"พวกเขา......"
ซ่างหยิงคิดจะโต้แย้งเธอ แต่คำพูดติดอยู่ที่มุมปาก ถึงได้พบว่าพัวพันกับปัญหานี้ไปตลอดก็ไม่มีประโยชน์อะไร
เธอจึงพูดไปเลย "ต่อให้ยู่เชินไม่แต่งงานกับเสี่ยวอี้ เราก็ไม่ยอมรับเธอ"
ความหมายของเธอแสดงออกมาได้อย่างชัดเจน
เหลียงซินเวยเองก็เข้าใจแล้ว เธอก้มหน้าลงแล้วเอ่ยเสียงเบา "คุณน้า ฉันนึกว่าคุณเป็นคนที่มีเหตุผลมาตลอด แต่ไม่คิดว่าคุณจะอคติต่อฉันมากถึงขนาดนี้"
"ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีเหตุผล ขอเพียงเธอออกไปจากยู่เชิน ฉันจะให้เธอกลับไปทำงานที่ห้องอาหารทันที"
นี่คือเงื่อนไขของซ่างหยิง
แต่เหลียงซินเวยไม่อยากประนีประนอม "คุณน้า ฉันรักยู่เชิน ดังนั้นขอโทษด้วยค่ะ ที่ไม่มีทางตอบรับเงื่อนไขของคุณได้"
เธอโค้งตัวแล้วหันตัวสาวเท้าจากไป
มองดูภาพแผ่นหลังของเธอที่จากไป ซ่างหยิงโมโหจนหัวเราะออกมา นี่เธอหมายความอะไร? ยังจะไม่ยอมออกห่างจากยู่เชินใช่ไหม?
"น้าสะใภ้เล็กคะ" บทสนทนาของพวกเขา เจียงสื้อสื้อได้ยินหมดแล้ว "ทำไมคุณถึงทำลายงานของเวยเวยล่ะคะ?"
"ทำไม? เธออยากจะพูดแทนเขาอย่างนั้นเหรอ?" ใบหน้าของซ่างหยิงเปี่ยมด้วยความเย็นชา
เจียงสื้อสื้อส่ายหัว "ฉันไม่อยากจะพูดแทนเขาหรอกค่ะ แต่คุณทำขนาดนี้ไม่ค่อยเหมาะสมจริง ๆ ทำเกินไปหน่อยนะคะ"
เข้าใจความรู้สึกของที่เธอรักลูกชายอย่างแรงกล้า แต่ก็ไม่ควรทำให้เวยเวยลำบาก
ซ่างหยิงแค่นเสียงอย่างเย็นชา "ฉันอาจจะทำได้ไม่ถูกต้องนัก แต่ก็เป็นเพราะหล่อนบังคับฉัน หากหล่อนยอมออกจากยู่เชินแต่โดยดี ฉันจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ไม่ใช่เหรอ?"
เธอก็ไม่อยากทำตัวเป็นคนเลว หากไม่ใช่ถูกบังคับจนไม่มีทางเลี่ยง!
"แต่คุณเคยคิดบ้างไหมคะ ถ้าหากพี่เขารู้เข้า เขาจะโกรธมากแค่ไหน"
ด้วยความรู้สึกที่พี่ชายมีต่อเวยเวย เจียงสื้อสื้อคิดว่าหากเขารู้เรื่องนี้แล้ว จะต้องเกิดผลลัพธ์ในทางตรงกันข้ามแน่นอน
"เขา......เขาจะสามารถทำอะไรฉันได้?" ที่จริงซ่างหยิงไม่แน่ใจ แต่ปากก็ยังคงไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมา
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจ "น้าสะใภ้เล็กคะ บางเรื่องเมื่อทำถึงจุดที่เหมาะสมแล้วก็สมควรจะหยุด จะเป็นผลดีต่อทุกคนมากกว่านะคะ "
"ขอเพียงหล่อนออกไปจากยู่เชิน จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น"
เมื่อพูดประโยคนี้จบ ซ่างหยิงเดินตรงดิ่งไปที่ห้องครัว ทิ้งเจียงสื้อสื้อยืนอยู่ที่เดิมคนเดียว ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยสีหน้าจนปัญญา
ดูท่าเส้นทางแห่งความรักของพี่ชายกับเวยเวยจะเดินไปได้ยากเสียแล้ว
เหลียงซินเวยออกมาจากตระกูลฟาง นึกถึงคำพูดพวกนั้นที่ซ่างหยิงเอ่ย น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ไม่เป็นธรรมเลยจริง ๆ
เพราะไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของเธอกับยู่เชิน ก็เลยทำลายงานของเธอตามใจชอบได้
เธอรู้ว่าถ้าเธอนำเรื่องนี้ไปบอกยู่เชิน ยู่เชินจะต้องช่วยเธออย่างแน่นอน
แต่อาจจะทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างเขากับแม่ของเขาได้
พอคิดถึงตรงนี้ เธอยกมือปาดน้ำตา ก็แค่งานงานเดียวไม่ใช่เหรอ?
ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก เธอค่อยหาใหม่ก็ได้ เธอไม่เชื่อว่าจะหางานที่ดีกว่าตอนนี้ไม่ได้
พอคิดแบบนี้ ในใจเธอก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เธอจะไม่แยกจากยู่เชิน
......
สองวันนี้ ซ่างกวนหยวนให้ความสนใจสถานการณ์ของจิ้นเฟิงเฉินมาตลอด
เอ่ยถึงเจียงสื้อสื้ออยู่บ่อย ๆ ทดสอบประสิทธิภาพยาว่าได้ผลหรือเปล่า
ซ่างกวนเชียนมองเข้าไปในดวงตา ในใจเต็มไปด้วยความฉงน
เธอเกลียดเจียงสื้อสื้อที่สุดเลยไม่ใช่เหรอ?
ทำไมสองวันนี้มักจะเอ่ยถึงเขาต่อหน้าจิ้นเฟิงเฉินล่ะ?
เพราะว่าสงสัยมาก ๆ วันนี้เมื่อกินข้าวเย็นเสร็จ เขาก็ขวางซ่างกวนหยวนเอาไว้ เอ่ยปากถามความสงสัยที่อยู่ในใจของตัวเองออกมาตามตรง
"เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย" ซ่างกวนหยวนไม่อยากบอกเขาตามความเป็นจริง
คำตอบเป็นไปอย่างที่คาดไว้
ซ่างกวนเชียนขมวดคิ้ว "หยวนหยวน ตอนนี้เขาอยู่ข้างกายเธอแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องหยั่งเชิงเขาครั้งแล้วครั้งเล่า จะได้ไม่ต้องกลับตาลปัตร"
สีหน้าของซ่างกวนหยวนเย็นชา "ฉันบอกแล้วไงเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย"
พูดจบ เธอก็เดินอ้อมเขา ขึ้นตึกอย่างรีบร้อน
ซ่างกวนเชียนหันศีรษะ มองภาพแผ่นหลังของเธอหายไปที่หัวโค้งบันได มุมปากเผยรอยยิ้มขื่น ออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!