ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 1442

สรุปบท บทที่ 1442 ยืมมือคนอื่นมารับความสูญเสียแทน: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

สรุปตอน บทที่ 1442 ยืมมือคนอื่นมารับความสูญเสียแทน – จากเรื่อง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

ตอน บทที่ 1442 ยืมมือคนอื่นมารับความสูญเสียแทน ของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์เรื่องดัง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

วันถัดไป ตอนมื้อเช้า อานอานเสนอออกมาว่าจะไปตกปลาที่ทะเลสาบบนภูเขาแถวๆนี้

ดังนั้นแล้ว พอกินข้าวมื้อเช้าเสร็จแล้ว เจียงสื้อสื้อกับเหลียงซินเวยก็ได้พาเด็กๆทั้งสามคนเดินเข้าไปยังทะเลสาบนั้น

รถหยุดจอดอยู่ที่ข้างทางไม่ไกลออกไปจากทะเลสาบ

เด็กทั้งสามคนรีบเปิดประตูกระโดดลงจากรถไปอย่างรอไม่ไหว แล้ววิ่งไปยังทะเลสาบ

"ช้าหน่อย!" เจียงสื้อสื้อตะโกนออกมา

เสียงพูดนี้ยังไม่ทันได้หลุดออกมาก็เห็นเถียนเถียนชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งเสียแล้ว

"เถียนเถียน!" เจียงสื้อสื้อรีบวิ่งเข้ามาทันที

เถียนเถียนพอก้นได้นั่งลงไปกับพื้นอย่างแรงแล้ว ก็ส่งเสียงร้อง"อ๊ะ" แล้วก็ร้องไห้ออกมา

ผู้หญิงที่ถูกชนก็ได้ย่นคิ้วออกมาด้วยความเกลียดชังออกมา"ทั้งๆที่แกเป็นคนมาชนฉันเองแท้ๆ แกจะร้องไห้ทำไมกัน?"

"ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ" เจียงสื้อสื้อรีบเข้าไปอุ้มเถียนเถียนขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว ก้มหน้าเอ่ยขอโทษออกไปไม่หยุด

ตอนที่เหลียงซินเวยที่ตามอยู่ข้างหลังเธอเห็นผู้หญิงคนนั้นเข้า ถลึงตาออกมาด้วยความประหลาดใจ"เย่เสี่ยวอี้!"

ไม่ผิดเลย คนที่เถียนเถียนชนเข้าเป็นเย่เสี่ยวอี้จริงๆ

ตอนที่เย่เสี่ยวอี้เห็นเหลียงซินเวย ใบหน้าทั้งหน้าก็ได้มืดครึ้มออกมาทันที ส่งเสียงเฮอะเสียงเย็นออกมาด้วยความเหยียดหยาม"ที่แท้ก็เป็นพวกแกนี่เอง ฉันยังนึกอยู่เลยว่าใครกันที่ลูกที่สั่งสอนออกมาได้ไม่มีการศึกษาได้อย่างนี้"

"เธอพูดว่าอะไรนะ?" เหลียงซินเวยโกรธออกมา

เย่เสี่ยวอี้ยิ้มออกมา"ทำไม? ละอายจนพาลโกรธขึ้นมาเสียแล้ว?"

"เธอ!" เหลียงซินเวยโกรธจนอยากจะเข้าไปเถียงให้รู้ดำรู้แดง

เจียงสื้อสื้อรีบดึงเธอเอาไว้ทันที ส่ายหน้าออกไปเบาๆเพื่อเป็นการบ่งบอกเธอว่าอย่าวู่วาม เลิกตาขึ้นมองไปทางเย่เสี่ยวอี้ สายตาเยือกเย็นออกมา"คุณเย่ เด็กชนเธอ เป็นเด็กที่ผิดไป แต่เธอก็ไม่จำเป็นต้องพูดจาโหดร้ายขนาดนี้เลย"

"ฉันพูดความจริงมันโหดร้ายที่ไหนกัน?" เย่เสี่ยวอี้แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจออกมา

เจียงสื้อสื้อหัวเราะออกมาเบาๆ"คุณเย่ อย่าลืมว่าน้าสะใภ้เล็กของฉันเคยชมเธอว่าสุภาพมีมารยาทมาก่อน เป็นคนอ่อนโยนใจดี ทำไมวันนี้ฉันถึงรู้สึกไม่ได้กันนะ? หรือว่า การแสดงออกเมื่ออยู่ต่อหน้าฉันกับน้าสะใภ้เล็กจึงไม่เหมือนกันเลยสักนิด? คนชอบตีสองหน้า? "

เย่เสี่ยวอี้พอได้ยินคำว่า"คนชอบตีสองหน้า" คำนี้แล้ว ก็ได้โกรธเดือดดาลขึ้นมาทันที"เธอต่างหากที่ตีสองหน้า ทั้งบ้านของเธอต่างก็เป็นคนชอบตีสองหน้ากันทั้งนั้น!"

เห็นเธอโกรธขนาดนี้ เหลียงซินเวยส่งเสียงหัวเราะ"คิกคัก"ออกมา

เย่เสี่ยวอี้ได้ยินแล้ว ก็ยิ่งโกรธกว่าเดิม จึงใช้นิ้วมือชี้ไปที่เธอ"เหลียงซินเวย เธอหัวเราะอะไร? มันมีอะไรให้น่าตลกกัน?"

เหลียงซินเวยมองเธอไปด้วยรอยยิ้ม"ฉันก็แค่คิดว่าเธอน่ารักเท่านั้นเอง"

นึกไม่ถึงว่าเธอจะพูดมาอย่างนี้ เย่เสี่ยวอี้ตะลึงงันไปทันที แต่เพียงไม่นานก็ได้สติกลับมา ใบหน้านั้นก็ไม่รู้ว่าโกรธหรือว่าอายอยู่ มันจึงได้แดงก่ำออกมา

"เหลียงซินเวย อย่านึกว่าเธอจะพูดมาอย่างนี้ ฉันจะยกโทษให้เธอ"

"ฉันไม่มีอะไรต้องให้เธอยกโทษให้ฉัน ฉันเพียงคิดว่าเธอมันน่ารักมากจริงๆ"

เย่เสี่ยวอี้ไม่พูดอะไรไปชั่วขณะหนึ่ง ใช้จมูกส่งเสียงเฮอะออกมาอย่างแรง รีบสาวเท้าออกไป

เจียงสื้อสื้อกับเหลียงซินเวยหันหน้าไปมองเงาร่างเบื้องหลังที่เดินออกไปของเธอ ทั้งสองคนได้หันไปมองหน้าแล้วยิ้มให้กัน

"ถึงแม้ว่าเย่เสี่ยวอี้จะเอาแต่ใจตัวเองเจ้ากี้เจ้าการจริงๆ แต่ก็ยังมีจุดที่น่ารักอยู่บ้าง" เจียงสื้อสื้อพูด

"ความรู้สึกที่เธอมีต่อยู่เชินมันเป็นของจริง ถ้าไม่ใช่การปรากฏตัวของฉัน บางทีพวกเขาคงจะได้แต่งงานกันจริงๆ"

พูดถึงตรงนี้แล้ว เหลียงซินเวยก็ถอนหายใจออกมา"พูดให้แย่หน่อย คือฉันต่างหากที่เป็นมือที่สามคนนั้น"

"อย่าว่าตัวเองอย่างนี้สิ" เจียงสื้อสื้อชำเลืองมองเธอไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก"พี่ชายไม่ชอบหล่อน ถึงแม้ว่าจะไม่มีเธอ พวกเขาก็ไม่มีทางจะแต่งงานกันหรอก"

เหลียงซินเวยยิ้มออกมาเล็กน้อย"คงอย่างนั้นล่ะมั้ง"

เรื่องที่ตั้งสมมติฐานมาจำพวกนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่รู้เลยว่าผลมันจะเป็นยังไง

"หม่ามี้ รีบมาเร็ว"

เจี่ยงฉือส่ายหน้าออกมา"ตอนนี้ยังไม่มี ข่าวฉาวของทั้งสองบริษัทนั้นต่างก็สร้างผลกระทบที่แน่นอนให้กับซ่างกวนกรุ๊ปทั้งนั้น ในช่วงเวลานี้หุ้นมันก็ไม่มั่นคงเลย เดี๋ยวก็ขึ้นเดี๋ยวก็ลง ฉันคิดว่าตอนนี้พี่ชายของคุณเองก็กำลังปวดหัวจนไม่รู้ว่าควรจะต้องทำยังไงด้วยเหมือนกัน"

หลี่ซียิ้มเย็นออกมาเล็กน้อย"ฉันไม่ควรจะโอบอุ้มความหวังต่อพี่ชายของฉันมากเกินไป"

เธอคิดๆไป แล้วก็ได้ถามออกไป"งั้นคุณก็มีวิธีแล้วเหรอ?"

"ผมมีอยู่วิธีหนึ่ง" เจี่ยงฉือพูดออกมา

"คืออะไร?" หลี่ซีรีบถามออกไป

"พี่ชายของคุณกับคริสมินพวกเขาจัดการกับจิ้นกรุ๊ป จากผิวเผินทุกคนต่างก็รู้กันทั้งนั้น"

หลี่ซีขมวดคิ้วออกมา"แล้วยังไงกันล่ะ?"

"ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว พวกเราสามารถใช้ประโยชน์จากตรงจุดนี้ได้นะ"

หลี่ซีคิดพิจารณาขึ้นมาอย่างเอาจริงเอาจัง ในทันใดนั้นเองดวงตาก็ได้ส่องสว่างออกมาทันที"คุณวางแผนจะยืมมือคนอื่นมารับความสูญเสียแทน..."

"ฉลาด" เธอยังไม่ทันได้พูดจบ เจี่ยงฉือดีดนิ้วพลางเอ่ยชมออกมา

หลี่ซีหรี่ตาลงเล็กน้อย"ฉันได้ข่าวว่าช่วงนี้จิ้นกรุ๊ปวางแผนจะเข้าซื้อกิจการบริษัทเล็กๆที่เชี่ยวชาญการวิจัยเรื่องปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะเจ้าหนึ่ง บางทีพวกเราก็จะสามารถแย่งชิงบริษัทที่เขาเข้าซื้อไปเมื่อก่อนหน้านั้นมาได้"

เจี่ยงฉือพยักหน้าออกมา"แน่นอนว่าได้อยู่แล้ว สิ่งที่คุณคิดอยู่มันตรงกับผมพอดีเลย"

"พวกเราแอบดำเนินการเข้าซื้อกิจการ อย่าเปิดเผยข้อมูลใดๆของพวกเราออกไป ทำให้จิ้นเฟิงเฉินนึกว่ามันเป็นฝีมือของคริสมิน"

หลี่ซีแสยะริมฝีปากออกมา อย่างนี้แล้ว ไม่เพียงจะสามารถทำให้จิ้นเฟิงเฉินได้ลิ้มรสความล้มเหลวเป็นครั้งแรก แล้วยังสามารถเร่งสงครามการสู้รบกันระหว่างจิ้นกรุ๊ปกับคริสมินให้มันเร็วขึ้นได้

"ฉลาดเกินไปแล้ว" เจี่ยงฉือมองเธอไปใบหน้าชมเชย

หางคิ้วของหลี่ซีได้เลิกขึ้น เอ่ยพูดออกไปอย่างหยิ่งทะนง"แน่นอนว่าฉันต้องฉลาดอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นแล้วฉันจะกล้ากลับประเทศมาจัดการกับจิ้นกรุ๊ปได้ยังไงกันล่ะ?"

เจี่ยงฉือเงยหน้าขึ้นหัวเราะออกมาเสียงดัง"ถูกต้อง คุณพูดมาไม่ผิดเลย"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!