจอเธออีก คุณไม่คิดจะเข้าไปข้างในมองอีกหน่อยหรือไง”
“ไม่จำเป็น”
เขากลัวว่ายิ่งมองยิ่งไม่อยากจากลา
ข่ายสื้อลินพยักหน้า แล้วรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา จึงถามออกไป “คุณจะทำอะไรต่อไป”
ใช่สิ เขาจะทำอะไรต่อไปดี
พอเห็นเขาขมวดคิ้วแน่น ข่ายสื้อลินก็อดยิ้มไม่ได้ ในรอยยิ้มของเธอก็เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย “เพื่อเจียงสื้อสื้อ คุณทุ่มเทสุดตัวจริงๆ”
ฝู้จิงเหวินลืมตาขึ้น ก่อนจะจ้องไปที่เธอนิ่ง
ลางสังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นในใจของเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าของข่ายสื้อลินก็ค่อยๆเลือนหายไป เธอก็ขมวดคิ้วแน่น “นี่คุณคงไม่คิดจะให้ฉันช่วยคุณอีกใช่ไหม”
“คุณช่วยเอาเอกสารการวิจัยหลักของคูรี่มาให้ผมได้ไหม” ฝู้จิงเหวินเอ่ยถาม
ดวงตาของข่ายสื้อลินเบิกกว้างด้วยความตกใจ “คุณจะบ้าเหรอ นี่คุณคิดจะ...”
“คุณเอามาได้ไหม” ฝู้จิงเหวินถามซ้ำ
ข่ายสื้อลินสูดหายใจเข้าลึก “ถึงฉันจะเอามาได้ ฉันก็ไม่ช่วยคุณหรอก”
“ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”
พอได้ยินแบบนี้ ข่ายสื้อลินก็พ่นหัวเราะออกมา “ฝู้จิงเหวิน ฉันพบว่าหน้าของคุณหนาขึ้นเรื่อยๆแล้ว ทำไมฉันต้องช่วยคุณด้วย
แล้วอีกอย่าง คุณอย่าคิดจะทำอะไรเพื่อเจียงสื้อสื้ออีก ไม่อย่างนั้น ฉันจะบอกเบอร์เกน ว่าเธอกลับประเทศแล้ว “
พอได้ยินแบบนี้ สีหน้าของฝู้จิงเหวินก็เปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเขาคมกริบ “ถ้าคุณกล้าบอกเบอร์เกน ผมจะไม่ปล่อยคุณไปแน่นอน”
“อย่างนั้นเหรอ” ข่ายสื้อลินไม่กลัวคำขู่ของเขาเลย “คุณจะฆ่าฉันหรือว่ายังไง”
ฝู้จิงเหวินจ้องเธอนิ่ง ไม่ได้ตอบกลับ
“ฝู้จิงเหวิน ฉันบอกคุณนี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ฉันจะไม่ช่วยคุณอีกแล้ว และคุณก็ไม่ต้องมาข่มขู่ฉัน ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าฉันจะบ้าคลั่งจนทำอะไรลงไปบ้าง”
พอพูดจบ เธอก็มองเขาอย่างเย็นชาแล้วเดินจากไป
ฝู้จิงเหวินกำหมัดแน่น ใบหน้าที่หล่อเหลาถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งพันปี ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ช่วยเขา เขาก็จะหาวิธีเอามันมาให้ได้แน่นอน
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!