บทที่ 206 ลากเธอให้ไปตายด้วยกัน
ตลอดทางจิ้นเฟิงเฉินนั้นกระวนกระวายใจมาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้มาเกิดขึ้นกับตัวเองได้
ถ้าเจียงสื้อสื้อเกิดเป็นอะไรขึ้นมา เกิดว่าเธอไม่สามารถฝืนขึ้นมาได้อีกแล้วเขาควรจะทำอย่างไรดี? ……จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกผิดมากจนถึงที่สุด เขาไม่ควรพาเจียงสื้อสื้อมาที่นี่เลย ไม่อย่างนั้นก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
เขาขับรถด้วยความเร็วที่สูงที่จนมาถึงที่โรงพยาบาล ระหว่างทางไม่รู้ว่าเขาฝ่าไฟแดงไปแล้วกี่ครั้ง พอถึงโรงพยาบาลเขาก็รีบอุ้มเจียงสื้อสื้อลงจากรถทันที
พอหมอมารับตัวเจียงสื้อสื้อไปจิ้นสื้อสื้อก็ได้แต่ยืนรออยู่หน้าประตู
หลังจากตรวจดูอาการแล้วคุณหมอก็ได้เดินออกมารายงานอาการว่า “คุณจิ้นครับ คุณสบายใจได้ ศีรษะของคุณเจียงนั้นถูกกระทบกระเทือนนิดหน่อย ตามร่างกายส่วนใหญ่ก็เป็นแค่แผลถลอก ไม่ได้มีอาการอะไรที่น่าเป็นห่วง ตอนนี้เธอได้ถูกย้ายไปที่ห้องทั่วไปแล้ว คาดว่าพรุ่งนี้ก็คงได้สติกลับมาแล้วครับ”
พอได้ยินอย่างนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็ทิ้งตัวลงที่กำแพง หลับตาลงแล้วก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันที หัวใจที่เต้นรัวในที่สุดก็สามารถสงบลงได้เสียที
โชคดีจริงที่เธอไม่ได้เป็นอะไรมาก
เจียงสื้อสื้อ ขอบคุณมากจริงๆ ที่คุณยังมีชีวิตอยู่
……
หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ตำรวจกับคู่กรณีก็ได้มาถึง
“คุณคะ ฉันขอโทษจริงนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณผู้หญิงคนนี้จะออกมากลางถนนแบบกระทันหันแบบนั้น ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ ฉันยินดีรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดเองค่ะ” คู่กรณีขอโทษด้วยความจริงใจ
จิ้นเฟิงเฉินเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะให้เธอต้องรับผิดชอบ เขาจึงตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไรครับ เธอไม่ได้เป็นอะไรแล้วและต้องขอบคุณคุณจริงๆ ที่ตอนนั้นหักหลบได้ทัน ทางเราไม่ได้ติดใจอะไรในเรื่องนี้ครับ”
สุดท้ายปัญหาทั้งหมดมันเกิดจากซูชิงหยิง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เจียงสื้อสื้อก็คงไม่ถูกผลักออกไปกลางถนนแบบนั้น
คู่กรณีกล่าวขอบคุณจิ้นเฟิงเฉินอยู่หลายรอบก่อนจากไป ตำรวจเองก็สอบถามรายละเอียดคร่าวๆ จากจิ้นเฟิงเฉินแล้วก็จากไปเหมือนกัน
จิ้นเฟิงเฉินจึงเขาไปนั่งเฝ้าเจียงสื้อสื้อต่อ หลังจากนั้นไม่นาน ไม่ได้ยินเรื่องนี้เข้าเสี่ยวเป่ากับจิ้นเฟิงเหราก็รีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลทันที
พอรู้ว่าเจียงสื้อสื้อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเสี่ยวเป่าจะเป็นห่วงเธอมากขนาดไหน เขารีบเดินทางมาโรงพยาบาลกับจิ้นเฟิงเหราอย่างรวดเร็ว หนุ่มน้อยคนนี้ถือว่าถูกทำให้ตกใจเป็นอย่างมาก พอเห็นเจียงสื้อสื้อที่นอนไม่ได้สติอยู่ในห้องคนไข้ เขาก็ร้องไห้ออกมาทันที
“พ่อครับ อาครับ น้าสื้อสื้อเธอเป็นอะไรไปเหรอครับ? เธอยังจะฟื้นขึ้นมาได้อีกจริงๆ ใช่ไหมครับ?”
พอเห็นเสี่ยวเป่าร้องไห้ออกมาอย่างนั้นทำเอาจิ้นเฟิงเหราที่อยู่ข้างๆ ตกถึงกับตกใจเลย เขาจึงรีบปลอบไปว่า “เสี่ยวเป่าครับ น้าสื้อสื้อไม่ได้เป็นอะไรแล้ว เดี๋ยวก็คงได้สติกลับมาแล้วหล่ะ เสี่ยวเป่าไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ โอ๋ๆ หยุดร้องได้ไหมครับ?”
“จริงเหรอครับ? แต่ว่าบนตัวของน้าสื้อสื้อมีแผลมากมายเลยนะครับ เธอต้องเจ็บมากแน่ๆ เลยใช่ไหมครับ?”
เสี่ยวเป่ายังคงร้องไห้ต่อไป เมื่อจิ้นเฟิงเฉินที่พยายามปลอบเขาแต่ก็ทำไม่สำเร็จ สุดท้ายจิ้นเฟิงเฉินจึงต้องออกโรงเอง
“เสี่ยวเป่าครับ เป็นเด็กดีนะ หยุดร้องไห้ได้แล้วนะ น้าสื้อสื้อต้องการพักผ่อนอย่างเงียบๆ น้าเขาจึงจะสามารถตื่นขึ้นมาได้เร็วๆ ไงครับ”
แล้วเสียงร้องของเสี่ยวเป่าก็เงีวบลงในทันที น้ำตาที่เอ่อล้นก็หยุดใหลไปในที่สุด แต่งดวงตาของเด็กน้อยยังคงแดงก่ำอยู่ ตอนนี้เขายอมไปนั่งรออยู่ข้างเตียงของเจียงสื้อสื้ออย่างว่าง่าย ดูแล้วช่างน่าสงสารเหลือเกิน ทำเอาจิ้นเฟิงเฉินที่เห็นเข้าก็รู้สึกปวดใจอยู่เหมือนกัน
“พี่ครับ ทำไมอยู่ดีๆ พี่สะใภ้ถึงไปถูกรถชนเข้าหล่ะครับ?” จิ้นเฟิงเหราหันไปถามพี่ชายของเขา
“เป็นเพราะซูชิงหยิงที่กำลังเมา เธอไม่ทันระวังผลักเจียงสื้อสื้อออกไปกลางถนน”
จิ้นเฟิงเฉินเล่าเหตุการณ์คร่าวๆ ให้น้องชายฟัง พอได้ฟังจิ้นเฟิงเหราก็โมโหขึ้นมาทันที
“โอ้ย ผู้หญิงคนนี้ก็ประมาทเกินไปหรือเปล่าเนี่ย! โชคยังดีที่พี่สะใภ้ไม่ได้เป็นอะไรมาก”
ถ้าหากเจียงสื้อสื้อเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ แล้วตระกูลจิ้นกับตระกูลซูยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอีก เรื่องนี้ต้องยุ่งยากแน่ๆ
“อืม นี่ก็ดึกมากแล้ว แกพาเสี่ยวเป่ากลับไปพักก่อนเถอะ!”
พอเสี่ยวเป่าได้ยินก็รีบปฏิเสธทันที
“ไม่ ผมไม่กลับครับ ผมจะเฝ้าน้าสื้อสื้ออยู่ตรงนี้ รอจนน้าเขาจะฟื้นตื่นขึ้นมาครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!