สรุปตอน บทที่ 1452 ใจสั่นระรัว – จากเรื่อง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว
ตอน บทที่ 1452 ใจสั่นระรัว ของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์เรื่องดัง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
จิ้นเฟิงเหราเห็นพี่ชายของเขาไม่ได้ใส่ใจ จึงไม่ได้พูดอะไรอีก
ตอนที่เขาหันหลังจะจากไปนั้น จู่ๆ นึกขึ้นได้ทันใด จึงชะงักเท้าขึ้น แล้วหันหน้าไปมองจิ้นเฟิงเฉินที่กลับไปวุ่นอยู่กับการทำงานอีกครั้ง
"พี่ วันนี้พี่สะใภ้นัดพี่ไปตรวจร่างกายด้วยกันไม่ใช่เหรอ"
จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้าขึ้น "ใช่ ทำไมเหรอ"
สองวันก่อนหน้านั้นสื้อสื้อได้นัดกับเขาไว้ว่าวันนี้จะไปหาโม่เหยียเพื่อตรวจร่างกาย
"เปล่า แค่กลัวว่าพี่จะลืม"
นี่มันสำคัญยิ่งกว่าJRกรุ๊ปอะไรนั่นอีก
จิ้นเฟิงเฉินก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือครู่หนึ่ง มุมปากผุดรอยยิ้มจางๆ "ถึงเวลาแล้ว"
เมื่อพูดจบเขาก็ลุกขึ้น "พี่จะออกไปละ เรื่องในบริษัทก็ฝากนายด้วยแล้วกัน"
"พี่ สบายใจได้เลย"
จิ้นเฟิงเหรายิ้มและก็เดินออกไปจากห้องทำงานพร้อมกับเขา
จิ้นเฟิงเฉินเดินเข้าไปที่ห้องทำงานของเจียงสื้อสื้อ เมื่อเห็นเขา เจียงสื้อสื้อที่ยุ่งมาตลอดทั้งช่วงเช้าถึงนึกขึ้นได้เรื่องที่จะไปตรวจร่างกาย
"ยุ่งจนเกือบลืมไปเลย" เจียงสื้อสื้อพลางเก็บโต๊ะพลางยิ้มแหยให้เขา
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเบาๆ "ไม่รีบ"
เจียงสื้อสื้อสะพายกระเป๋าแล้วเดินมาที่ข้างตัวเขา คล้องแขนของเขาไว้ ยิ้มแล้วกล่าว:"ไปกันเถอะ"
หลังจากมาถึงสถาบันวิจัย โม่เหยียกับหานยู่ที่รอพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว ได้รีบเข้ามาต้อนรับทันที
ทั้งสองคำนับอย่างนอบน้อม "คุณชาย คุณหญิง"
"เตรียมพร้อมหรือยัง" จิ้นเฟิงเฉินกล่าวถาม
โม่เหยียพยักหน้า "เตรียมพร้อมแล้วครับ รอแค่ท่านมา"
"ไม่นานผมก็ออกมา" จิ้นเฟิงเฉินตบมือเจียงสื้อสื้อเบาๆ เพื่อปลอบเธอ เกรงว่าถ้าตรวจนานเกินไปเธอจะเป็นห่วง
เจียงสื้อสื้อยิ้ม "ฉันรู้ค่ะ พวกคุณเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ด้านนอก"
ส่งพวกเขาเข้าไปข้างในห้องวิจัยด้วยสายตาแล้ว เจียงสื้อสื้อก็เดินมานั่งลงบนโซฟาที่อยู่ข้างๆ
เธอเงยหน้าขึ้นมองไปยังประตูที่ปิดสนิท สองมือกุมเข้าด้วยกันอย่างเป็นกังวล
เวลาผ่านไปนานขนาดนี้ ความจำเฟิงเฉินก็ยังไม่ฟื้นคืนปกติ
ตอนแรกได้ทานยาที่พวกโม่เหยียทำการวิจัยออกมา ทำให้จำเรื่องราวบางอย่างได้ แต่ก็จำได้เพียงเลือนราง
หลังจากนั้นก็ไม่ได้ผลอีกเลย
และที่มาตรวจร่างกายวันนี้ ก็เพื่ออยากจะมาตรวจดูว่ามีความผิดปกติตรงไหน หรือว่าร่างกายของเฟิงเฉินมีอะไรที่ทำให้ไม่สามารถฟื้นฟูความจำได้
เจียงสื้อสื้อสูดลมหายใจเข้าแรงๆ แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออก
ในใจเธอก็ยังเป็นกังวล
จะฟื้นหรือไม่ฟื้นความทรงจำไม่ได้สำคัญขนาดนั้นแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสุขภาพของเฟิงเฉิน
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ประตูห้องทดลองได้เปิดออก
เจียงสื้อสื้อจึงลุกขึ้นยืนแล้วรีบเดินเข้าไป
"เฟิงเฉิน"
เธอจับมือของเฟิงเฉินและรีบร้อนถามขึ้น :"เป็นอย่างไรบ้าง"
ไม่รอให้เฟิงเฉินตอบ โม่เหยียได้ตอบขึ้น:"คุณหญิง ร่างกายของคุณชายนั้นแข็งแรงดี ไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง"
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจโล่งอก ยิ้มแล้วกล่าวขึ้น :"อย่างนั้นก็ดี"
"แต่พวกเราจะอยากจะรู้ว่าการวิจัยผิดพลาดตรงไหน ถึงทำให้คุณชายไม่สามารถฟื้นฟูความจำได้เสียที" หานยู่กล่าวเสริม
"สื้อสื้อ ขอโทษ" จิ้นเฟิงเฉินมองเธอด้วยใบหน้าขออภัย
เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า "ไม่เป็นไร สุขภาพของคุณสำคัญกว่าสิ่งใด"
เธอพลางพูดพลางเอื้อมมือไปจับประกบกับนิ้วมือของเขา แล้วมองเขาอย่างลึกซึ้ง "ขอเพียงมีคุณอยู่ข้างๆ ฉันก็เพียงพอแล้ว"
"สื้อสื้อ" ความซาบซึ้งเปี่ยมล้นไปทั้งใจ จิ้นเฟิงเฉินโอบเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
กอดไว้แน่น ราวกับอยากให้ร่างของเธอกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับตัวเอง
"ยังยุ่งอยู่กับงานเหรอ"
เจียงสื้อสื้อเดินเข้าไปแล้วถามเบาๆ
จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้าขึ้น ความเคร่งขรึมของเขายามกลางวันได้จางลงในยามกลางคืน หว่างคิ้วดูผ่อนคลายลง ผมที่เพิ่งสระเสร็จตกลงมาปรกอยู่ที่หน้าผากอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
เจียงสื้อสื้อมองตะลึงค้าง
รอยยิ้มผุดที่ริมฝีปาก จิ้นเฟิงเฉินเก็บแล็ปท็อปแล้ววางลงบนหัวเตียง เอื้อมแขนที่ยาวมาโอบเอวของเธอไว้
เจียงสื้อสื้อส่งเสียงร้องเบาๆ ด้วยความตกใจ
"ผมน่ามองไหม"
น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำน่าดึงดูด จนเจียงสื้อสื้อถึงกับใจสั่น
เธอแก้มแดงระเรื่อ หลบสายตา "แน่นอนว่าคุณน่ามอง"
เสียงหัวเราะเบาๆ ดังอยู่ข้างใบหู เจียงสื้อสื้อเงยหน้าขึ้นมองเขา เห็นเพียงบนปลายคิ้วของเขามีรอยยิ้ม และดูผ่อนคลายมีความสุขมากเป็นพิเศษ
เธออดไม่ได้ที่จะรำคาญ ยกมือทุบเข้าไปที่หน้าอกของเขา "หัวเราะไรกัน มีอะไรให้น่าหัวเราะเหรอ"
จิ้นเฟิงเฉินจึงคว้าจับมือของเธอมา แล้วก้มลงจูบที่หลังมือของเธอ มองเธออย่างลึกซึ้ง "มีคุณอยู่ข้างๆ ช่างดีจัง"
ไม่รอให้เธอได้เอ่ยปาก จิ้นเฟิงเฉินก็ออกแรงมือทั้งสองข้าง จนฟ้าหมุนติ้ว และเธอก็ถูกทับอยู่ด้านล่างกายของเขา
มือของจิ้นเฟิงเฉินค้ำอยู่ข้างๆ ขมับของเธอ มองตรงเข้าไปในดวงตาของเธอ วินาทีต่อมา ก็ก้มลงจูบริมฝีปากแดงของเธอที่เปิดเล็กน้อย จนใจสั่นระรัว
เจียงสื้อสื้อจับเสื้อส่วนหน้าของเขาไว้ หลับตาลง แล้วสัมผัสแรงสั่นสะเทือนที่เขามอบให้กับตัวเอง
ราตรีค่อยๆ ดึกลงไป
วันรุ่งขึ้น จิ้นเฟิงเฉินถูกปลุกด้วยเสียงของโทรศัพท์
"อื้อ เฟิงเฉิน โทรศัพท์ดัง......" เจียงสื้อสื้อที่กำลังหลับพึมพำ แล้วก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดคลุมศีรษะ
จิ้นเฟิงเฉินเอื้อมมือไปควานหยิบโทรศัพท์มากดรับสาย "มีอะไร"
น้ำเสียงที่เพิ่งตื่นทุ้มต่ำงัวเงียและแหบแห้ง
"พี่ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!" สายโทรศัพท์จากฝั่งนั้นลอยดังขึ้นด้วยเสียงลนลานของจิ้นเฟิงเหรา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!