บทที่ 245 ขอแต่งงาน
ในกล่องนั้น คือแหวนเพรชหนึ่งวง
ภายใต้แสงจันทร์ที่สลัวๆนั้น แหวนเพรชที่เขาตั้งใจเลือกมานั้นเจิดจ้าดึงดูดสายตากว่าเดิม
เจียงสื้อสื้อแทบจะอึ้งไปเลย เธอไม่กล้าคิดว่า การขอแต่งงานจะมาแบบไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้
เธอยังจำได้แม่น ฉากที่เขาเอาวงของกระป๋องขอแต่งงานกับเธอในตอนนั้น
“ขอถามหน่อยว่า คุณเจียงสื้อสื้อ คุณยอมที่จะแต่งงานกับคุณจิ้นเฟิงเฉินมั้ยครับ?และนั้นก็คือผม”จิ้นเฟิงเฉินน่าจะตื่นเต้นเช่นกัน เสียงตอนขอแต่งงานนั้นจึงแหบๆไว้
เจียงสื้อสื้อมองดูจิ้นเฟิงเฉินที่ยังคงคุกเข่าข้างเดียวอยู่ มองดูเขาแบบทำตัวไม่ถูก
เรื่องนี้เกิดขึ้นฉับพลันมาก......
เธอยังไม่ทันที่จะเตรียมใจไว้เลย
อีกอย่าง เธอก็เพิ่งที่จะมั่นใจว่า จะคบกับเขา
วงของกระป๋องก่อนหน้านี้ เป็นแค่การเล่นๆกัน แต่รอบนี้เป็นแหวนขอแต่งงานของจริงเลยนะ!
สีหน้าที่จิ้นเฟิงเฉินขอแต่งงานนั้น คือตั้งใจและน่าเกรงขามขนาดนี้
เจียงสื้อสื้ออึ้งไปสักพักใหญ่ แล้วพูดแบบตะกุกตะกักว่า:“ฉัน......”แต่แล้ว เธอก็ไม่สามารถเรียบเรียงประโยคอะไรได้เลย
เสี่ยวเป่ามองดูเธอด้วยความหวัง:“คุณน้าสื้อสื้อ คุณรีบตอบตกลงแดดดี๊สิ!”
ยิ่งจิ้นเฟิงเหราก็ให้กำลังใจอยู่ข้างๆนั้น “พี่สะใภ้ ตอบตกลง ตอบตกลง......”
บนใบหน้าของเจียงสื้อสื้อเต็มไปด้วยความสับสนและลังเล ยังไงแล้วเธอก็ยังคิดว่าเรื่องนี้ยังเร็วเกินไป
จิ้นเฟิงเฉินรอไปตั้งนาน ก็ยังคงที่จะไม่ได้คำตอบจากเธอ
เขาแค่รู้สึกว่าตนเองตึงเครียดจนจะขาดใจแล้ว เขาสูดอากาศเข้าลึกๆ แล้วพูดแบบกลั้นหายใจว่า:“ผมรู้ว่ายังรีบเกินไป คุณยังไม่ทันได้เตรียมพร้อม”
ระหว่างพูด เขาก็จับมือของเธอมา แล้วสวมแหวนให้กับเธอทันที ไม่เป็นไร คุณไม่ต้องรีบตอบตกลง สวมแหวนนี้ไปก่อนนะ”
บนนิ้วมือ รู้สึกเย็นๆแวบหนึ่ง เจียงสื้อสื้อก้มหัวลง แหวนนั้นสวมอยู่บนนั้นแล้ว
เธอทำตัวไม่ถูก ขนาดแหวนนี้จิ้นเฟิงเฉินยังสวมให้เธอเลย แสดงว่าหมายถึงเธอตอบตกลงแล้ว
ถึงตอนนี้ เธอเพิ่งจะสังเกตได้ว่า เครื่องตกแต่งบนต้นซากุระนั้น ก็คงเป็นผลงานของพวกจิ้นเฟิงเฉินขาแล้วแหละ
คนที่เย็นชาอย่างเขานี้ ยังตั้งใจตกแต่งสถานที่ขอแต่งงานให้โรแมนติกเช่นนี้เป็นด้วย
ถึงแม้ว่าเธออยากจะปฏิเสธ ก็คงพูดออกมาไม่ได้แล้วละ
จิ้นเฟิงเฉินเห็นสีหน้าของเธอ เดาได้ว่าในใจของเธอนั้นตอบตกลงแล้ว
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยินเธอตอบตกลงออกมาด้วยตนเอง มีความเสียดายหน่อย แต่ก็ดีที่เธอไม่ได้ปฏิเสธทันที
เขายิ้ม แล้วได้ยินจิ้นเฟิงเหราพูดขึ้นมาว่า:“พี่ชาย พี่สะใภ้ ยินดีกับพวกคุณด้วยนะ ช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ พวกเราควรฉลองกันหน่อยมั้ย?”
จิ้นเฟิงเหราวางแผนพวกนี้ไว้หมดแล้ว แล้วพูดอีกว่า:“พี่สะใภ้ รีบหั่นเค้กสิ”
เจียงสื้อสื้อหน้าแดงขึ้นมาทันที จิ้นเฟิงเหราเรียกตนว่า“พี่สะใภ้”นี้ น่าอายมากเลย
ส่วนเสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างๆนั้น ตาโตคู่นั้นกระพริบๆอยู่ แล้วมองจิ้นเฟิงเฉินด้วยความตั้งใจ “แดดดี๊ งั้นเสี่ยวเป่าก็เรียกคุณน้าสื้อสื้อว่าหม่ามี๊ได้แล้วใช่มั้ย?”
จิ้นเฟิงเฉินอึ้งไปสักพัก เขาไม่คิดว่า เสี่ยวเป่ารีบกว่าเขาอีก
แต่ว่า เขาก็พยักหน้าตอบรับแล้ว ไม่มีความลังเลแม้แต่นิด “แต่ว่าคุณต้องถามคุณน้าสื้อสื้อของคุณว่าได้หรือเปล่าก่อนนะ”
สุดท้ายก็ยังต้องเคารพความคิดเห็นของเจียงสื้อสิ้อด้วย จิ้นเฟิงเฉินอยู่ต่อหน้าเธอ ไม่อยากตัดสินใจให้เอง
เสี่ยวเป่าหันตัวหาเจียงสื้อสื้อทันที มองมาที่เธอด้วยสายตาที่หวังมากๆ ถามแบบอ้อนวอนว่า:“หม่ามี๊ ได้มั้ยครับ?”
นี้......สองพ่อลูกนี้ คนหนึ่งตรงกว่าคนหนึ่งจริงๆเลยนะ ขนาดวิธีการทำก่อนแล้วค่อยขอนี้ อย่างเล่นได้เก่งขนาดนี้
เห็นสายตาที่คาดหวังมากๆของเสี่ยวเป่านั้น เจียงสื้อสื้อก็ปฏิเสธไม่ลง ก็เลยทำได้แค่หน้าแดง แล้วตอบตกลง
ทันได้นั้นภายในของเธอก็สลัวๆ เธอจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันกับจิ้นเฟิงเฉิน แล้วก็เสี่ยวเป่าแล้วหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!