ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 1324

สรุปบท บทที่1324 ลองยา: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

ตอน บทที่1324 ลองยา จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่1324 ลองยา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่เขียนโดย เมียวเมียว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ในที่สุดคุณชายของพวกเขาก็กลับมาแล้ว!

ในใจของโม่เหยียกับหานยู่ตื่นเต้นมาก

"พวกคุณลำบากแล้ว"จิ้นเฟิงเฉินพูดขึ้นหนึ่งประโยคด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

โม่เหยียกับหานยู่ทั้งสองคนรีบส่ายหัวทันที"ไม่ลำบาก พวกเราไม่ลำบากเลยสักนิด"

ตั้งแต่กู้เนี่ยน มาเฟิงเหรา แล้วพวกเขาอีก ทุกคนล้วนแต่พูดว่าไม่ลำบากเลยสักคน

จิ้นเฟิงเฉินจู่ๆ ก็รู้สึกอิจฉาตัวเองก่อนความจำเสื่อมขึ้นมา

ที่มีคนมากมายเต็มใจที่จะรับผิดชอบเรื่องต่างๆ แทนเขาขนาดนี้

"การวิจัยของพวกคุณได้ผลลัพธ์แล้วยัง?"เจียงสื้อสื้อถาม

โม่เหยียกับหานยู่หันหน้ามองกัน พูดตอบกลับไป"ยาใกล้จะวิจัยเสร็จแล้ว น่าจะอีกประมาณสองวันครับ"

พอได้ฟังแบบนั้น เจียงสื้อสื้อก็สีหน้าดีใจ"จริงเหรอ?"

"อื้อ แต่ว่า......"

พอเห็นโม่เหยียกับหานยู่ ใจของเจียงสื้อสื้อก็ประหม่าขึ้นมา รีบถามขึ้นทันที"เป็นอะไรเหรอ? มีปัญหาอะไรหรือไง?"

"ปัญหาก็คือถ้ายายังไม่ได้ผ่านการทดสอบทางสถานพยาบาล ไม่รู้ว่าจะมีผลข้างเคียงอะไรไหม"

โม่เหยียกังวลว่าถ้าเกิดยามีผลกระตุ้นมากเกินไป จะทำให้ร่างกายของจิ้นเฟิงเฉินได้รับความเสียหายที่ไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมได้

เจียงสื้อสื้อหันไปมองจิ้นเฟิงเฉิน เริ่มลังเล

เธออยากพยายามที่จะฟื้นความจำของเขาอย่างสุดความสามารถ แต่ถ้าเกิดสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของเขา เธอทำได้แค่ต้องปล่อยวางละเลิกไป

"ผมอยากลอง"จิ้นเฟิงเฉินพูดขึ้น

เจียงสื้อสื้อรีบห้ามปาม"เฟิงเฉิน!"

กว่าเขาจะกลับมาได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย เธอไม่อยากจะเห็นเขาได้รับความเสียหายอะไรอีกแล้ว

"อย่ากังวลไปเลย ผมจะไม่เป็นอะไรหรอก"จิ้นเฟิงเฉินยิ้มปลอบใจเธอ ก่อนจะหันไปมองโม่เหยียกับหานยู่ พูดขึ้นอย่างแน่วแน่มั่นใจ

"อีกอย่าง ผมเชื่อคนที่ผมเลี้ยงดูปลูกฝังมาว่าจะต้องไม่ทำผิดพลาดแน่นอน"

ความเชื่อใจที่เขามีต่อโม่เหยียกับหานยู่ ทำให้พวกเขารู้สึกซาบซึ้งใจ

"คุณชาย คุณวางใจได้ ผมรับประกันได้เลยว่าสุขภาพของคุณจะต้องแข็งแรงแน่นอน"โม่เหยียพูดสัญญาอย่างหนักแน่น

หานยู่พูดเสริมขึ้นมาต่อ"คุณชาย ผมก็ด้วยครับ"

เจียงสื้อสื้อเม้มปาก มีไอหมอกบางๆ ผ่านเข้ามาในแววตา

มีความเชื่อใจซึ่งกันและกันของพวกเขาแล้ว ยาจะต้องวิจัยออกมาสำเร็จอย่างแน่นอน

......

พวกเจียงสื้อสื้อกลับมาบ้าน ท้องฟ้าก็มืดแล้ว

แม่จิ้นกำลังให้คนรับใช้เตรียมอาหารเย็น พอเห็นพวกเขากลับมา ก็พูดถามขึ้น"พวกลูกสองคนอยากกินอะไร?"

"แม่ หนูกินอะไรก็ได้ค่ะ"

เจียงสื้อสื้อเพิ่งจะตอบเสร็จ จิ้งเฟิงเฉินก็พูดตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติ"คุณชอบกินปลานึ่งไม่ใช่เหรอ? ให้พ่อครัวเตรียมให้ได้นะ"

พอคำพูดนี้ออกมา เขาก็อึ้งตะลึง

เจียงสื้อสื้อกับแม่จิ้นก็อึ้งไปเช่นกัน

ไม่นาน เจียงสื้อสื้อก็ตอบสนองกลับมา พูดถามขึ้น"เฟิงเฉิน คุณคิดอะไรขึ้นมาได้แล้วใช่ไหม?"

จิ้นเฟิงเฉินถูกเสียงของเธอดึงสติกลับคืนมา ส่ายหัวเบาๆ "เปล่า"

"ถ้าอย่างนั้นคุณรู้ได้ยังไงว่าฉันชอบกินอาหารอะไร?"เจียงสื้อสื้อถามขึ้นด้วยความสับสนมึนงงไม่น้อย

"ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็แค่พูดออกมาโดยธรรมชาติแค่นั้น"จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

ในเวลานี้ แม่จิ้นเดินเข้ามา หัวเราะเหอะๆ พร้อมกับพูดขึ้น"ดูท่าเฟิงเฉินน่าจะจดจำลูกเข้าไปในกระดูกแล้วล่ะ"

เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินมองตากัน ทั้งสองคนต่างก็ยิ้มๆ

บางทีอาจจะเป็นแบบที่แม่พูดก็ได้ เขาไม่ได้ลืมสื้อสื้อไปจริงๆ

จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย แฝงไปด้วยความแน่วแน่มั่นใจ ว่าเขาจะต้องพยายามฟื้นความจำกลับมาให้ได้

ภายในเวลาสองวันต่อมา จิ้นเฟิงเฉินเอาแต่พูดเกี่ยวกับสิ่งที่เจียงสื้อสื้อชอบและโปรดปรานออกมาโดยไม่ตั้งใจอยู่บ่อยครั้ง

เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกประหลาดใจทุกครั้ง

เพราะว่าความไม่ตั้งใจในแต่ละครั้ง ล้วนแต่รับประกันได้ว่าเขาไม่ได้ลืมตนเองไปโดยสิ้นเชิง

โม่เหยียเดินไปข้างหน้า เรียกเจียงสื้อสื้อมาข้างๆ พูดกำชับ"คุณหญิง ช่วงนี้คุณต้องดูแลคุณชายให้ดีๆ นะครับ ถ้ามีปัญหาอะไรจะต้องรีบบอกผมกับหานยู่ทันทีเลยนะ"

เจียงสื้อสื้อพยักหน้า"ได้ ฉันเข้าใจแล้ว"

หลังจากที่โม่เหยียไปแล้ว เจียงสื้อสื้อก็กลับมาอยู่ข้างๆ จิ้นเฟิงเฉิน ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่เขา

จิ้นเฟิงเฉินหลุดยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้"คุณจ้องมองผมขนาดนี้ทำไม?"

"ฉันกลัวว่าถ้าคุณเกิดไม่สบายตรงไหน แล้วฉันจะไม่รู้น่ะสิ"เจียงสื้อสื้อตอบกลับไปตรงๆ

จิ้นเฟิงเฉินสีหน้าหมดหนทางไม่น้อย"ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ คุณไม่ต้องเป็นห่วง"

"ถ้าเกิดยามันออกฤทธิ์ช้าล่ะ?"แม้ว่าเขาจะพูดขนาดนี้ แต่เจียงสื้อสื้อก็ยังรู้สึกว่าละเลยไม่ได้อยู่ดี

"ถ้าผมรู้สึกไม่สบายตรงไหนผมจะบอกคุณเอง ไม่ฝืนกลั้นเอาไว้แน่นอน"

เจียงสื้อสื้อยิ้ม"ฉันเชื่อคุณ"

ตอนค่ำส้งหวั่นชีงกลับมาจากบ้าน ตอนที่เห็นจิ้นเฟิงเฉิน ก็ขอบตาแดงด้วยความตื่นเต้น

"พี่ใหญ่ คุณรู้ไหมว่าช่วงเวลาที่คุณไม่อยู่ พี่สะใภ้ใหญ่ใช้ชีวิตอย่างทุกข์ยากขนาดไหน"

พอได้ฟังแบบนั้น เจียงสื้อสื้อก็รีบพูดขึ้นทันที"หวั่นหวั่น ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันไม่ได้รู้สึกทุกข์ยากเลยสักนิด"

"พี่สะใภ้ใหญ่ เห็นๆ อยู่ว่าคุณ......"ส้งหวั่นชีงอยากจะพูดเถียงกลับไป แต่พอเห็นเจียงสื้อสื้อส่ายหัวให้กับตัวเองแล้ว ก็ทำได้แค่เปลี่ยนคำพูดไปด้วยความลำบากใจ

"พี่ใหญ่ การที่คุณกลับมา มันดีมากจริงๆ ในที่สุดครอบครัวของพวกคุณก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันสักที"

จิ้นเฟิงเฉินยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไร

แม่จิ้นมองลูกชายลูกสะใภ้ พูดพร้อมกับยิ้มอย่างหน้าบาน"ในที่สุดครอบครัวของพวกเราก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว"

พอพูดถึงตรงนี้ ขอบตาของเธอก็แดงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้"ต่อไปไม่ว่าพวกลูกจะไปที่ไหน ก็ต้องบอกแม่ไม่ก็พ่อของลูกสักคำนะ เข้าใจไหม?"

จิ้นเฟิงเหรายิ้มอย่างหมดหนทาง"แม่ วางใจเถอะ พวกเราจะบอกพวกแม่อยู่แล้วแน่นอน"

"พวกลูกทำให้ได้แบบที่พูดก็แล้วกัน โดยเฉพาะเฟิงเฉิน"แม่จิ้นหันไปทางจิ้นเฟิงเฉิน

จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมจริงจัง"ผมรับปากครับ"

เขารับประกันขนาดนี้ แม่จิ้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เรียกให้พวกเขาไปยังห้องอาหาร"ไปกันเถอะ ทานอาหารกัน"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!