ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 1127

สรุปบท บทที่​1127 จะเอาเขาไปซ่อนตลอด​ชีวิต​เลยหรือไง: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

สรุปตอน บทที่​1127 จะเอาเขาไปซ่อนตลอด​ชีวิต​เลยหรือไง – จากเรื่อง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

ตอน บทที่​1127 จะเอาเขาไปซ่อนตลอด​ชีวิต​เลยหรือไง ของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์เรื่องดัง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เจียงสื้อสื้อเดินเข้าไปในห้องทำงาน แต่กลับ​ไม่เห็นฟางยู่เชิน

เขาไม่ได้บอกว่ามีงานต้องทำเหรอ แล้วเขาหายไปไหนแล้ว​

“สื้อสื้อ”

เจียงสื้อสื้อสะดุ้ง​ตกใจกับเสียงที่ดังขึ้น​มา​จากข้างหลัง เธอหันกลับมามองฟางยู่เชินอย่างไม่พอใจ “พี่คะ ทำไมเดินมาไม่มีเสียงเลยคะ”

ฟางยู่เชินยิ้มขอโทษ “ขอโทษ พี่ทำให้น้องตกใจแล้ว”

เจียงสื้อสื้อลูบหน้าอกของเธอ แล้วพูดอย่างไม่ชอบใจ “ใช่ค่ะ ฉันตกใจแทบตาย​”

ฟางยู่เชินยิ้ม แล้วรีบเปลี่ยนหัวข้อ​สนทนา “น้องมาหาพี่มีเรื่อง​อะไรหรือเปล่า​”

“ใช่ค่ะ” เจียงสื้อสื้อพยักหน้า

“น้องอยากจะถามว่าพี่ชอบเวยเวยจริงๆ หรือเปล่า ใช่ไหม​” ฟางยู่เชินเอ่ยถามขณะเดินไปที่โต๊ะ

เจียงสื้อสื้อมองมาที่เขา “ในเมื่อพี่รู้เรื่องที่ฉันอยากจะถามแล้ว พี่ก็สารภาพ​ออกมาเองเถอะค่ะ”

ฟางยู่เชินเงยหน้าขึ้นมองเธอ แล้วนั่งลงอย่างสบายใจ “อยากจะฟังความจริงใช่ไหม​”

“แน่นอนค่ะ”

ไม่อย่างนั้น เธอจะรีบวิ่งขึ้นมา​หาเขาอย่างรีบร้อน​แบบนี้ทำไมกัน

ฟางยู่เชินนิ่งคิดสักพัก​ แล้วพูดออกมา “พี่ไม่ได้ชอบเวยเวย แล้วก็ไม่ชอบเย่เสี่ยวอี้ด้วย”

“มองออกอยู่ค่ะ” เจียงสื้อสื้อเลิกคิ้วขึ้น “พี่ใช้เวยเวยมาเป็นข้ออ้าง ทำเกินไปหน่อยไหมคะ”

“ฉันก็จนปัญญา​เหมือนกัน” ฟางยู่เชินถอนหายใจ “น้องไม่รู้นิสัยแม่พี่หรอก ถ้าพี่ไม่พูดแบบนั้น ท่านจะยอมปล่อยพี่ไปได้ยังไง”

“แต่พี่เคยคิดบ้างไหม ว่าทำแบบนี้มันไม่ยุติธรรมกับเวยเวย แล้วน้าสะใภ้​เล็กจะมองเวยเวยยังไง”

“น้องโกรธแล้วใช่ไหม​” ฟางยู่เชินถาม

เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้าลึก “ฉันโกรธจริงๆ​ค่ะ เวยเวยเป็นเพื่อนของฉัน ฉันไม่อยากให้​เธอถูกทำร้าย”

หากเวยเวยคิดกับฟางยู่เชินแค่เพื่อนธรรมดาก็คงจะดี แต่เธอมองออก ว่าเวยเวยชอบฟางยู่เชิน

“พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย” ฟางยู่เชินกล่าวขอโทษอย่างจริงใจ

ตอนนั้นเขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาพูดแบบนั้นออกไปได้ยังไง​ อาจเป็นเพราะเขาประทับใจในตัวเหลียงซินเวยมากก็ได้

“พี่คะ ฉันยังหวังว่าพี่จะหาโอกาสอธิบายกับน้าสะใภ้​เล็กให้ชัดเจน” เจียงสื้อสื้อพูด

ฟางยู่เชินพยักหน้า “ตกลง”

แบบนี้เจียงสื้อสื้อก็โล่งใจแล้ว “พี่คะ เวยเวยทำงานหนักเลี้ยงลูกคนเดียว อย่าสร้างปัญหา​ให้​เธอเพิ่มอีกเลย”

พอได้ยินแบบนี้ ฟางยู่เชินอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ “สื้อสื้อ พี่เป็นพี่ของน้อง ทำไมน้องถึงพูดแทนคนอื่นแบบนี้”

“เวยเวยเป็นเพื่อนของฉันนี่คะ”

“อืม เธอเป็นเพื่อนของน้อง สำคัญกว่าพี่อีก” ฟางยู่เชินส่ายหน้า​แล้วหุบยิ้ม​

“พี่ทำงานต่อเถอะค่ะ ฉันไม่รบกวน​พี่แล้ว”

เจียงสื้อสื้อหันหลัง​กลับเตรียมจะเดินจากไป

“เดี๋ยวก่อน” ฟางยู่เชินเรียกเธอไว้

เธอหันมา “มีอะไรอีกหรือเปล่า​คะ​”

“กู้เนี่ยนกลับมา​แล้ว”

เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว “ทำไมถึงกลับมาแล้วคะ ไม่ใช่​ว่า​กำลังตามหาเฟิงเฉินอยู่เหรอคะ”

“พวกเขาค้นจนทั่วอิตาลีแล้ว แต่ไม่พบเบาะแสของน้องเขยเลย พวกเขาสงสัยว่าน้องเขยจะไม่ได้อยู่ในอิตาลี” ฟางยู่เชินบอกเล่า​สถานการณ์​ล่าสุดให้เธอฟัง

“ไม่อยู่​ในอิตาลีเหรอคะ แล้วเขาไปอยู่ที่ไหน” เจียงสื้อสื้อถามอย่างร้อนใจ

“ชีซากำลังพยายามสืบข้อมูลเที่ยวบินของซ่างกวนหยวนอยู่ ถ้าได้เบาะแสเพิ่มเติมเขาคงจะรีบบอกพี่”

เจียงสื้อสื้อรู้สึกทุกข์​ใจ ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​ แต่ในรอยยิ้มนั้นกลับแฝงไปด้วยความประชดประชัน “หรือว่าซ่างกวนหยวนจะจะเอาไปซ่อนตลอด​ชีวิต​เลยหรือไง”

“เธอคงคิดจะทำอย่างนั้นจริงๆ​”

“ไม่มีทาง” เจียงสื้อสื้อโต้กลับเสียงดัง “ฉันไม่เชื่อว่าเฟิงเฉินจะไม่ฟื้นขึ้นมาเลย เธอไม่มามีทางจะซ่อนคนได้ตลอดชีวิต เฟิงเฉินจะต้อง​กลับมาอย่างแน่นอน​”

“แน่นอน เขาจะต้อง​กลับมาแน่ๆ​ เขาเป็นสามีของน้อง จะต้อง​กลับมาหาน้องอย่างแน่นอน” ฟางยู่เชินพูด

เจียงสื้อสื้อหลับตาลง แล้วสูดหายใจเข้าลึก“พี่คะ ขอโทษค่ะ ฉันตื่นเต้นไปหน่อย”

ฟางยู่เชินเดินเข้ามา แล้วตบไหล่เธอ ก่อนจะ​พูด​ปลอบโยน “ไม่ต้องเป็นห่วง ซูหานกับชีซาจะต้องตามหาเขากลับมาได้อย่างแน่นอน​”

“ฉันรู้ค่ะ” เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ฉันเชื่อในตัวพวกเขามาตลอด”

“งั้นก็ดีแล้ว​”

เจียงสื้อสื้อเม้มปาก “แต่ว่า…”

“แต่ว่าอะไร”

พอเห็นสีหน้าของเธอไม่ค่อยดี อานอานจึงอดที่จะถามอีกครั้งไม่ได้ “แม่​ครับ แม่เป็นอะไรหรือเปล่า​ครับ​ ไม่มีความสุข​เหรอ​ครับ​”

“ใช่จ้ะ ไม่มีความสุข​เลย”

เดิมทีก็มีความสุขมาก แต่หลังจากที่เย่เสี่ยวอี้ปรากฏตัว เธอก็ไม่มีความสุขแล้ว

ภาพตอนที่ฟางยู่เชินกับเย่เสี่ยวอี้ยืนอยู่ด้วยกันปรากฏ​ขึ้น​มา​ในสมองของเธอ​

หนุ่มหล่อ​สาว​สวย​

ช่างเหมาะสม​กัน​จริงๆ​

“โธ่เอ๊ย​” เธอหยิบหมอนขึ้นมาปิดหน้าตัวเองอย่างหงุดหงิดใจ

การกระทำ​ของเธอทำให้อานอานตกใจมาก “คุณ​แม่ครับ คุณ​แม่เป็นอะไรครับ คุณ​ลุงฟางจะรังแกคุณแม่ใช่ไหม​ครับ​”

เหลียงซินเวยคงหมอนออก แล้วหันไปมองลูกชาย​ “ไม่จ้ะ เขาจะรังแกแม่ได้ยังไงกัน”

“แล้วคุณ​แม่เป็นอะไรไปครับ”

“ไม่เป็นไรจ้ะ” เหลียงซินเวยสูดหายใจเข้าลึก “เป็นแม่เองที่คิดมากเกินไป”

เธอกับฟางยู่เชินไม่ใช่คนในโลกใบเดียวกัน เธอควรคิดอะไรที่ไม่ควรคิด

พอคิดได้แบบนี้ เธอยกมือขึ้นแล้วตบแก้มตัวเองเบาๆ “เหลียงซินเวย ตั้งใจหาเงิน เลี้ยงดูลูกชายให้ดี สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดแล้ว”

อานอานมองเธอด้วยแววตาสงสัย “คุณ​แม่ครับทำอะไรอยู่ครับ”

เหลียงซินเวยลูบหัวของเขา ก่อนจะพูดยิ้มๆ “แม่จะต้อง​เลี้ยงดูลูกให้เป็นผู้ที่มีประโยชน์ต่อสังคม”

“คุณ​แม่ครับ คุณ​แม่พูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว”

“แม่รู้จ้ะ” เหลียงซินเวยเลิกคิ้ว “แต่แม่ต้องพูดบ่อยๆ ไม่อย่างนั้นแม่จะลืมเอาได้”

ใช่แล้ส เธอลืมไปจริงๆ ลืมความปรารถนา​สุดท้ายของพี่สาวไป

ก่อนจะทำตามความปรารถนาสุดท้ายของพี่สาวสำเร็จ เธอมีสิทธิ์​อะไร​คิดเรื่องความรัก​กัน

อานอานเห็นว่าเธอไม่พูดอะไร จึงเอ่ยปาก​ถาม​อีกครั้ง “คุณ​แม่ครับ คุณ​แม่กับลุงฟางมีปัญหา​อะไร​กันหรือเปล่า​ครับ​”

เหลียงซินเวยได้สติกลับมา ก่อนจะยกยิ้ม “ต่อไปนี้​เราจะไม่พูดถึงเรื่องลุงฟางอีกจ้ะ”

“ทำไมครับ”

เหลียงซินเวยลุกขึ้นเดินไปที่ห้องครัว “ไม่มีทำไมจ้ะ ไม่พูดถึงก็คือไม่พูดถึง”​

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!