ที่จริงแล้วความสมดุลในหัวใจของจิ้นเฟิงเฉินนั้นได้เอนเอียงไปทางเจียงสื้อสื้อนานแล้ว แต่ว่าในตอนนั้นเป็นซ่างกวนหยวนที่ช่วยชีวิตเขาไว้
บุญคุณในครั้งนั้นทำให้เขาไม่กล้าที่จะทำร้ายเธอ
เจียงสื้อสื้อเห็นความลังเลในแววตาของเขา เธอยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นเล็กน้อย "คุณไม่อยากทำให้ซ่างกวนหยวนเสียใจ แต่คุณเคยคิดบ้างไหม ว่าคุณกำลังทำร้ายฉันกับลูกของเราอยู่"
จิ้นเฟิงเฉินกำหมัดแน่น "แต่ว่า... ผมจำพวกคุณไม่ได้เลย"
พอได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเจียงสื้อสื้อก็เย็นชาขึ้นมาทันที "แค่คำว่าคุณจำอะไรไม่ได้แล้วก็จบทุกอย่างได้เหรอคะ จิ้นเฟิงเฉิน คุณโหดร้ายเกินไปแล้ว"
คำพูดของเธอที่ว่า "คุณโหดร้ายเกินไป" ทิ่มแทงหัวใจของจิ้นเฟิงเฉินอย่างแรง
เขาอ้าปากขึ้นเล็กน้อย เหมือนต้องการจะพูดอะไร แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้าลึก "จิ้นเฟิงเฉิน เราผ่านอุปสรรคอะไรด้วยกันมามากขนาดนั้น คุณจะลืมมันไปได้ยังไงคะ?"
เจียงสื้อสื้อน้ำตาไหลริน เธอกัดริมฝีปากแน่นไม่ยอมปล่อยให้เสียงร้องไห้ของตัวเองดังออกมา
เธอร้องไห้ หัวใจของเขาเจ็บมาก ราวกับว่ามีใครกำลังใช้มีดแทงเข้าที่หัวใจของเขา
"เฟิงเฉินคะ กลับมาหาฉันและลูกเถอะนะคะ" น้ำเสียงของเจียงสื้อสื้ออ่อนลง
"ขอโทษครับ" จิ้นเฟิงเฉินพูดสามคำนี้ออกมาอย่างยากลำบาก
ที่เขาพูดคำขอโทษนี้ เพราะเขาได้สัญญากับผู้หญิงอีกคนไว้แล้วเช่นกัน
เขาไม่เคยมีความต้องการที่จะฟื้นความทรงจำของตัวเองรุนแรงถึงขนาดนี้มาก่อน
เจียงสื้อสื้อหัวเราะออกมา แต่น้ำตากลับไหลแรงขึ้น เธอยกมือขึ้นเช็ดอย่างแรง "จิ้นเฟิงเฉิน คุณกล้ามาก"
จิ้นเฟิงเฉินกำลังพยายามข่มความรู้สึกอยากที่จะดึงเธอเข้ามากอด แล้วหลับตาลง "ผมขอโทษจริงๆ"
"ฉันบอกแล้ว ว่าฉันไม่ต้องการคำขอโทษ!" เจียงสื้อสื้อโมโหขึ้นมาทันที
"คุณบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงที่คุณรักที่สุด จะไม่ยอมให้ฉันต้องรู้สึกเสียใจแม้แต่นิดเดียว"
"ผม..."
จิ้นเฟิงเฉินตั้งใจจะพูด แต่กลับถูกเจียงสื้อสื้อขัดขึ้นมาก่อน "ไม่ต้องมาพูดว่าคุณความจำเสื่อม ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายจริงๆ ก็ควรจะพูดแล้วทำให้ได้ตามที่พูด!"
พูดแล้วต้องทำตามที่พูดอย่างนั้นเหรอ
จิ้นเฟิงเฉินไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาก็อยากพูดแล้วต้องทำตามที่พูด แต่เขาจำไม่ได้จริงๆ
เจียงสื้อสื้อสูดน้ำมูก "ยังไงคุณก็ต้องรักษาสัญญา ห้ามแต่งงานกับซ่างกวนหยวนเด็ดขาด"
"คุณเจียง…" จิ้นเฟิงเฉินทำอะไรไม่ถูก
"เรียกฉันว่าสื้อสื้อ" เจียงสื้อสื้อสั่ง
จิ้นเฟิงเฉินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปลี่ยนคำเรียก "สื้อสื้อ"
ในที่สุดก็ได้ยินเขาเรียกเธอแบบเดิมสักที น้ำตาของเจียงสื้อสื้อไหลออกมาอีกครั้ง
"อย่าร้องไห้เลยครับ" จิ้นเฟิงเฉินลุกขึ้น แล้วเดินไปหยิบทิชชู่สองสามแผ่น ก่อนจะเดินไปเช็ดน้ำตาของเธอ
"คุณยังห่วงฉันอยู่ ใช่ไหมคะ" เจียงสื้อสื้อจับมือเขาไว้
จิ้นเฟิงเฉินคิดจะดึงมือกลับ แต่เธอจับไว้แน่น เขาทำได้เพียงถอนหายใจออกมา แล้วไม่พูดอะไร
"ฉันรู้ว่าคุณห่วงฉันอยู่ ดังนั้นคุณช่วยฟังเสียงหัวใจของคุณเองได้ไหมคะ" เจียงสื้อสื้อเอ่ยพูดอ้อนวอน
เสียงหัวใจของเขาอย่างนั้นเหรอ
จิ้นเฟิงเฉินหลับตาลง "ผมไม่ปฏิเสธว่าผมห่วงใยคุณกับลูกจริงๆ แต่ว่า... เพราะความจำเสื่อม ผม ... "
"คุณกำลังจะบอกว่า คุณไม่สามารถทำร้ายซ่างกวนหยวนได้ใช่ไหมคะ"
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ตอบคำถามของเธอโดยตรง แต่กลับพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ฉันจะพยายามจำเรื่องราวในอดีตให้ได้โดยเร็วที่สุด"
พอได้ยินแบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็ขมวดคิ้วขึ้น "คุณคิดว่าคุณจะจำได้เหรอคะ"
"แน่นอนครับ"
เจียงสื้อสื้อมองหน้าเขาสักพัก ก่อนที่จะถามด้วยสีหน้าสงสัย "คุณเคยจำอะไรได้บ้างไหมคะ?"
"ไม่เลยครับ"
เขาตอบเร็วเกินไป เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป จึงถามต่อ "ถ้าคุณไม่พูดความจริง อาการของฉันที่ดีขึ้นบ้างแล้ว อาจจะโกรธจนเป็นลมไปอีกครั้งค่ะ"
เป็นลมอย่างนั้นเหรอ
จิ้นเฟิงเฉินนึกถึงฉากที่เห็นเธอเป็นลมในงานแต่งงาน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที "อย่าโกรธนะครับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!