บทที่ 290 มีผมอยู่
“ในเมื่อไม่ลืม งั้นทำไมคุณรับปากให้สาวน้อยคนนั้นเข้ามาอยู่ล่ะ?” แม่ซูบีบบังคับถามอีกครั้ง
วนกลับมาเรื่องนี้อีก
แม่จิ้นคิดไปสักพัก รู้สึกว่าจำเป็นต้องพูดให้ชัดเจน
จากนั้น เธอไตร่ตรองพูดว่า “อันดับแรก เธอได้ช่วยเสี่ยวเป่า มีบุญคุณต่อพวกเราตระกูลจิ้น ที่สอง เธอบาดเจ็บแล้ว ไม่มีคนดูแล เธอเข้ามาอยู่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันยอมรับเธอแล้ว”
“สิ่งที่ฉันควรพูดล้วนพูดหมดแล้ว หากว่าคุณ หรือว่าชิงหยิงในใจไม่พอใจ งั้นฉันก็ไม่มีทางอื่นแล้ว”
แม่จิ้นใจเกิดความเหนื่อยหน่ายต่อพวกเธอเป็นครั้งแรก
เธอไม่ชอบคนที่เหลวไหลมั่วซั่ว
แม่ซูก็ได้สังเกตถึงท่าทีของเธอเย็นชา ก็ชัดเจนว่าตนเองยกตนข่มท่านเล็กน้อยจริงๆ
“มู่หลัน วันนี้ฉันมาก็ไม่มีความหมายอื่น ฉันแค่อยากให้คุณจำคำพูดที่ตนเองเคยพูดมา ยังไงก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างจิ้นซูทั้งสองตระกูลวางไว้ที่ไหนล่ะ เพราะว่าคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องคนหนึ่งทำร้าย ความสัมพันธ์ก็ไม่ดี”
นี่คือเธอกำลังขู่ตัวเธออยู่หรือ?
ในใจแม่จิ้นไม่พอใจมาก แต่บนใบหน้ายังรักษารอยยิ้มไว้เล็กน้อย รอยยิ้มกลับไม่ถึงนัยน์ตา “คำพูดที่ฉันเคยพูดย่อมจำได้อยู่ดี แต่เฟิงเฉินมีความคิดของตัวเขาเอง ฉันเป็นแม่คนหนึ่งก็ไม่สามารถบงการเขา”
ในความหมายที่พูดไว้ก็คือ ทั้งหมดยังต้องเป็นจิ้นเฟิงเฉินพูดแล้วจึงจะถูก สิ่งที่เธอพูดไม่มีผล
แม่ซูก็ถือว่าเข้าใจแล้ว ความโมโหดันขึ้นมาอยู่ในอก อยากระบายก็ไม่สามารถระบายได้ ได้แค่อดทน ยังต้องบังคับยิ้ม “ได้ค่ะ ฉันรู้ความหมายของคุณแล้ว”
“คุณหญิงซู เชิญดื่มน้ำชา”
พ่อบ้านถือน้ำชามา ยกน้ำชาให้เธอ
แม่ซูเหล่ตามองน้ำชาแก้วนั้นอย่างเย็นชา ในที่สุดก็อดทนไม่ไหว ฮึ เย็นชาพูดว่า “ชาของตระกูลจิ้น ฉันดูแล้วฉันคงดื่มไม่ลงล่ะ”
พูดจบ เธอลุกขึ้นมา “ฉันกลับไปก่อนแล้ว”
มองก็ไม่มองแม่จิ้นสักครั้ง เธอหมุนตัวจากไปอย่างก้าวใหญ่
พ่อบ้านมึนงงเต็มใบหน้า “นี่คืออะไรกันแน่?”
“ไม่มีอะไร”
แม่จิ้นนวดขมับที่เจ็บปวดเล็กน้อย นวดแล้วนวดอีก สูดลมหายใจเบาๆหนึ่งที นี่ถือว่าผิดต่อกับตระกูลซูแล้วมั้ง
เธอหันหน้ามองไปยังชั้นบน ยักคิ้วหนึ่งที แท้ที่จริงแล้วเทียบกับซูชิงหยิง เจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
อย่างน้อยก็รู้กาลเทศะรู้จักหลบหลีก
……
เจียงสื้อสื้อไม่รู้ตัวว่าตนเองโชคดีที่มีซูชิงหยิง ก็ทำให้แม่จิ้นต่อตนเองมีการเปลี่ยนแปลงมุมมองของตนเองอีก
เธอกับจิ้นเฟิงเฉินส่งข้อความเสร็จแล้ว ก็นอนหลับอยู่บนเตียงเลย
“คร่อก คร่อก........”
ตอนที่นอนจนเบลอๆ เธอเหมือนได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กๆ
อีกทั้งบนใบหน้ายังคันๆอยู่
เธอลืมตาทั้งคู่ขึ้นอย่างลำบาก ใบหน้าที่อ่อนนิ่มเล็กๆใบหนึ่งตกเข้าไปสู่นัยน์ตา
“เสี่ยวเป่า”
เห็นเธอตื่นแล้ว เสี่ยวเป่ารีบเอามือไขว้หลังไว้ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอย่างเบิกบาน “หม่ามี๊ ท่านตื่นแล้วล่ะ”
แม้ว่าการเคลื่อนไหวของเขาเร็วมาก เธอก็ยังได้เห็นสีแดงที่กวาดผ่านแว๊บๆ
ใบหน้าของเธอเมื่อกี้คันๆอยู่ หรือว่า........
เจียงสื้อสื้อนึกถึงอะไรได้ รีบกระโดดลงจากเตียงพุ่งเข้าไปห้องน้ำ
“โอ้พระเจ้า! นี่คืออะไรล่ะ?”
ตอนที่ได้เห็นตนเองอยู่ในกระจก เธอร้องอย่างตื่นตะลึง
ใบหน้าของเธอถูกทาสีหลายๆสี มองแล้วน่าตกใจเป็นพิเศษ
“เสี่ยวเป่า!”
เธอวิ่งออกจากห้องน้ำ แต่เสี่ยวเป่าไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว
ทันทีนั้น เธอจะโมโหก็ไม่ใช่ ไม่โมโหก็ไม่ได้
นึกถึงใบหน้าที่น่าตลกของตนเอง เธออดไม่ได้หัวเราะขึ้นมา จากนั้นกลับไปที่ห้องน้ำ ล้างหน้าให้สะอาด
รอเธอออกมา เสี่ยวเป่าไม่รู้ว่าทำไมกลับมาที่ห้องนอนอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!