ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 1277

สรุปบท บทที่1277 ทำไมต้องโกหกผมด้วย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

ตอน บทที่1277 ทำไมต้องโกหกผมด้วย จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่1277 ทำไมต้องโกหกผมด้วย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่เขียนโดย เมียวเมียว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

"ท่านประธาน เกิดเรื่องแล้วครับ!"

ส้งหยาววิ่งเข้ามาในห้องทำงานของประธานพร้อมกับแท็บแล็ตในมือ

ฟางยู่เชินขมวดคิ้วแน่น วางเอกสารลง แล้วบ่นไปว่า "มีเรื่องอะไร ทำไมถึงต้องร้อนรนขนาดนั้นด้วย?"

"ท่านประธานครับ คุณดูนี่สิครับ" ส้งหยาวไม่อยากเสียเวลาอธิบาย แล้วยื่นแท็บแล๊ตให้เขาไป

ฟางยู่เชินรับมันไว้ สิ่งที่ปรากฏในจอคือภาพที่เย่เสี่ยวอี้ถือขวดเหล้าที่แตกร้าวพุ่งเข้าหาเหลียงซินเวย สีหน้าของเขาซีดไปเลย

เขาเลื่อนคลิปไปข้างหน้า แล้วดูคลิปทั้งหมดไปรอบหนึ่ง

"นี่มันเรื่องอะไรกัน?" พอดูจบ สีหน้าของเขาก็บึ้งตึงอย่างถึงที่สุด

ส้งหยาวตอบไปตามตรง "นี่เป็นคลิปที่จู่ๆ ก็ถูกโพสต์ลงในโซเชียล ตอนนี้ในโซเชียลเอาแต่พูดถึงเรื่องนี้ ที่สำคัญ......"

เขาหยุดพูดกะทันหัน สีหน้าที่ลำบากใจของเขาทำให้ฟางยู่เชินรู้สึกหงุดหงิด จึงได้สั่งไปว่า "ที่สำคัญอะไร? พูดมา!"

"บนโลกออนไลน์มีแต่คนด่าคุณเหลียงเต็มไปหมด มีแต่คำพูดที่ไม่น่าฟัง บางอันก็ทนอ่านไม่ได้เลยครับ"

พอฟางยู่เชินได้ยินแบบนั้น ก็รีบเปิดดูคอมเมนท์ใต้คลิปทันที

แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ มีแต่คำด่าที่มีต่อเหลียงซินเวยทั้งนั้น

"เมียน้อยนี่มันต่ำจริงๆ ไปทำลายความรักของคนอื่น สมควรแล้วที่โดนแบบนี้"

"มันต้องแบบนี้แหละ พวกเมียน้อยในตอนนี้มันหน้าด้านมาก ต้องสั่งสอนมันให้สาสม"

"เมียน้อยมันหน้าด้านหน้าทน ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะกรีดหน้ามันให้เละเลย"

......

ยังมีคำพูดที่หยาบคายกว่านี้ ฟางยู่เชินทนอ่านต่อไปไม่ได้ จึงวางแท็บแล็ตลงบนโต๊ะ

เขาทำใจให้เย็นลง แล้วค่อยพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มลึกว่า "รีบประชาสัมพันธ์ออกไป จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยซะ"

"ครับ" ส้งหยาวรับคำสั่งแล้วเดินดุ่มๆ ออกไป

ฟางยู่เชินนึกขึ้นได้ว่าที่มือของเหลียงซินเวยนั้นได้รับบาดเจ็บจริงๆ

แต่เธอบอกเขาว่า เป็นแผลที่ถูกลวกโดยไม่ทันระวัง

ถ้าไม่ใช่เพราะคลิปนี้ เขาก็ไม่มีทางรู้เลยว่าเย่เสี่ยวอี้ไปหาเธอ และยังทำร้ายเธอด้วย

เด็กโง่คนนี้นี่ ถึงขั้นปิดบังเรื่องใหญ่ขนาดนี้กับเขาได้

พอคิดถึงตรงนี้ เขาก็รู้สึกเป็นห่วง ทนดูเรื่องนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป

......

เหลียงซินเวยกลับมาที่บ้าน เดินไปนั่งที่ห้องรับแขก ในหัวก็นึกถึงคำถามที่พวกนักข่าวนั้นถามมา

"คุณเหลียงคะ สรุปคือคุณไปให้ท่าฟางยู่เชินรึเปล่าคะ?"

"คุณเคยคิดบ้างมั้ยคะว่าคุณเป็นแค่เมียน้อยที่ไม่มีหน้าไปพบใคร แถมยังเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ตระกูลฟางไม่มีทางยอมรับคุณได้แน่นอน และยังบอกว่าคุณแค่เห็นแก่เงินเท่านั้น?"

"คุณเหลียงคะ เรื่องในครั้งนี้มันใหญ่โตขนาดนี้ คุณคิดจะทำยังไงต่อคะ? คิดจะเลิกกับฟางยู่เชิน หรือยังดึงดันที่จะคงความสัมพันธ์ที่บอกใครไม่ได้นี้ต่อไปคะ?"

คำพูดทุกคำของพวกเขามันแทงเข้ามาในใจของเธออย่างแรง

มันทรมาน

ความจริงมันไม่ใช่อย่างที่พวกเขาเข้าใจเลย แต่เธอมีแค่ปากเดียว ไม่รู้ว่าจะตอบโต้หรืออธิบายยังไงดี ได้แต่ปล่อยสถานการณ์ในโลกโซเชียลให้เลวร้ายลงไปเรื่อยๆ

ไม่ต้องเข้าไปดู ก็พอจะรู้ว่าในโลกออนไลน์นั้นด่าเธอได้หยาบคายแค่ไหน

แต่พวกเขากลับลืมไปว่า เย่เสี่ยวอี้นั้นทำร้ายร่างกายเธอ

แต่เดิมในสังคมก็ค่อนข้างอ่อนไหวกับพวกเมียน้อยอยู่แล้ว และเธอก็ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเมียน้อยพอดี

ดังนั้น สิ่งที่เธอต้องพบเจอในตอนนี้ มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

แต่ว่า......

เธอยกมือขึ้นมากุมหน้า รู้สึกราวกับกำลังมีหินก้อนใหญ่ทับอยู่บนอก อึดอัดจนหายใจไม่ออก

เธอไม่สนใจว่าคนอื่นจะด่าเธอว่ายังไง สนใจแค่ว่าความรักของเธอกับฟางยู่เชินจะดำเนินต่อไปเท่านั้น

ตราบใดที่การคลุมถุงชนของตระกูลฟางกับตระกูลเย่ไม่ถูกยกเลิก พวกเธอก็ยังจะถูกผู้คนตามด่าต่อไป เหมือนเหตุการณ์ในครั้งนี้

กว่าพวกเธอจะได้คบกันมันไม่ง่ายเลย เธอทำใจยอมแพ้ไม่ได้จริงๆ

ในตอนที่เธอรู้สึกอับจนหนทางไม่รู้จะทำยังไงอยู่นั้นเอง จู่ๆ เสียงมือถือก็ได้ดังขึ้น ทำเธอตกใจจนสะดุ้ง

ฟางยู่เชินที่โทรมา

เธอรีบรับสายทันที "ยู่เชิน"

เธอยิ้มออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

ฟางยู่เชินขมวดคิ้วเล็กน้อย "คุณยิ้มอะไรครับ?"

"ไม่มีอะไรค่ะ แค่เห็นคุณแล้วมันก็รู้สึกดีเท่านั้น"

เหลียงซินเวยหลบออก เพื่อให้เขาเข้ามา

ทันทีที่ประตูปิดลง ฟางยู่เชินก็ดึงเธอมากอดไว้ในอ้อมกอด

"ขอโทษครับ ที่ทำให้คุณต้องลำบาก" เขาแนบอยู่ที่หูเขา แล้วพูดออกมาเบาๆ

น้ำเสียงมีแต่ความรู้สึกผิด

ตอนแรกบรรดาคำถามที่ทิ่มแทงของพวกนักข่าวก็ไม่ได้ทำให้เธอต้องร้องไห้ แต่พอได้ยินคำพูดของเขาแค่คำเดียวเธอก็ร้องไห้ออกมาทันที

เสียงสะอื้นดังขึ้น ฟางยู่เชินรู้สึกหวงแหนเธอมากยิ่งกว่าเดิม กอดเธอไว้แน่น ราวกับจะเอาเธอผสานเข้ามาในร่างกายยังไงอย่างนั้น

ทั้งคู่กอดกันอย่างเงียบๆ ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ อารมณ์ของเหลียงซินเวยถึงได้สงบลง

"สภาพจิตใจดีขึ้นบ้างมั้ยครับ?"

ฝ่ามือใหญ่ๆ ลูบไปที่ผมของเธอเบาๆ ฟางยู่เชินถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

"ค่ะ" น้ำเสียงที่อึดอัดของเหลียงซินเวยดังขึ้น

ฟางยู่เชินปล่อยมือออก จับมือข้างหนึ่งของเธอไว้ ดึงแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นแผลที่ถูกผ้าพันแผลพันไว้

ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง "ทำไมคุณถึงต้องโกหกผมด้วยครับ?"

"ขอโทษค่ะ" เหลียงซินเวยพูดขอโทษออกมาเบาๆ

ฟางยู่เชินเงยหน้าขึ้น มุมปากยิ้มออกมาด้วยความจนใจ "เวยเวย ผมไม่อยากฟังคำขอโทษจากคุณ ผมแค่อยากรู้ว่าทำไมตอนนั้นคุณถึงไม่ยอมพูดความจริงกับผมเท่านั้น?"

"เพราะว่า......" เหลียงซินเวยเม้มปาก "ฉันไม่อยากทำให้คุณเป็นห่วงค่ะ"

"แต่ตอนนี้ผมก็เป็นห่วงคุณหนักกว่าเดิมแล้วไม่ใช่รึไง?" ฟางยู่เชินถอนหายใจออกมา "เวยเวยในเมื่อเราเลือกที่จะคบกันแล้ว เราก็ไม่ควรมีเรื่องที่ต้องปิดบังกันอีก"

เหลียงซินเวยกัดริมฝีปาก และไม่ได้พูดอะไร

กลัวเธอจะรู้สึกแย่ ฟางยู่เชินจึงได้พูดเสริมไปว่า "ผมไม่ได้ตำหนิคุณ คุณเป็นแฟนของผม การปกป้องคุณมันเป็นหน้าที่ของผม ผมไม่ควรทำให้คุณได้รับอันตรายแม้แต่นิดเดียว"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!