วันรุ่งขึ้น เจียงสื้อสื้อพาลูกทั้งสองคนไปเยี่ยมคุณท่านหางกับแม่ของเธอที่โรงพยาบาล
นานแล้วที่ไม่ได้เห็นเด็กน้อยทั้งสองคน พอได้เห็น ฟางเสว่มั่นก็ร้องไห้ด้วยความดีใจ
เธอกอดเด็กทั้งสองไว้แน่น เหมือนกลัวว่าพวกเขาจะหายไป
พอเห็นแบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ เป็นเพราะเรื่องของเธอ ทำให้โอกาสที่มารดาของเธอกับเด็กทั้งสองได้เจอกันจึงน้อยลง
“คุณยายครับ สุขภาพของคุณยายดีขึ้นบ้างไหมครับ” เสี่ยวเป่าเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อยเอ่ยถามอย่างห่วงใย
ฟางเสว่มั่นยิ้มพร้อมกับพยักหน้า “อืม ยายอาการดีขึ้นมากแล้วจ้ะ”
เถียนเถียนเงยหน้าขึ้นมองเธอ “แล้วเมื่อไหร่คุณยายจะกลับไปอยู่กับพวกเราที่บ้านได้คะ หนูกับพี่ชายคิดถึงคุณยายมากเลยค่ะ”
“รอคุณตาทวดของหนูตื่น ยายก็กลับไปได้แล้วจ้ะ” ฟางเสว่มั่นลูบหัวเธอด้วยความรักใคร่เอ็นดู
“คุณตาทวดจะตื่นเมื่อไหร่คะ” เถียนเถียนถามอีกครั้ง
“เร็ว ๆ นี้จ้ะ”
“เร็วๆ นี้เร็วแค่ไหนคะ”
“เร็วๆ นี้ก็คือ...” ฟางเสว่มั่นไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
เจียงสื้อสื้อเดินเข้ามา “เถียนเถียน ทำไมวันนี้ลูกมีคำถามเยอะขนาดนี้จ้ะ”
เถียนเถียนเม้มปาก รู้สึกน้อยใจ “หนูแค่อยากให้คุณยายกลับบ้านเร็วๆค่ะ”
“หม่ามี๊รู้จ้ะ แต่คุณยายบอกแล้วนี่จ้ะ รอคุณตาทวดตื่น ท่านถึงจะกลับบ้าน” เจียงสื้อสื้อพูด
“แต่คุณตาทวดหลับไปตั้งนานแล้ว ทำไมถึงยังไม่ตื่นอีกล่ะคะ”
เด็กน้อยไร้เดียงสา ไม่รู้ว่าคุณตาทวดอยู่ในสภาพไหน จึงคิดว่าเขาแค่หลับไปเป็นเวลานานเท่านั้น
เจียงสื้อสื้อคุกเข่าลง มองเข้าไปในดวงตาที่กำลังสงสัยของลูกสาว แล้วถามด้วยรอยยิ้ม“ถ้าอย่างนั้นลูกไปปลุกคุณตาทวดตื่น ดีไหมจ้ะ”
“หนูทำได้ไหมเหรอคพ” เถียนเถียนถามอย่างไร้เดียงสา แล้วกะพริบตาปริบๆ
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ได้สิจ้ะ”
เธอเงยหน้าขึ้นมองเสี่ยวเป่า “เสี่ยวเป่า ลูกเองก็มาด้วย ดีไหมจ้ะ”
เสี่ยวเป่าตอบรับอย่างเชื่อฟัง “ได้ครับ”
“งั้นหม่ามี๊พาพวกลูกไปหาคุณตาทวดกัน”
เธอลุกขึ้นยืน แล้วเดินจูงมือเด็กน้อยทั้งสองคนไว้คนละข้าง
ฟางเสว่มั่นขมวดคิ้ว “สื้อสื้อ เราทำแบบนี้ จะดีเหรอจ้ะ”
เจียงสื้อสื้อหันกลับมามองเธอ “คุณหมอบอกเองไม่ใช่เหรอคะ ให้เราชวนคุณตาคุยบ่อยๆ เพื่อกระตุ้นเส้นประสาทสมอง แบบนี้คุณตาจะได้ตื่นเร็วๆ ไงคะ”
“คุณหมอพูดไว้แบบนี้ก็จริงจ้ะ แต่ว่า...”
ฟางเสว่มั่นกังวลว่าถ้าเด็กทั้งสองคนไม่รู้จักลิมิต มันจะได้ผลตรงกันข้าม แล้วจะเป็นการรบกวนท่านเข้า
เจียงสื้อสื้อมองความคิดของเธอออก จึงหัวเราะเบา ๆ “แม่คะ ไม่ต้องห่วงค่ะ เด็กสองคนนี้ฉลาดมาก ไม่เล่นพิเรนทร์แน่ๆค่ะ”
ฟางเสว่มั่นนิ่งคิด มันก็ใช่ หลานของเธอทั้งสองคนมารยาทดีมาก เธอจึงยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นลูกพาหลานๆไปเถอะ”
เจียงสื้อสื้อพาเด็กน้อยทั้งสองคนไปที่ห้องผู้ป่วยของคุณตา
พอมองไปที่ชายชราที่นิ่งนอนบนเตียง เถียนเถียนก็เงยหน้าขึ้นมองเจียงสื้อสื้อ แล้วถามอย่างไม่แน่ใจ “หม่ามี๊คะ คุณตาทวดนอนหลับสนิทมากเลยค่ะ เราจะปลุกท่านตื่นจริง ๆเหรอคะ”
เจียงสื้อสื้อก้มศีรษะลง แล้วเลิกคิ้วเล็กน้อย “ลูกไม่อยากให้คุณยายกลับบ้านเร็วๆแล้วเหรอจ้ะ”
“อยากค่ะ”เถียนเถียนพยักหน้าเร็วๆ
เธอแกะมือเจียงสื้อสื้อออก แล้ววิ่งไปที่เตียงคนไข้ด้วยขาสั้นๆของเธอ ก่อนจะพูดที่ข้างหูชายชราด้วยน้ำเสียงน่ารักน่าชัง “คุณตาทวดขา พระอาทิตย์กำลังส่องถึงก้นแล้วค่ะ รีบตื่นได้แล้วค่ะ”
แต่ชายชรายังคงนอนนิ่ง
เถียนเถียนมุ่ยหน้า แล้วพูดซ้ำอีกครั้ง
แต่ก็ไม่มีความเคลื่อนไหว
เธอเริ่มรู้สึกไม่ชอบใจ ก่อนจะหันไปมองทางเจียงสื้อสื้อ“หม่ามี๊คะ คุณตาทวดเหมือนจะไม่ได้ยินค่ะ ท่านก็เลยไม่ยอมตื่น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!