วันต่อมา เจียงสื้อสื้อตื่นมาตั้งแต่เช้า
ฟางยู่เชินกลับบ้านหลังจากที่ออกกำลังกายตอนเช้าเสร็จ พอเห็นเธอตื่นแล้ว เขาก็รู้สึกสงสัย “ทำไมวันนี้ถึงตื่นเช้าขนาดนี้ล่ะ?”
“วันสองวันนี้ฉันอยากไปเฝ้าที่สนามบินค่ะ”
ถ้าคนที่เฝ้าอยู่ตรงสนามบินเกิดหลับหรือเผลอจนทำให้ซ่างกวนหยวนจากไปได้ แบบนั้นมันก็จะยุ่งยากขึ้นมาทันที
เธออยากไปเฝ้าด้วยตนเอง
“สื้อสื้อ นี่กำลังเธอไม่เชื่อใจฉันอยู่” ฟางยู่เชินทำหน้าจนใจ
เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า “พี่คะ มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันแค่……แค่คิดถึงเฟิงเฉินมากๆ ก็เท่านั้น”
“สื้อสื้อ ฉันรู้ว่าเธอคิดถึงเฟิงเฉิน แต่การที่เธอไปอยู่ตรงนั้น ถ้าทั้งสองฝ่ายเกิดปะทะกันขึ้นมา ทุกคนยังต้องคอยพะวงเรื่องที่จะปกป้องเธออีก เธอเคยนึกถึงเรื่องนี้บ้างมั้ย?”
“ฉันจะรออยู่ในรถไม่ออกไปไหนค่ะ”
ไม่ว่าฟางยู่เชินจะห้ามยังไง เจียงสื้อสื้อก็ยังดึงดันที่จะไปสนามบินให้ได้
เมื่อไม่มีทางเลือก ฟางยู่เชินจึงต้องรับปากไป “ก็ได้ เดี๋ยวฉันจะส่งคนไปคอยปกป้องเธอแล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะ พี่ชาย” เจียงสื้อสื้อรู้สึกซาบซึ้งมาก
“การที่เธอดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ก็ถือเป็นการขอบคุณที่ดีที่สุดแล้ว” ฟางยู่เชินลูบหัวของเธอ แล้วขึ้นเดินขึ้นข้างบนไปอย่างรวดเร็ว
ถึงต่อหน้าเขาจะรับปากเจียงสื้อสื้อไป แต่พอเอาเข้าจริง เขาก็ไม่อยากให้เธอไปที่สนามบินอยู่ดี
พอเข้าไปในห้องเขาก็รีบโทรหาเหลียงซินเวยทันที
พอทางนั้นรับสาย เขาก็พูดเข้าประเด็นทันที “เวยเวย ตอนนี้คุณช่วยโทรหาสื้อสื้อ บอกเธอว่าคุณรู้สึกไม่ดี อยากให้เธอไปอยู่เป็นเพื่อน”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?” สามารถฟังออกจากน้ำเสียงของเขาว่ากำลังร้อนรนอยู่ เหลียงซินเวยจึงถามไปด้วยเป็นความเป็นห่วง
“ตอนนี้ผมบอกรายละเอียดกับคุณไม่ได้ อีกวันสองวันผมค่อยไปหาคุณ แล้วเล่าให้คุณฟังนะครับ”
เขาถึงกับพูดมาแบบนั้นแล้ว เหลียงซินเวยก็ไม่อยากถามต่ออีก “ค่ะ ฉันจะโทรหาพี่สื้อสื้อตอนนี้เลยค่ะ”
พอวางสายไป เหลียงซินเวยก็โทรหาเจียงสื้อสื้อทันที
ระหว่างที่รอเจียงสื้อสื้อรับสายนั้น เหลียงซินเวยก็คิดอยู่ว่าจะบอกเธอว่าตัวเองไม่สบายใจยังไง
“เวยเวย”
เสียงที่จู่ๆ ก็ดังขึ้น ทำเอาเหลียงซินเวยตกใจจนสะดุ้ง ทันใดนั้น เธอก็เพิ่งรู้ว่าโทรติดแล้ว จึงรีบพูดไปว่า “พี่สื้อสื้อคะ”
“เธอโทรมาหาฉันเช้าขนาดนี้มีอะไรรึเปล่า?”
เหลียงซินเวยเงียบไปพักหนึ่ง จึงได้พูดต่อไปว่า “พี่สื้อสื้อ วันนี้พี่ว่างมั้ยคะ”
“ไม่น่าจะว่างนะ มีอะไรรึเปล่า?” เจียงสื้อสื้อกัดขนมปังไปคำหนึ่ง เคี้ยวไปก็รอคำตอบจากเหลียงซินเวยไป
“ฉะ……ฉันเจอปัญหานิดหน่อยค่ะ รู้สึกไม่สบายใจเลย เลยอยากคุยกับพี่หน่อยค่ะ”
เพื่อทำให้น้ำเสียงของตัวเองน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น เหลียงซินเวยจึงตั้งใจกดเสียงให้ต่ำลง
“เกิดอะไรขึ้น?” เจียงสื้อสื้อรีบถามไปด้วยความเป็นห่วง
“ฉันอยากพูดกับพี่ต่อหน้าค่ะ” เจียงสื้อสื้อลังเล
ตอนแรกเธอตั้งใจว่าวันนี้จะไปที่สนามบินแล้ว แต่จะไม่ให้สนใจเวยเวยเลยก็ไม่ได้
จากนิสัยของเวยเวย ถ้าไม่เจอกับปัญหาอะไรเข้าจริงๆ ก็คงไม่มารบกวนเธอหรอก
หลังไตร่ตรองอยู่นาน เจียงสื้อสื้อก็ตัดสินใจที่จะไปหาเวยเวยดีกว่า
เหมือนกับที่พี่ชายพูด การที่เธอไปอยู่ที่สนามบิน ก็มีแต่จะทำให้พวกเขาเสียสมาธิเท่านั้น
“เวยเวย เดี๋ยวฉันกินข้าวเช้าเสร็จก็จะไปหาเธอเลย”
เนื่องจากเธอเงียบไปพักหนึ่ง เหลียงซินเวยจึงนึกว่าเธอไม่ยอมมา พอได้ยินคำตอบจากเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเซอร์ไพรส์
และรู้สึกละอายใจไปพร้อมๆ กัน
เพราะกำลังหลอกเธออยู่
“ค่ะ ฉันรอพี่อยู่นะคะ”
เหลียงซินเวยไม่กล้าพูดอะไรมาก จึงรีบวางสายไป
เธอถอนหายใจออกมายาวๆ แล้วพึมพำออกมาว่า “พี่สื้อสื้อ ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกพี่เลย”
หวังว่าจุดประสงค์ที่พี่ฟางขอให้เธอทำแบบนี้จะเป็นเรื่องที่ดีนะ
ไม่อย่างนั้น เธอก็คงต้องรู้สึกผิดกับพี่สื้อสื้อมากแน่ๆ
……
ฟางยู่เชินเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ลงไปข้างล่างพอเห็นเจียงสื้อสื้อกำลังกินข้าวเช้าอยู่ จึงได้พูดไปว่า “เดี๋ยวฉันจะส่งเธอไปที่สนามบินนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!