ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 1313

สรุปบท บทที่1313 เธอคือภรรยาของฉัน: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

บทที่1313 เธอคือภรรยาของฉัน – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

ตอนนี้ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่1313 เธอคือภรรยาของฉัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เพล้ง!

แก้วน้ำหล่นลงพื้น แตกกระเด็นออกเป็นชิ้น ๆ

เจียงสื้อสื้อส่งเสียงอุทานแล้วก้มตัวลงจะเก็บมัน

จิ้นเฟิงเฉินที่เห็นดังนั้นก็รีบดึงเธอเอาไว้ "รอก่อน ฉันทำเอง"

เจียงสื้อสื้อแววตาวูบไหวเล็กน้อย เธอพูด "ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันเก็บเอง"

ขณะที่ทั้งสองกำลังแย่งกันเก็บเศษแก้ว จิ้นเฟิงเฉินก็ร้องโอดโอยออกมา

มือของเขาถูกบาดเข้าแล้ว

เจียงสื้อสื้อหน้าถอดสี คว้ามือของเขาไว้ เธอเห็นเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลแล้วถามขึ้น "ทำไมไม่ระมัดระวังเอาซะเลย?"

"ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่แผลเล็ก ๆ เอง" จิ้นเฟิงเฉินยิ้มให้เธออย่างปลอบโยน

เจียงสื้อสื้อเหลือบมองเขาอย่างโกรธเคือง "เลือดไหลแล้วยังจะบอกว่าไม่เป็นไรอีก"

เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋าช่วยเขาเช็ดเลือดอย่างเบามือ แล้วหยิบพลาสเตอร์ยาออกมาแปะให้เขาอย่างระมัดระวัง

เธอเอ่ยขอโทษภายในใจอย่างเงียบ ๆ

สายตาของจิ้นเฟิงเฉินจับจ้องที่ดวงหน้างดงามของเธอ ก็อดมองอย่างเคลิบเคลิ้มไม่ได้

"เสร็จแล้ว" เมื่อเจียงสื้อสื้อแปะพลาสเตอร์ลงบนแผลของเขาเสร็จแล้วก็เงยหน้าขึ้นและได้มองเข้าไปในแววตาลึกซึ้งของเขา เธออึ้งไปเล็กน้อยก่อนได้สติกลับมาในทันทีโค้งขึ้น "ทำไมมองฉันอย่างนั้นล่ะ?"

จิ้นเฟิงเฉินถูกเสียงของเธอดึงสติกลับมา เขารีบละสายตา หูแดงเรื่อขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

เจียงสื้อสื้อเมื่อเห็นเข้าก็หลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

เธอก้มหน้ามองผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดในมือแล้วถอนหายใจลับ ๆ ต้องการได้เลือดของเขามา ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายก็มากไปหน่อย

เธอเก็บผ้าเช็ดหน้าลงในกระเป๋าแล้วหยิบตะเกียบคีบซี่โครงหมูใส่ในถ้วยของเขา "นายผอมหมดแล้ว กินเยอะ ๆ หน่อย"

จิ้นเฟิงเฉินเหลือบมองเธอเล็กน้อย หัวเราะเบา ๆ "เธอเองก็กินเยอะ ๆ"

เจียงสื้อสื้อพยักหน้า "อื้ม"

......

เมื่อกินเสร็จและออกมาจากร้านอาหาร เสี่ยวเป่าและเถียนเถียนก็นึกว่าจะต้องแยกกับจิ้นเฟิงเฉินแล้ว ทั้งสองคนดึงมือของเขาไว้ซ้ายข้างขวาข้าง ดวงหน้าน้อย ๆ อ่อนเยาว์ทั้งสองนั้นใกล้จะร้องไห้ออกมาแล้ว

เมื่อเห็นฉากนั้น เจียงสื้อสื้อก็ปวดใจ ขอบตาเปียกชื้นขึ้นมาเล็กน้อย

เธอยกยิ้มแล้วเอ่ยถามเบา ๆ "เสี่ยวเป่า เถียนเถียน พวกหนูเป็นอะไรไปจ้ะ?"

"หนูไม่อยากแยกจากกับแด๊ดดี้" เถียนเถียนพูดเสียงเบา

"ผมก็เหมือนกัน" เสี่ยวเป่าเห็นด้วย

เจียงสื้อสื้อเงยขึ้นมองไปทางจิ้นเฟิงเฉิน

เห็นเขาเองก็มีสีหน้าอาวรณ์เช่นกัน

"หรือว่าพวกเธออยากไปเที่ยวที่ไหนอีกไหม? ฉันไปด้วยได้นะ" จิ้นเฟิงเฉินพูด

เขาเองก็อาลัยอาวรณ์ที่จะแยกจากพวกเขาเช่นเดียวกัน ถ้าทำได้ เขาก็อยากจะอยู่ข้างกายพวกเขาไปตลอด

"พวกลูกอยากไปไหนจ้ะ?" เจียงสื้อสื้อถามเด็กน้อยทั้งสอง

เด็กน้อยทั้งสองมองกันไปมาแล้วคิดกันอย่างจริงจัง

พักไปครู่หนึ่ง เถียนเถียนก็ยกมือขึ้น "หนูอยากไปพิพิธภัณฑ์ค่ะ"

"พิพิธภัณฑ์?" เจียงสื้อสื้อค่อนข้างประหลาดใจ ตอนแรกเธอคิดว่าพวกเขาจะอยากไปสวนสนุกเสียอีก

"อื้ม" เถียนเถียนพยักหน้าแรง ๆ

จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม "โอเค งั้นเราไปพิพิธภัณฑ์กัน"

ระหว่างทางไปพิพิธภัณฑ์ เถียนเถียนกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูเจียงสื้อสื้อ "หม่ามี๊ ในพิพิธภัณฑ์จะมีภาพที่คุณพ่อชอบไหมคะ?"

เจียงสื้อสื้อพลันเดาอะไรได้บางอย่าง เธอหลุดหัวเราะอย่างอดไม่ไหว "เพราะงั้นที่พวกลูกอยากไปพิพิธภัณฑ์ ก็เพราะแด๊ดดี้เหรอจ้ะ?"

เสี่ยวเป่าส่งเสียง "อื้ม" เบา ๆ "ถ้าแด๊ดดี้ได้เห็นของที่ชอบแล้วอาจจะนึกอะไรขึ้นมาได้ก็ได้"

เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าความคิดของเด็กน้อยทั้งสองช่างไร้เดียงสาเสียจริง แต่ก็ไม่ใจแข็งพอจะทำให้พวกเขาผิดหวังอีก

เธอลูบหัวน้อย ๆ ของพวกเขาอย่างอ่อนโยน "พวกหนูสุดยอดมากจ้ะ"

อีกฝ่ายพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม "ได้จ้ะ"

เจียงสื้อสื้อและจิ้นเฟิงเฉินสบตากันเล็กน้อยแล้วเข้ามาใกล้กัน

"แด๊ดดี้ กอดหม่ามี๊ไว้สิคะ" เถียนเถียนตะโกนขึ้น

รอบ ๆ นั้นเงียบมาก เมื่อเธอตะโกนออกมาแบบนั้น ทุก ๆ คนจึงหันมามองกันหมด

รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเป้าสายตา เจียงสื้อสื้อทำตัวไม่ถูก เธอเอ็ดเบา ๆ "เถียนเถียน อย่าเสียงดังขนาดนั้นสิ จะรบกวนคนอื่นเขานะ"

เถียนเถียนมุ่ยปากด้วยความน้อยใจ "หนูก็แค่อยากให้แด๊ดดี้กอดหม่ามี๊เท่านั้นเอง"

จิ้นเฟิงเฉินจะทนเห็นเถียนเถียนน้อยใจได้ที่ไหน เขาจึงโอบเอวเจียงสื้อสื้อเข้ามาใกล้ตัวเองอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง

เจียงสื้อสื้อหันไปมองเขาอย่างค่อนข้างประหลาดใจ

ก็เห็นเขาเลิกคิ้วขึ้น "เธอคือภรรยาของฉัน ไม่มีอะไรไม่เหมาะสมสักหน่อย"

เจียงสื้อสื้อยิ้ม "ไม่แน่นอนอยู่แล้ว"

คนถ่ายที่เห็นฉากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกดชัตเตอร์ พวกเขาทุกคนดูดีมาก ภาพที่มองกันและกันด้วยความรักอันลึกซึ้งนั้นสวยงามมากจริง ๆ

เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินถ่ายรูปกันอีกหลายรูป ตอนที่ได้เห็นรูปภาพ อารมณ์ของเจียงสื้อสื้อค่อนข้างซับซ้อน

ในภาพ รอยยิ้มอย่างดีใจและมีความสุขมาก

ส่วนเขานั้นแม้ว่าจะแค่ยกยิ้มที่มุมปาก แต่ก็ดูออกว่าเขาเองก็ดีใจมาก

เธอหวังให้เวลาหยุดอยู่ที่ตรงนี้ เขาที่ต้องกลับไปตระกูลซ่างกวน จะได้อยู่กับเธอและลูกตลอด

เมื่อออกมาจากพิพิธภัณฑ์ ก็ช่วงค่ำแล้ว

เวลาที่ต้องแยกจากมาถึงแล้ว

ความสุขที่มีทั้งหมดก่อนหน้านี้ได้อันตรธานหายไป เสี่ยวเป่าและเถียนเถียนขอบตาแดงเป็นกระต่ายไปแล้ว

"เสี่ยวเป่า เถียนเถียน" จิ้นเฟิงเฉินย่อตัวลง ยกมือลูบหัวน้อย ๆ ของพวกเขาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "พ่อจะมาหาพวกหนูอีกนะ"

"แด๊ดดี้" เสี่ยวเป่าและเถียนเถียนโผเข้าสู่อ้อมกอดของเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!