ถึงปากเขาจะบอกว่าเชื่อใจเธอ แต่ในใจนั้นกลับไม่ใช่เลย
เจียงสื้อสื้อขำออกมาเบาๆ “เบอร์เกน คุณคิดมากไปแล้ว แม้แต่โหหกคุณฉันยังไม่อยากเลย”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเบอร์เกนดูเกร็งไปในทันที แววตาดูเคร่งขรึมลงไปมาก
เจียงสื้อสื้อหมุนตัว แล้วยิ้มให้จิ่งหลิวเยว่อย่างไม่มีมารยาท “คุณจิ่งคะ ต้องขอโทษด้วย ฉันคงช่วยคุณไม่ได้แล้ว”
เธอไม่อยากสร้างปัญหาให้ใครอีกแล้ว
ทางที่ดีไม่ควรดึงจิ่งหลิวเยว่เข้ามาเกลอี่ยวด้วย
“พี่สะ……ไม่ใช่ คุณเจียง คุณคงไม่ได้คิดจะทิ้งผมไว้กลางทางใช่มั้ยครับ?” จิ่งหลิวเยว่เกือบเปิดเผยความสัมพันธ์ของเขากับเจียงสื้อสื้อไปแล้ว โชคยังดีที่เขาเปลี่ยนคำพูดได้ทัน
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ”
ถึงจิ่งหลิวเยว่มีใจที่จะช่วยเธอออกไปมากแค่ไหน แต่เธอก็คงมีความกังวลของเธอ เขาก็พูดอะไรไม่ได้อีก
จึงได้แต่พยักหน้าไป “ก็ได้ครับ ผมไปหาคนอื่นก็ได้”
เขาหันหลังแล้วเดินเข้าไปข้างใน แล้วหันมามองเจียงสื้อสื้อเป็นพักๆ กลัวเบอร์เกนจะทำอะไรเธอ
รอตนจิ่งหลิวเยว่เดินไปไกลแล้ว เบอร์เกนถึงพูดออกมาว่า “โซเฟย่า ผมไม่ชอบให้ใครมาโกหกผม”
เจียงสื้อสื้อหันหน้ามา สายตาที่เย็นชาจ้องไปที่เขา ริมฝีปากแดงๆ เปิดออก “ฉันเองก็เหมือนกันค่ะ ดังนั้น ฉันจึงหวังว่าคุณจะรักษาคำพูดของตัวเองด้วย”
“ฮ่าฮ่า” เบอร์เกนหัวเราะออกมาเสียงดัง จ้องเธอตาไม่กะพริบ “คุณนี่ช่างน่าสนใจจริงๆ”
คิ้วของเจียงสื้อสื้อขมวดเป็นปม
น่าสนใจเหรอ? เธอน่าสนใจตรงไหน?
“คุณไม่ต้องห่วง รองานเลี้ยงจบลง ผมก็จะบอกคุณเองว่าซ่างกวนหยวนจะกลับมาเมื่อไหร่”
พูดจบ เขาก็จับมือของเจียงสื้อสื้อไว้ แล้วจูงมือเธอไป
เจียงสื้อสื้ออยากดึงมือกลับมาก แต่เธอแค่ทนอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้รู้เวลาที่ซ่างกวนหยวนจะกลับมาแล้ว เธออดทนเอาไว้เดินตามเบอร์เกนกลับเข้างานเลี้ยงไป
……
“ทำไมถึงกลับมาแล้วล่ะครับ?”
พอฟางยู่เชินเห็นจิ่งหลิวเยว่เดินเข้ามา เขาก็เบิ่งตาโตด้วยความตกใจ
จิ่งหลิวเยว่ยักไหล่ แล้วพูดออกมาอย่างจนใจว่า “ถูกเจอตัวเข้าน่ะครับ”
“เป็นไปได้ยังไง?”
ฟางยู่เชินมองไปทางประตู ก็ได้เห็นเจียงสื้อสื้อดึงตัวเบอร์เกนเข้ามา
“คู่ต่อสู้นั้นยิ่งใหญ่เกินไป” จิ่งหลิวเยว่ถอนหายใจออกมาอย่างแรง
ถ้าจะพูดให้ถูกกว่านั้นคือ พวกเขาดูถูกเบอร์เกนมากเกินไป
“ไม่ได้ ผมต้องไปช่วยสื้อสื้อให้ได้”
ฟางยู่เชินยกแก้วไวน์ขึ้นมา แล้วเดินเข้าไปหาพวกเบอร์เกน
“คุณเบอร์เกน”
ฟางยู่เชินเข้าไปขวางเบอร์เกนเอาไว้ตรงๆ
เบอร์เกนเหลือบตาขึ้น มองมาที่เขาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “ประธานฟาง นี่คุณหมายความว่ายังไงครับ?”
“ที่นี่มีคำพูดหนึ่งว่า ‘มีเพื่อนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กันเดินทางมาจากที่แดนไกล จะไม่ให้ดีใจได้ยังไง’ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณครับ”
ฟางยู่เชินยกแก้วไวน์ขึ้น
เบอร์เกนไม่เข้าใจคำพูดของเขาเมื่อกี้ จึงได้หันไปขอเจียงสื้อสื้อให้ช่วยแปลความหมาย
“พี่ชายของฉันบอกว่า คุณเป็นเพื่อนที่มาจากที่อื่นค่ะ” เจียงสื้อสื้อมองไปยังฟางยู่เชิน และเห็นความกังวลจากแววตาของเขา
เธอเองก็ไม่สามารถพูดอะไรต่อหน้าเบอร์เกนได้ ทำได้แค่ยิ้มให้กำลังใจเขาเท่านั้น บอกเขาว่าตัวเองไม่เป็นไร
“ที่แท้ก็หมายความว่าแบบนี้นี่เอง” เบอร์เกนพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ยกแก้วขึ้นมาชนกับเขาทีหนึ่ง “ใช่ครับ เราเป็นเพื่อนกัน”
ช่วงเวลาต่อจากนั้น หางยู่เชินก็ตามพวกเขาไปตลอด
มาร์ซิวอยากไล่เขาไป แต่ก็ถูกเบอร์เกนห้ามเอาไว้ก่อน
“เขาเป็นเพื่อนของผม”
ตอนที่พูดแบบนั้น เบอร์เกนก็หันไปมองฟางยู่เชินอย่างลึกซึ้งทีหนึ่ง
ส่วนฟางยู่เชินนั้นได้เชิดคางขึ้น วางท่ามั่นอกมั่นใจ
เจียงสื้อสื้อที่ควรจะกังวล พอเห็นท่าทางของฟางยู่เชินเข้า เธอก็อดไม่ได้ที่จะขำออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!