ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 183

สรุปบท บทที่ 183 ไปดูตัวอย่างคาดไม่ถึง!: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

สรุปเนื้อหา บทที่ 183 ไปดูตัวอย่างคาดไม่ถึง! – ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

บท บทที่ 183 ไปดูตัวอย่างคาดไม่ถึง! ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ในหมวดนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 183 ไปดูตัวอย่างคาดไม่ถึง!

ไม่รู้เหมือนกันว่าจูบนี้มันผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว แต่สติของเธอก็ยังคงต่อสู้กันไม่หยุด

แล้วก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน จนจิ้นเฟิงเฉินหยุดจูบนั้นลง เขาก็ปล่อยตัวเจียงสื้อสื้อออก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง : “นี่คุณกำลังจะทรมานผมนะ!”

ต่อมา จิ้นเฟิงเฉินก็พุ่งเข้าห้องอาบน้ำไป ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม เขาไม่มีทางที่จะทำอะไรเจียงสื้อสื้อก่อนแต่งงานแน่นอน

เจียงสื้อสื้อที่มองตามแผ่นหลังเขาไป ก็มีน้ำตาคลอวาดผ่านหางตาของเธอล้นออก

ถึงเธอจะชอบเขามากแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงแค่แอบชอบเท่านั้น...ถึงอย่างไรสุดท้ายแล้ว พวกเขาก็ไม่มีทางจะอยู่ด้วยกันได้หรอก

......

ในคืนนั้นเอง เจียงสื้อสื้อกับเสี่ยวเป่าก็นอนอยู่ในห้องเดียวกัน ส่วนจิ้นเฟิงเฉินก็ยังคงนอนอยู่ที่โซฟาเหมือนเดิม

ทั้งคืนนั้น เจียงสื้อสื้อไม่อาจนอนหลับได้เลย เธอโอบกอดเสี่ยวเป่าไว้เบาๆ พลางรู้สึกทั้งทุกข์ใจ อาลัย และอารมณ์หลากหลายอย่างที่พุ่งเข้ามาจนเอ่อล้นหัวใจ

......

วันต่อมา ขณะที่ตื่นนอนนั้น เจียงสื้อสื้อก็หวนกลับไปคิดฉากที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานอย่างเหม่อลอย พลางรู้สึกราวกับว่าฝันไปยังไงยังงั้น

ไม่สิ ช่วงนี้ทุกอย่างมันก็เหมือนฝันไปทั้งนั้น แต่ตอนนี้ต้องตื่นจากฝันได้แล้ว...เรื่องระหว่างพวกเธอมันได้จบลงแล้ว

เสี่ยวเป่าที่นอนอยู่ข้างๆ เธอก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา หนุ่มน้อยนอนอยู่ในอ้อมกอดของเจียงสื้อสื้ออย่างเกียจคร้าน พลางพูดด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มว่า : “อรุณสวัสดิ์ครับน้าสื้อสื้อ”

ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าเสี่ยวเป่าในตอนนี้รู้สึกมีความสุขมากแค่ไหน ถ้าหากทุกวันหลังจากนี้สามารถตื่นมาได้แบบนี้ก็คงจะดี! เขาจะต้องทำให้แด๊ดดี้รีบแต่งงานกับน้าสื้อสื้อให้ได้ หากเป็นแบบนั้นตัวเขาเองก็จะได้อยู่กับน้าสื้อสื้อทุกวัน

“อรุณสวัสดิ์จ้ะเสี่ยวเป่า” เจียงสื้อสื้อยิ้ม

ต่อมาเธอก็อุ้มเสี่ยวเป่าไปอาบน้ำ หลังจากที่เธอออกจากห้องมา เธอก็พบว่าบนโต๊ะอาหารมีอาหารหลากหลายวางอยู่อย่างเต็มโต๊ะ ซึ่งเป็นของที่จิ้นเฟิงเฉินสั่งให้ผู้ช่วยซื้อมาให้

ขณะที่กำลังกินข้าวเช้ากันอยู่นั้น เสี่ยวเป่าก็ถามขึ้นว่า : “น้าสื้อสื้อครับ วันนี้พวกเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันดีครับ! หรือว่าจะพักอยู่ที่บ้านกันดีล่ะครับ?”

ไม่ว่าจะออกไปเที่ยวหรืออยู่ที่บ้าน ขอเพียงน้าสื้อสื้ออยู่ด้วยกันกับเขา แค่นี้เสี่ยวเป่าก็มีความสุขแล้ว

แววตาของเจียงสื้อสื้อหลุกหลิกอยู่เบาๆ เป็นเพราะหน้าผากของเธอได้รับบาดเจ็บ จึงต้องลางานไปสองวัน แต่ตอนนี้นั้น...

“ขอโทษด้วยนะจ้ะเสี่ยวเป่า พอดีน้ามีธุระที่บริษัทน่ะ เดี๋ยวให้แด๊ดดี้เป็นคนส่งเสี่ยวเป่าไปโรงเรียนนะ!”

“หือ? ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ!”

เสี่ยวเป่ารู้สึกหดหู่เล็กๆ แต่ก็ยังเชื่อฟังไม่ได้โหวกเหวกอะไรขึ้นมา

จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ซูซานเป็นคนของเขา ตอนนี้เจียงสื้อสื้อเองก็ได้รับบาดเจ็บ หากอิงกันตามเหตุผลแล้ว ถ้าหากมีเรื่องอะไรที่บริษัทก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะไปรบกวนอะไรเจียงสื้อสื้อได้เลย แต่ตอนนี้เจียงสื้อสื้อกลับพูดว่าที่บริษัทมีธุระเสียยังงั้น

ชั่วขณะนั้นเอง จิ้นเฟิงเฉินก็รู้สึกถึงบางอย่างประหลาดๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา กลับถามเธอไปว่า : “ไม่ปวดแผลแล้วหรือ?”

เจียงสื้อสื้อส่ายหัว “ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วล่ะค่ะ”

สุดท้ายจิ้นเฟิงเฉินก็ไม่ได้ห้ามเจียงสื้อสื้อไม่ให้ไปที่บริษัท หลังจากกินข้าวเช้ากันเรียบร้อย เขาก็พาเสี่ยวเป่าไปส่งที่โรงเรียน ต่อจากนั้นก็พาเจียงสื้อสื้อไปส่งที่บริษัท

หลังจากถึงที่บริษัท จิ้นเฟิงเฉินก็พูดขึ้นมาว่า : “ผมอาจจะมารับดึกหน่อยนะครับ”

“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ เดี๋ยวตอนดึกฉันมีเรื่องที่ต้องไปจัดการอยู่อีก คุณจัดการงานของคุณให้เสร็จก็ได้นะคะ!” เจียงสื้อสื้อพูด จากน้ำเสียงก็ฟังไม่ออกเลยว่าเธออยู่ในอารมณ์ไหนกันแน่

จิ้นเฟิงเฉินพินิจเจียงสื้อสื้อไปมาอยู่ครู่หนึ่ง ความรู้สึกแปลกประหลาดที่ว่าก็พุ่งเข้ามาในใจของเขาอีกครั้ง แต่จะให้บอกว่าตรงไหนที่มันผิดปกติไปนั้น ตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้อยู่ดี

“ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นมีเรื่องอะไรให้รีบโทรหาผมเลยนะ”

“อืม” เจียงสื้อสื้อพยักหน้า ก่อนจะยืนมองส่งจิ้นเฟิงเฉินขับรถจากไป ก่อนจะถอนหายใจดังเฮือก พร้อมอารมณ์ที่สลับซับซ้อนไปมา

ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องปลอมก็ตาม แต่ขอเพียงตัดความคิดจากจิ้นเฟิงเฉิน ตัดความคิดของตัวเองได้ จะทำยังไงก็ได้ทั้งนั้น......

พอคิดถึงตรงนี้ เจียงสื้อสื้อก็เข้าเว็บหาคู่ทันที จากนั้นก็ใส่ข้อมูลของตัวเองลงไป แล้วเว็บหาคู่นั้น ก็จะคัดเลือกคู่ที่เหมาะสมจากข้อมูลของเธอเอง

พอตกเย็น เจียงสื้อสื้อก็เก็บข้าวเก็บของเตรียมจะเลิกงาน ทันใดนั้นก็ได้รับสายจากในเว็บไซต์ที่โทรมาหาเธอสองสาย ซึ่งแต่ละคนอยู่ที่เมืองนี้ และสามารถนัดได้

เจียงสื้อสื้อเองก็เห็นด้วย จึงนัดพบกันเรียบร้อย

จริงๆ แล้วในใจของเธอก็รู้สึกกลัว เพราะอีกฝ่ายเป็นคนแปลกหน้า ถ้าหากไปเจอทั้งอย่างนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้าง

นอกจากความกลัวแล้ว เธอเองก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน แต่จะมาถอยตอนนี้ก็ไม่ได้แล้ว เพื่อความปลอดภัยของตัวเองแล้ว คงจะต้องพาสวีหน้าไปด้วยเท่านั้น

เมื่อตอนเช้าสวีหน้ายังรู้สึกอิจฉาความรักระหว่างเจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินอยู่เลย เพราะคนหนึ่งก็เป็นประธานบริษัทที่มีอำนาจล้นมือ ส่วนอีกคน...ถึงแม้จะพูดได้ว่าพี่สื้อสื้อเป็นคนที่โดดเด่นมาก แต่ทำไมถึงรู้สึกว่าทั้งสองคนอยู่คนละโลกได้นะ

แต่ว่าทั้งสองคนก็ยังอยู่ด้วยกันอยู่ดีนั่นล่ะ!!!

จะพูดว่ายังไงดีล่ะ? สวีหน้ารู้สึกว่าความรักของทั้งสองคนนั้น ราวกับเรื่องราวในนิยายเลย

ไม่ต้องพูดเลยว่าตัวเธอรู้สึกอิจฉามากแค่ไหน แต่พอได้ยินว่าเจียงสื้อสื้อจะไปดูตัวเท่านั้น เธอก็นั่งลงไปบนเก้าอี้ ด้วยอาการตกตะลึงไปอย่างนั้น

“ไม่สิ พี่สื้อสื้อ ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม? พี่จะไปดูตัวเนี่ยนะ!”

เพราะในห้องทำงานยังมีพนักงานอยู่อีกสองสามคน เจียงสื้อสื้อจึงรีบเอามือไปปิดปากของเธอเอาไว้ ก่อนจะส่งสัญญาณให้สวีหน้าสงบลง

“ฟังไม่ผิดหรอก พี่จะไปดูตัวจริงๆ เอาล่ะ เธอพอจะมีเวลาว่างไปด้วยกันกับพี่หน่อยไหมล่ะ?”

“ไม่ใช่สิพี่สื้อสื้อ พี่กับประธานจิ้นไม่ได้คบกันอยู่หรือคะ? แล้วตอนนี้พี่กลับมาบอกฉันว่าจะไปดูตัวเนี่ยนะ”

“พี่กับประธานจิ้นไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดหรอกนะ พวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรก่อนหน้านี้อยู่แล้ว” เจียงสื้อสื้ออธิบาย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!