ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 248

บทที่ 248 ปิกนิก

ยังไงแล้วซูชิงหยิงก็เป็นลูกคุณหนูที่เลี้ยงมาดี เดินไปได้แค่แป๊บเดียวก็เหนื่อยจนเริ่มหอบแล้ว

เธอจ้องมองเจียงสื้อสื้อที่เดินเร็วอยู่หน้าเธออย่างงุนงง เป็นคนที่ออกมาจากบ้านคนจนเลยนะ แข้งขาถึงได้มีเรี่ยวแรงขนาดนี้

“เสี่ยวเป่า คุณเดินช้าหน่อย!”

ถึงแม้ว่าทางเดินขึ้นเขานี้จะขดไปขดมา แต่บนทางขึ้นก็มีแผ่นหินให้เหยียบอยู่

ทางเดินไม่ค่อยยาก เสี่ยวเป่าขี้เล่น ก็เลยวิ่งได้เร็วมาก

เจียงสื้อสื้อกลัวว่าเขาจะวิ่งเร็วเกิน แล้วสะดุดแบบไม่ระวังอีก จึงตามหลังเขาด้วยความเป็นห่วง ไม่กล้าไปคิดเรื่องอื่น

จิ้นเฟิงเฉินเดินตามด้วยความอยากยิ้ม แล้วก็เหมือนกันเธอ มองดูเสี่ยวเป่าแบบไม่ละสายตา

พอปีนถึงกลางทาง แรงของเสี่ยวเป่าก็หมดไปแล้ว

เขาหลุดลงมา บนหน้าผากนั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ

อายุแบบเสี่ยวเป่านี้ ก็เป็นแบบแค่ทำอะไรนิดหน่อย ก็จะมีเหงื่อไหลเต็มตัวอยู่แล้ว

ลมที่พัดบนภูเขา แรงมาก

เจียงสื้อสื้อรีบเอาผ้าที่สะอาดออกมาหนึ่งผืนจากกระเป๋าที่สะพายอยู่ตลอดเวลา แล้วช่วยเสี่ยวเป่าเช็ดตัวขึ้นมา

“เสี่ยวเป่าฟังนะ เดี๋ยวเดินช้าหน่อย”มือของเธอนั้นเช็ดเร็วมากกลัวว่าถ้าเช็ดช้าไป เสี่ยวเป่าอาจเป็นหวัด

รอจนเจียงสื้อสื้อช่วยเขาเช็ดเหงื่อออกจนหมด เสี่ยวเป่าก็อ้อนอยู่ในอ้อมกอดของเธอ พูดแบบอ้อนวอนว่า:“หม่ามี๊ คุณอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นเขานะ เสี่ยวเป่าเดินไม่ไหวแล้ว”

เธอมองดูเสี่ยวเป่าด้วยความเอ็นดู ก้มลงนิดหน่อย กำลังจะอุ้มเขาขึ้นมา

แต่ก็มีมือคู่หนึ่งยื่นออกมาจากข้างๆ ช่วยเธออุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นก่อน

เจียงสื้อสื้อเอียงหัวไปมอง เห็นว่าคือจิ้นเฟิงเฉินอุ้มขึ้น จึงพูดว่า:“ฉันอุ้มเองนะ”

“คุณก็เหนื่อยแล้ว พวกเราพักก่อนนะ”จิ้นเฟิงเฉินเห็นว่าเธอก็เหนื่อยแล้ว แต่ก็ยังจะเสนอตัวอีก จึงอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้น แล้วดึงเธอไปนั่งบนก้อนหินข้างๆนั้น

ซูชิงหยิงก็แค่อยากตามพวกเขาไป เห็นว่าพวกเขากว่าจะนั่งลงแล้ว จึงหาที่ที่อยู่หลังพวกเขาอีกที่หนึ่งแล้วนั่งด้วย

ตาคู่นั้น เต็มไปด้วยความโกรธแค้นกับความไม่พอใจ

และในตอนนี้ พวกจิ้นเฟิงเหราเขาก็ถึงบนยอดเขานานแล้ว

จิ้นเฟิงเหราเห็นว่าพวกจิ้นเฟิงเฉินเขาไม่ได้ตามขึ้นมา จึงมองไปที่ด้านล่าง แล้วเห็นว่าซูชิงหยิงกำลังจ้องมองพวกจิ้นเฟิงเฉินเขาอย่างโกรธแค้น

เขาแค่รู้สึกปวดหัว จึงอดไม่ได้ที่จะด่าออกไปว่า:“พวกคุณดูนี้สิ นี้คือทำงานประสาอะไร พวกคุณเรียกซูชิงกยิงทำไมวะเนี่ย?”

“คุณชายรองครับ พวกผมก็ไม่รู้ว่าเธอจะตามมานะ”พวกเขาโดนด่า ในใจนั้นก็รู้สึกไม่สบาย

คนที่อยู่ในวงการของพวกเขานี้ ที่ที่มีงานเลี้ยง ก็มีแค่ไม่กี่อันนั้น

ต้องเป็นเพราะว่าตอนพวกเขาปรึกษากันนั้น แล้วทำให้ซูชิงหยิงได้ยินพอดี

จิ้นเฟิงเหราก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ถอนหายใจหนักๆ ก็ทำได้แค่เดินขึ้นยอดเขาอีกไม่กี่ก้าว หาพื้นที่ดีๆ เตรียมตัวกางเต้นท์

แล้วเจียงสื้อสื้อที่กำลังนั่งพักอยู่กลางภูเขานั้น ก็หันหัวไปถามเสี่ยวเป่าว่า:“เสี่ยวเป่า ตอนนี้คุณยังเดินต่อได้มั้ย?”

เสี่ยวเป่าพยักหน้า เขาลุกขึ้นอย่างฉับพลัน แล้วเดินไปข้างหน้าแบบมีแรงเยอะมาก

จิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อสบตากันแล้วก็ยิ้ม ซ้ายหนึ่งขวาหนึ่งเดินตามข้างตัวของเสี่ยวเป่าไป

ก็ใกล้จะถึงยอดเขาแล้ว พวกเขากลัวว่าอายุของเสี่ยวเป่ายังน้อย ตอนที่ขึ้นเขานั้น จึงเดินไปหยุดไป พูดหยอกเล่นกันตลอดทาง

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง พวกเขาถึงจะขึ้นถึงยอดเขาได้

จิ้นเฟิงเหราเห็นว่าพวกเขาขึ้นมาแล้ว จึงวิ่งไปหาแบบกระตือรือร้น “พี่ชาย พี่สะใภ้ เต้นท์ที่ใหญ่ที่สุดนั้น คือเหลือไว้ให้พวกคุณนะ”

เจียงสื้อสื้อมองไปทางที่เขาชี้นั้น อดไม่ได้ที่จะอึ้ง เธอไม่คิดว่าพวกจิ้นเฟิงเหราเขาจะทำได้เร็วขนาดนี้

บนยอดเขานั้นมีเต้นท์กางขึ้น 5-6 เต้นท์แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!