ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 1430

สรุปบท บทที่ ​1430 หลังจากผ่านความมืดมน: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

อ่านสรุป บทที่ ​1430 หลังจากผ่านความมืดมน จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

บทที่ บทที่ ​1430 หลังจากผ่านความมืดมน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ซ่างกวนเชียนครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วพูดสั่ง "รีบหยุดงานกับตระกูลหยางทันที"

ถ้าหากหยุดความสัมพันธ์กับตระกูลหยางไม่ทัน ซ่างกวนกรุ๊ปคงจะได้รับผลกระทบด้วยแน่นอน

แต่ว่า การสูญเสียตระกูล​กู้และตระกูลหยางไปพร้อมๆ กัน ก็เหมือนหักแขนซ้ายขวาของเขาไป กำลังของเขาก็ลดลงเหมือนกัน​

ตอนที่​ซ่างกวนกรุ๊ป​ประกาศหยุดความร่วมมือกับตระกูลหยาง จิ้นเฟิงเหรารู้ข่าว จึงรีบบอกจิ้นเฟิงเฉินอย่างรวดเร็ว

"พี่ครับ หยุดความร่วมมือแล้ว​ครับ​"

ถึงแม้จิ้นเฟิงเหราไม่ได้พูดชื่อ แต่จิ้นเฟิงเฉินก็รู้ว่าเขากำลังพูดถึงใคร

อย่างที่คาดไว้เลย

จิ้นเฟิงเฉินไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย สีหน้า​ของ​เขาไม่จำเป็นต้องแสดงอะไร

"พี่ครับ ตอนนี้ซ่างกวนกรุ๊ปกับคริสมินเสียความร่วมมือ​ไปสองบริษัท ช่างสะใจจริงๆ เลย!"

จิ้นเฟิงเหรารู้สึกว่าความเครียดของเขาผ่อนคลายลงไปทันทีเลย

ถ้าไม่มีบริษัททั้งสอง ซ่างกวนเชียนและบริษัทอื่นๆ คงจะไม่กล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่นตอนนี้

จิ้นเฟิงเหราเห็นพี่ชายของตัวเองหน้าเคร่งเครียด​ เขาก็หุบยิ้ม แล้วถามด้วยความเป็นห่วง "พี่ครับ มีอะไรหรือเปล่า​ครับ​?"

จิ้นเฟิงเฉินเหลือบมองเขา "ฉันกำลังคิดว่าจะช่วยเด็กเหล่านั้นได้ยังไง​"

พอพูดถึงเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หัวใจของจิ้นเฟิงเหราก็เคร่งเครียด​เช่นกัน

"ถ้าเราไม่ได้ส่งคนไปตรวจสอบ​ตระกูลหยาง ฉันกลัวว่าเรื่องนี้จะไม่ถูกเปิดเผยออกมา"

"ผู้ประกอบการการกุศลอะไรกัน?" จิ้นเฟิงเหรากระซิบอย่างโมโห​ "มันก็แค่สัตว์เดรัจฉาน ไร้ความเป็นคน!"

ถ้าเรื่องพวกนี้ไม่ถูกเปิดเผยออกมา เขานึกภาพไม่ออกเลยว่าเด็กสาวเหล่านั้นจะต้องอับอายขายหน้าแค่ไหน

จิ้นเฟิงเฉินครุ่นคิดสักพัก​ "...ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสภาพจิตใจของเด็กๆ หลายปีมานี้พวกเธออยู่ภายใต้เงามืดของหยางซง มาตลอด​ พวกเธอต้องกลัวมาก และคงไม่กล้าคุยกับคนภายนอกแน่ๆ "

"งั้นจะทำยังไง​ดีครับ" จิ้นเฟิงเหราเอ่ยถาม

"ให้มู่ป๋ายและคนอื่นๆ เข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อทำการรักษาทางจิตวิทยาแบบตัวต่อตัว"

จิ้นเฟิงเหราพยักหน้าเห็นด้วย "แบบนี้ก็ดีครับ ขอแค่เด็กๆ มีสุขภาพจิตที่ดี พวกเธอก็จะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง​"

หลังจากนั้นจิ้นเฟิงเฉินก็ติดต่อเซิ่นมู่ป๋ายและบอกสถานการณ์ให้เขาได้รู้

เซิ่นมู่ป๋ายตอบรับโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ไม่นาน ทีมจิตเวชก็เดินทางไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แล้วเริ่มรักษาเด็กๆ ที่ได้รับบาดเจ็บทางจิตใจ

เหตุการณ์นี้ไม่ได้ถูกเปิดเผย แต่ถูกจิ้นเฟิงเฉินปกปิดไว้

เขาไม่อยากให้เป็นข่าวแพร่ออกไป เพราะจะเป็นการทำร้ายเด็กๆ เป็นครั้งที่สอง

......

หลังจากที่เจียงสื้อสื้อเห็นข่าวเกี่ยวกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจากอินเทอร์เน็ต เธอก็ตัวสั่นด้วยความโกรธ

เธอเคยได้เจอกับหยางซงครั้งหนึ่ง เขาเป็นชายวัยกลางคนที่ดูอ่อนโยนและใจดีมาก แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าหัวใจของเขาจะสกปรกมากจนปฏิบัติต่อเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแบบนี้...

พอคิดถึงเรื่องที่เขาทำลงไป เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกอยากจะอ้วก

ปัก​!

เธอปิดแล็ปท็อป แล้ว​ลุกขึ้นก่อนจะเดินออกจากห้องทำงาน

พอผ่านห้องของเสี่ยวเป่า เธอก็เปิดประตูแล้วยื่นหน้าเข้าไปมอง

เสี่ยวเป่ากำลังนั่งทำการบ้าน ดูท่าทางจริงจังมาก

เจียงสื้อสื้อไม่อยากรบกวนเขา ดังนั้นเธอจึงปิดประตูกลับเบาๆ

พอเธอเดินลงมาข้างล่าง จิ้นเฟิงเฉินกับจิ้นเฟิงเหราก็กลับมาพอดี

"พี่สะใภ้" จิ้นเฟิงเหราทักทาย

เจียงสื้อสื้อพยักหน้า "กลับมาแล้วเหรอคะ"

"อืม" จิ้นเฟิงเหราเหลือบมองจิ้นเฟิงเฉินแล้วเลิกคิ้วขึ้น "ผมไม่อยู่​เป็นก้างขวางคอแล้วดีกว่า ขอตัวขึ้นไปข้างบนก่อนนะครับ"

พอพูดเสร็จเขาก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนทันที

เสี่ยวเป่าพยักหน้า "เสร็จแล้วครับ"

"งั้นก็พักก่อนจ๊ะ เดี๋ยว​หม่ามี๊​จะชงนมให้ดื่ม"

"ครับ"

พอเห็นรอยยิ้มไร้เดียงสาของเสี่ยวเป่า เจียงสื้อสื้อก็นึกถึงเด็กๆ ที่ถูกทารุณกรรมในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าขึ้น​มา​ทันที รอยยิ้มบนริมฝีปากของเธอค่อยๆ หุบลง สีหน้า​เริ่มซึมเศร้า​

จิ้นเฟิงเฉินรู้ดีถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอ จึงกระซิบเรียกเบาๆ "สื้อสื้อ"

เจียงสื้อสื้อได้สติกลับมา เธอหันหน้ากลับมา แล้ว​สบตาเข้ากับแววตาที่ห่วงใย มุมปากของเธอยกขึ้น"ฉันกำลังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับเด็กเหล่านั้นค่ะ"

"เด็กอะไรครับ?" เสี่ยวเป่ามองดูพวกเขาอย่างงุนงง

"ไม่มีอะไร ตอนนี้ทำการบ้านเสร็จแล้ว ไปเล่นกับน้องสาวของลูกก่อนก่อนนะ" จิ้นเฟิงเฉินพูด

"ได้ครับ" เสี่ยวเป่าลุกขึ้น​ยืนอย่างเชื่อฟัง แล้วเดินออกไปหาเถียนเถียนทันที

หลังจากที่เขาออกไป จิ้นเฟิงเฉินก็พูดว่า "ผมให้มู่ป๋ายพาทีมนักจิตวิทยาไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อทำการ​รักษา​ให้กับพวกเด็กๆ แล้ว​ "

"จริงเหรอคะ เยี่ยมไปเลยค่ะ!" เจียงสื้อสื้อถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วรู้สึกดีใจแทนพวกเด็กๆ ด้วย

เด็กเหล่านั้นอาจจะอายุ​เท่ากับเสี่ยวเป่าและเถียนเถียน เสี่ยวเป่าเองก็ถูกทำร้ายเหมือนกัน ดังนั้นเธอจึงสามารถจินตนาการถึงความเจ็บปวด​ทางจิตใจของเด็กๆ ได้

"เฟิงเฉินคะ ฉันดีใจมากที่มีคุณอยู่​ข้างๆ " ดวงตาของเจียงสื้อสื้อเจ็บปวด​เล็กน้อย "ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คงไม่มีใครรู้พฤติกรรมเลวทรามของหยางซงได้ และคงไม่มีใครพบพวกเด็กๆ ที่ได้รับบาดเจ็บเหล่านี้"

จิ้นเฟิงเฉินลูบผมของเธอ "ถึงไม่มีผมก็มีคนอื่นพบพวกเธออยู่ดี"

เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า "ไม่ค่ะ มีเพียงคุณเท่านั้นที่กล้าเปิดเผยความเลวทรามของหยางซง ถ้าเป็นคนอื่นเห็นความแข็งแกร่งของตระกูลหยางคงจะไม่กล้าขัดขวางเขา"

พอคิดว่าพวกเด็กๆ จะต้องอยู่อย่างยากลำบาก ก็ทำให้เธอรู้สึกปวดใจมากแล้ว

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตา

"ไม่ต้อง​ร้องไห้ครับ เด็กๆ จะต้องอาการดีขึ้น​และเติบโตด้วยดีอย่างแน่นอน​" จิ้นเฟิงเฉินยกมือขึ้นและเช็ดน้ำตาจากแก้มของเธอเบาๆ ก่อนจะพูดต่อ "จิ้นกรุ๊ปจะสนับสนุนเด็กๆ เหล่านี้ต่อไปจนกว่าพวกเธอจะจบการศึกษาจากวิทยาลัย"

"หลังจากผ่านความมืดมน ก็จะมีความสว่างผ่านเข้ามาเสมอ"

พอเขาพูดแบบนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็ดึงเจียงสื้อสื้อเข้ามากอดไว้แน่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!