ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 18

บทที่ 18 กลับคำพูด

เพราะว่าเจียงสื้อสื้อเป็นคนก่อปัญหา หลังจากที่หลี่เซิ่งลังเลอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ต้องไล่เธอออกอยู่ดี โปรเจกต์ที่ทำร่วมกับจิ้นกรุ๊ป ก็ตกไปอยู่ในมือของเหยนอี่เฟย

เจียงสื้อสื้อไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย

พวกเขาเป็นถึงบริษัทกรุ๊ปใหญ่ ไม่มีทางที่จะไปต่อกรกับฝั่งนั้นเพียงแค่พนักงานเพียงคนเดียวหรอก

เรื่องที่เธอต้องออกจากบริษัทมันทำให้ เหอหลินเสียใจไม่น้อย กอดเธอพร้อมกับพูดขึ้น“สื้อสื้อ ฉันเชื่อว่าคุณ จะหางานที่ดีกว่าได้ คุณต้องสู้ๆนะ อย่าท้อแท้”

ใจที่ว้าเหว่ของเจียงสื้อสื้อ ในที่สุดก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอีกครั้ง

ที่เหลืออยู่ ก็มีแค่ความเสียดายที่อยู่เต็มอก

เธอ……ดูเหมือนจะต้องกลับคำแล้ว

เธอคงจะจัดงานฉลองวันเกิดที่ตราตรึงใจให้กับเสี่ยวเป่าไม่ได้อีกแล้ว!

พอคิดถึงเด็กน้อยที่น่าเอ็นดู เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกจุกไปหมด ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ไม่รู้ว่าจะระบายมันออกมายังไง

มือล้วงไปหยิบมือถือขึ้นมาอย่างห้ามใจไม่ได้ คิดที่จะโทรไปหา แต่นิ้วก็ยังคงค้างไว้อยู่ที่ปุ่ม ลังเลอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่กล้ากดสักที

ผ่านไปอยู่นาน เธอก็ตัดสินใจได้ว่าเธออยากจะซื้อของขวัญให้เขาสักชิ้น แทนคำขอโทษ

แต่เธอยังไม่ทันได้ขยับตัว มือถือก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

เจียงสื้อสื้อตกใจ แล้วกดรับสายด้วยความลนลานทันที ในสายมีเสียงดังขึ้น น้ำเสียงน่าฟัง“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใช่คนในครอบครัวของฟางเสว่มั่นหรือเปล่าคะ? โทรมาจากโรงพยาบาลนะคะ ถ้าเกิดคุณไม่ติดธุระอะไร กรุณารีบมาด่วนเลยนะคะ”

เจียงสื้อสื้อรู้สึกใจแป้วทันที ก่อนจะรีบถามกลับไป“ฉันเป็นลูกสาวของคนไข้ค่ะ ไม่ทราบว่า……แม่เป็นอะไรคะ?”

“คือแบบนี้ค่ะ จู่ๆผู้ป่วยก็เกิดอาการกำเริบขึ้นมา มีบุคลากรทางการแพทย์ของเราไปเห็นได้ทันเวลา ก็เลยพาส่งห้องฉุกเฉิน ตอนนี้ยังไม่ออกมา เลยยังไม่ทราบละเอียดมากนักค่ะ ดังนั้นเลย……”

คนในสายพูดต่อไปเรื่อยๆ แต่เจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้ฟังสักประโยค จิตใจกระวนกระวาย รีบเดินสับขาอย่างรวดเร็ว ไปจนถึงที่ถนน โบกรถไปโรงพยาบาลด้วยความรีบร้อนทันที

ยี่สิบนาทีผ่านไป รถขับมาถึง เจียงสื้อสื้อจ่ายเงินเสร็จ ก็วิ่งพุ่งเข้าไปที่ห้องฉุกเฉินราวกับคนเสียสติ

นางพยาบาลคนหนึ่งที่รู้จักกันเดินออกมาจากข้างในพอดี เจียงสื้อสื้อเข้าไปกุมมือของเธอเอาไว้พร้อมกับถามขึ้นด้วยท่าทางลนลาน“พยาบาลจางแม่ของฉัน……”

พยาบาลจางรีบพูดปลอบทันที“คุณเจียงคุณมาแล้ว? ใจเย็นก่อนนะ แม่ของคุณพ้นขีดอันตรายแล้ว ยังคงต้องรอตรวจดูอาการอีกหน่อย คุณอย่าเพิ่งใจร้อนนะคะ”

เจียงสื้อสื้อพยักหน้า เดินไปเดินมาตรงทางเดินด้วยใจที่กังวล

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก คุณหมอสองสามคนเดินออกมา

เจียงสื้อสื้อเดินเข้าไปหา แล้วพูดถามคุณหมอที่อยู่ตรงกลาง“ลุงฉินแม่เป็นยังไงบ้างคะ?”

ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าลุงฉิน ชื่อว่าฉินหยาง อายุสี่สิบกว่าๆ หน้าตาใจดี สวมแว่นตากรอบทอง เป็นคนสำคัญในแผนกสมองของโรงพยาบาล

เขารู้จักกับฟางเสว่มั่นมานาน พอเห็นใบหน้าที่ลนลานของเจียงสื้อสื้อ ก็รีบถอดหน้ากากออกทันที ก่อนจะพูดปลอบ“สื้อสื้อไม่ต้องกังวล แม่ของหนูไม่เป็นอะไรแล้ว ตะกี้ฉันตรวจให้แล้ว เซลล์สมองของเธอเริ่มตอบสนองบ้างแล้ว เป็นสัญญาณว่า ในอนาคตอาจจะมีโอกาสฟื้นขึ้นมา พอเกิดเรื่องกะทันหันขึ้นก่อนหน้านี้ ก็กลัวว่าจะเป็นอะไรไป ก็เลยรีบแจ้งให้หนูทราบ ตอนนี้หนูวางใจได้แล้วล่ะ”

เจียงสื้อสื้อพอได้ยินแบบนั้น ก่อนหน้านี้ที่ใจหายใจคว่ำ ก็เริ่มใจชื้นขึ้น เธอถอนหายใจ ก่อนจะถามขึ้นด้วยความแปลกใจ“ลุงฉิน พูดจริงๆใช่ไหม? แม่ของหนู……จะมีโอกาสฟื้นขึ้นมาใช่ไหม?”

“จะโกหกหนูทำไมล่ะ?” ฉินหยางตบๆลงที่ไหล่ของเจียงสื้อสื้ออย่างอบอุ่น พร้อมกับพูดขึ้นอย่างโล่งใจ“แม่ของหนู ก็ควรจะฟื้นได้แล้ว ไม่อย่างนั้นสิ่งที่หนูทุ่มเทไปช่วงสองสามปีมานี้ก็สิ้นเปลืองแย่เลย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!