บทที่ 181 รู้จักอดีตทะลุปรุโปร่ง – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!
ตอนนี้ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 181 รู้จักอดีตทะลุปรุโปร่ง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 181 รู้จักอดีตทะลุปรุโปร่ง
เจียงสื้อสื้อจ้องมองหน้าจอมือถืออย่างเหม่อลอย จนกระทั่งได้ยินเสียงของเสี่ยวเป่าดังขึ้น
“กำลังทำอะไรอยู่หรือครับน้าสื้อสื้อ?”
พลันเจียงสื้อสื้อก็ได้สติกลับมา ก่อนจะหันไปยิ้มให้เสี่ยวเป่าแล้วพูดขึ้นว่า : “เสี่ยวเป่าจ้ะ พอดีน้าลืมซื้อพวกวัตถุดิบมาไว้ที่บ้านน่ะ เสี่ยวเป่าเป็นเด็กดีรออยู่ที่บ้านก่อนนะจ้ะ เดี๋ยวน้าจะรีบกลับมา”
พอได้ยินแบบนั้น เสี่ยวเป่าก็พยักหน้าหงึกอย่างว่าง่าย
“ครับป้า ถ้าอย่างนั้นน้ารีบไปเถอะครับ!”
หลังจากปลอบโยนเสี่ยวเป่าเสร็จ เจียงสื้อสื้อก็ล็อคประตูแล้วเดินลงมาชั้นล่างทันที
ในใจของเธอก็อดที่จะสงสัยไม่ได้เลยว่า ซูชิงหยิงรู้ได้ยังไงกันว่าเธออยู่ที่นี่? แต่พอคิดอีกทีก็คงจะเข้าใจได้ เพราะเธอชอบจิ้นเฟิงเฉินซะขนาดนี้ เพราะฉะนั้นก็คงจะตรวจสอบเรื่องของตัวเธอเองอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งแล้วแน่ๆ!
ทันที่ที่เดินออกมาหน้าประตู เจียงสื้อสื้อก็พบกับซูชิงหยิง เธอสวมชุดเดรชสีฟ้าอ่อน พร้อมกับมือที่ถือกระเป๋ารุ่นใหม่ล่าสุดของหลุยส์วิตตอง และความรู้สึกสง่างามที่สูงส่งแผ่ซ่านออกมาทั่วร่างกาย
เจียงสื้อสื้อเดินเข้าไปหา ก่อนจะเปิดปากพูดทักทายอย่างแผ่วเบา “สวัสดีค่ะคุณซู”
ทั้งสองคนหาที่นั่งใกล้ๆ ซูชิงหยิงหันมามองเจียงสื้อสื้อ พร้อมทั้งพูดไปตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อม : “คุณเจียง คุณคงรู้แล้วใช่ไหมว่าเป้าหมายที่ฉันมาหาคุณเพราะอะไร! คุณน่ะไม่เหมาะสมกับเฟิงเฉินหรอกนะ ฉันหวังว่าคุณจะรู้ตัวแล้วยอมออกห่างจากเขาเองนะ”
ยังไม่ต้องพูดถึงปัจจัยด้านอื่นของเจียงสื้อสื้อก่อนเลย ปูมหลังของเจียงสื้อสื้อแบบนี้ก็ไม่เหมาะกับจิ้นเฟิงเฉินจริงๆ อีกอย่างยังเป็นผู้หญิงที่เคยมีลูกมาแล้วด้วยหนึ่งคน ผู้หญิงแบบนี้ถ้าหากคบกับจิ้นเฟิงเฉินล่ะก็ ซูชิงหยิงคงจะค้านหัวชนฝาแน่ๆ
พอได้ยินแบบนั้น แววตาของเจียงสื้อสื้อก็ส่อประกายออกมาแวบหนึ่ง พร้อมด้วยสีหน้าที่เย็นชาอยู่แบบนั้น
“ดูเหมือนว่าคุณซูจะยุ่งเกินไปแล้วล่ะมั้งคะ! ฉันจะเหมาะสมกับใคร คงไม่ต้องให้คุณเป็นคนบอกฉันหรอกค่ะ”
เจียงสื้อสื้อเองก็ยอมรับ ว่าความแตกต่างของตัวเองกับจิ้นเฟิงเฉินนั้นมากเกินไป ถ้าหากเป็นก่อนหน้านี้ หากซูชิงหยิงมาพบเธอแบบนี้ ในใจเธอคงจะรู้สึกลำบากใจ แล้วก็ดูถูกตัวเองเป็นแน่...แต่ตอนนี้นั้น เจียงสื้อสื้ออยากจะต่อสู้อะไรเพื่อตัวเองบ้าง
จิ้นเฟิงเฉินทำกับตัวเธอเองดีแบบนี้ ยังไงเจียงสื้อสื้อก็ต้องยอมรับ พวกเขาต่างคนก็ต่างชอบกัน เพราะฉะนั้นการที่เจอเขากับซูชิงหยิงอยู่ด้วยกันที่โรงพยาบาล คงจะเป็นอะไรที่เข้าใจผิดแน่ๆ
ถึงแม้ว่าระหว่างพวกเธอจะเหมือนกับโลกสองใบก็ตาม แต่เจียงสื้อสื้อก็ยังคงรู้สึกถึงความเป็นไปได้ ครั้งนี้ เธอไม่อยากที่จะละทิ้งและท้อถอยไป ดังนั้นเธอจึงมาเจอหน้ากับซูชิงหยิงที่นี่นั่นเอง
ซูชิงหยิงหัวเราะ น้ำเสียงของเธอฟังดูมีความมั่นใจอย่างมาก
“จะเอาแบบนี้ใช่ไหมเจียงสื้อสื้อ? ถึงคนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่ฉันรู้จักอดีตของเธอทะลุปรุโปร่งเลยนะ”
เจียงสื้อสื้อได้ยินก็นิ่งอึ้งไป ก่อนจะเงยหน้ามองซูชิงหยิง “คุณซูหมายความว่ายังไงหรือคะ?”
แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไม ในใจของเจียงสื้อสื้อตอนนี้รู้สึกสังหรณ์ไม่ดีเท่าไหร่ การที่ซูชิงหยิงมาพบเธอ มันเหมือนกับมีความมั่นใจอย่างไรอย่างนั้น หรือว่า......
ที่ซูชิงหยิงมาที่นี่ก็เพราะอยากให้เจียงสื้อสื้ออยู่ห่างๆ จากจิ้นเฟิงเฉิน ดังนั้นจึงพูดไปตรงๆ เลยว่า : “น้องสาวสุดที่รักของเธอบอกเรื่องราวในอดีตของเธอให้ฉันฟังหมดแล้วล่ะ รวมถึงตอนที่เธอหายตัวไปตอนนั้นด้วย ส่วนที่เธอไปทำอะไรนั้น คงไม่ต้องให้ฉันพูดหรอกใช่ไหม?”
จำต้องพูดเลยว่า ซูชิงหยิงรู้สึกขอบคุณคนในตระกูลเจียงอย่างมาก ไม่อย่างนั้นเธอคงได้แต่ยืนมองดูเจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินคบกัน โดยที่เธอไม่มีทางที่จะหยุดได้อย่างแน่นอน
เธอรู้สึกได้ว่า ขอเพียงตัวเองพยายามเข้าอีกสักนิด ก็สามารถเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับจิ้นเฟิงเฉินได้แล้ว แล้วพวกเขาก็จะสามารถอยู่ด้วยกันได้
แต่ตอนนี้นั้น เรื่องเมื่อหกปีก่อนกลับถูกเปิดเผยออกมา ทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกเพียงความขมขื่นที่ไหลเอ่อท่วมใจ
ใช่แล้ว! เธอน่าจะรู้ก่อนหน้านี้ ว่าในโลกนี้ไม่มีกำแพงไหนปิดกั้นลมได้มาก่อน ไม่ช้าก็เร็วเรื่องนี้ก็ต้องมีคนรู้แน่นอน
เจียงสื้อสื้อพยายามบอกตัวเองไม่ให้คิดเพ้อมากเกินไป ที่จริงระหว่างพวกเธอมันก็เป็นไปไม่ได้แม้แต่นิดอยู่แล้ว
เธอสูดหายใจเข้าลึก พร้อมกับนั่งน้ำตาคลออยู่แบบนั้น แล้วก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว จู่ๆ เธอก็คิดได้ว่าเสี่ยวเป่ายังอยู่ที่บ้าน เธอจึงทำได้เพียงฝืนข่มน้ำตาเอาไว้ พยายามปรับอารมณ์ของตัวเองให้คงที่ ก่อนจะเดินขึ้นชั้นบนไป
พอเสี่ยวเป่าเห็นเจียงสื้อสื้อกลับมา เขาก็วิ่งออกมาต้อนรับอย่างเบิกบานใจ แต่พอมองเห็นในมือที่ว่างเปล่าของเธอ เสี่ยวเป่าก็อดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัยว่า : “น้าสื้อสื้อไม่ได้ไปซื้อของหรอกหรือครับ?”
พลันเจียงสื้อสื้อก็ได้สติกลับมา ก่อนจะมองดูของที่ตัวเองซื้อกลับมา จึงยิ้มอธิบายไปว่า : “พอดีตลาดปิดนะจ้ะ”
“หือ?” พอเสี่ยวเป่าได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกสงสัยหน่อยๆ เพราะแถวนี้ก็มีตลาดอยู่ตั้งเยอะ หรือว่าทุกที่จะปิดหมดกัน? แถมยังออกไปตั้งนานอีกด้วย
“หิวหรือยังจ้ะเสี่ยวเป่า?” เจียงสื้อสื้อคุกเข่าลงก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยทันที
หนุ่มน้อยก็พยักหน้าอย่างสัตย์ตรง
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวน้าจะไปทำอาหารให้นะจ้ะ” เจียงสื้อสื้อมองดูวัตถุดิบหลายอย่างที่เพิ่งจะซื้อมามากมาย พร้อมทั้งคิดอยู่ในใจว่า ทำให้คืนสุดท้ายนี้เป็นคืนที่วิเศษกันดีกว่า! หลังจากพรุ่งนี้ไป เธอต้องตัดขาดความคิดนี้ทิ้งทั้งหมดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!