บทที่ 182 การตอบรับที่หยาบกร้าน
ในคืนนั้นเอง เจียงสื้อสื้อก็ได้ลงมือทำอาหารจัดวางบนโต๊ะอย่างอุดมสมบูรณ์
พอจิ้นเฟิงเฉินเข้ามาเห็นอาหารเต็มโต๊ะแบบนั้น เขาก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมามองเจียงสื้อสื้อแล้วถามขึ้นว่า : “วันนี้เป็นวันดีอะไรงั้นหรือ?”
เจียงสื้อสื้อยิ้ม ก่อนจะพูดราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่า : “เพิ่งออกจากโรงพยาบาลไม่ใช่หรือคะ? แถมยังขยันวิ่งไปมาที่โรงพยาบาลด้วยบ่อยๆ ก็เลยทำอาหารดีๆ จะได้ขจัดสิ่งชั่วร้ายออกไปยังไงล่ะคะ” พอพูดจบ เธอก็หันไปมองหน้าทั้งพ่อลูกแล้วพูดต่อขึ้นว่า : “ล้างมือก่อนด้วยล่ะ! แล้วก็หากปล่อยไว้นานกว่านี้ อาหารจะเย็นเอานะ”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินเข้าห้องครัวไปล้างมือ เสี่ยวเป่าเองก็เดินตามเขาไป
หลังจากล้างมือเสร็จ ทั้งสามคนก็มานั่งล้อมโต๊ะอาหารเอาไว้ อาหารที่เจียงสื้อสื้อทำ ล้วนเป็นของโปรดของเสี่ยวเป่าและจิ้นเฟิงเฉินทั้งนั้น
“อาหารที่น้าสื้อสื้อทำอร่อยมากเลยล่ะครับ” เสี่ยวเป่าเอ่ยปากชม
พอเห็นหนุ่มน้อยทำท่าทางจริงใจแบบนั้น เจียงสื้อสื้อก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มพูดขึ้น : “ถ้าอร่อยก็กินเยอะๆ ล่ะ”
เสี่ยวเป่าผงกหัวรับ “น้าสื้อสื้อต้องอยู่กับผมและแด๊ดดี้ตลอดไปเลยนะครับ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะไปหาอาหารอร่อยๆ แบบนี้กินที่ไหนกัน!”
จริงๆ แล้ว จุดสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่การกินข้าวหรอก แค่น้าสื้อสื้อได้อยู่ข้างๆ เขาแบบนี้ไปตลอด แค่นั้นก็พอแล้ว
พอเจียงสื้อสื้อได้ยินแบบนั้น เธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อดี
เสี่ยวเป่า น้าเองก็อยากจะอยู่ด้วยกันกับเสี่ยวเป่านะ! แต่ว่า...หลังจากวันนี้เป็นต้นไป พวกเธอเองคงจะไปมาหาสู่กันน้อยลงแล้วล่ะนะ
เสี่ยวเป่าชอบเธอเสียขนาดนี้ จิ้นเฟิงเฉินเองก็เอาใจใส่เธอขนาดนี้ ชั่วขณะที่คิดนั้นเอง ในใจของเจียงสื้อสื้อก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกระทมขึ้นมา
เขาก้มหน้าก้มตากินข้าว โดยที่ไม่ได้ตอบเสี่ยวเป่าแต่อย่างใด สองพ่อลูกตอนนี้ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติเลยแม้แต่นิด
หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ เสี่ยวเป่าก็มาเล่นเกมส์ด้วยกันกับจิ้นเฟิงเฉิน ส่วนเจียงสื้อสื้อก็เก็บกวาดโต๊ะอาหารให้เรียบร้อย พร้อมด้วยสายตาที่มองไปยังสองพ่อลูกบนโซฟาอยู่บ่อยครั้ง รู้สึกราวกับว่าเป็นความฝันยังไงยังงั้น
พอเสี่ยวเป่าแพ้เกมส์ เขาก็เท้าแก้มก่อนจะวางเครื่องเล่นเกมส์ไว้ข้างๆ
“แด๊ดดี้ เมื่อไหร่ผมจะเก่งเท่ากับแด๊ดดี้สักทีล่ะครับเนี่ย!”
“ต่อให้ใช้ทั้งชีวิตก็ไม่มีทางหรอกนะลูก”
เสี่ยวเป่า : “......” มันช่างแทงใจเหลือเกิน
“ไม่ๆๆ เสี่ยวเป่าต้องเก่งกว่าแด๊ดดี้ให้ได้ เล่นต่ออีกรอบหนึ่งนะครับ เล่นอีกรอบ”
เจียงสื้อสื้อที่มองดูท่าทางของเสี่ยวเป่าแบบนั้น ก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ จิ้นเฟิงเฉินเองก็ไม่ได้เล่นเกมส์กับเสี่ยวเป่าต่อ แต่กลับมาช่วยเจียงสื้อสื้อเก็บจานแทน
“คุณไปเล่นเป็นเพื่อนเสี่ยวเป่าเถอะค่ะ! เดี๋ยวตรงนี้ฉันเก็บเองนะ”
“เกมส์มันน่าเบื่อน่ะ ไม่สนุกเลย” จิ้นเฟิงเฉินตอบ
“ถ้าอย่างนั้นล้างจานล้างชามก็ยิ่งไม่สนุกกว่านะคะ!” เจียงสื้อสื้อล้างชามไปด้วยพลางพูดไปด้วย ขณะที่พูดไปนั้น หูของเธอก็ได้ยินเสียงที่ทุ่มต่ำและน่าหลงใหลของฝ่ายชายขึ้น
“อยู่ด้วยกันกับคุณ ไม่ว่าจะทำอะไรก็น่าสนุกทั้งนั้นล่ะครับ”
พอได้ยินแบบนั้น หัวใจของเจียงสื้อสื้อก็เต้นระรัว ก่อนจะพูดอย่างลุกลี้ลุกลนว่า : “เดี๋ยวฉันออกไปเช็ดโต๊ะก่อนนะคะ”
หลังจากพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็รีบหนีออกจากห้องครัวไปทันที
จิ้นเฟิงเฉินที่มองตามแผ่นหลังของเธอไป ก็อดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้จะขี้อายเหลือเกิน ถึงได้เขินอายง่ายๆ แบบนี้
......
เวลาล่วงเลยมาจนดึกกว่าเดิม เจียงสื้อสื้อก็พาเสี่ยวเป่าไปอาบน้ำ หนุ่มน้อยเองก็มัวแต่เล่น จนสาดน้ำและฟองกระเซ็นไปโดนเจียงสื้อสื้อทั่วตัวไปหมด หลังจากอาบน้ำให้เขาแล้ว เจียงสื้อสื้อก็กลับมาจัดการอาบน้ำตัวเอง
หลังจากที่กล่อมเสี่ยวเป่าให้นอนเสร็จ เธอก็เดินออกมาจากห้อง พลันเห็นจิ้นเฟิงเฉินกำลังเคาะแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ กำลังง่วนอยู่กับงานอยู่พอดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!