บทที่ 300 รักษาเด็กเอาไว้ไม่ได้
พอเห็นว่าเธอมีท่าทีนิ่งเงียบไป จิ้นเฟิงเฉินก็ขมวดคิ้วขึ้นถาม : “นี่คุณโกรธอยู่หรือเปล่า?”
“เปล่านี่คะ” เธอเพียงแค่ไม่ชินที่เขาเป็นคนเลือดเย็นแบบนี้ แม้กระทั่งเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่ง ก็ยังเลือดเย็นได้ขนาดนี้เลย
“แสดงว่าคุณโกรธอยู่” จิ้นเฟิงเฉินพูด “สื้อสื้อ ผมรู้ว่าคุณมีจิตใจเมตตาแค่ไหน แล้วก็รู้ว่าเด็กคนนั้นก็เป็นแค่คนบริสุทธิ์คนหนึ่ง ซึ่งผมไม่ปฏิเสธหรอกว่าเด็กคนนั้นเป็นคนบริสุทธิ์ แต่คุณอย่าลืมสิว่าพ่อกับแม่ของเขาเป็นใคร พ่อกับแม่ของเขาทำร้ายคุณไว้ยังไงบ้าง พอคิดแบบนี้ คุณก็จะไม่คิดว่าเขาบริสุทธิ์แล้วล่ะ”
เขาหวังว่าเธอจะเข้าใจ ว่าบางครั้งคนเราก็ไม่ได้มีจิตใจเมตตาขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นจะเป็นการให้โอกาสคนมาทำร้ายตัวเองได้
“ฉันรู้แล้วล่ะค่ะ” เจียงสื้อสื้อตอบกลับไปอย่างเรียบเฉย
ชั่วขณะหนึ่งนั้น เธอยอมรับคำพูดของเขาไม่ได้จริงๆ และเขาเองก็ไม่ได้ฝืนบังคับอะไรเธอ ทำเพียงแค่ยิ้มและเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไป : “เสี่ยวเป่ายังรอคุณกลับมาพาเขาไปทะเลอยู่นะ ถ้างั้นพวกเราออกไปกันตอนนี้เลยดีไหม?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้ารับ
จิ้นเฟิงเฉินเองก็เรียกให้เสี่ยวเป่าลงมาจากชั้นบน
พอเสี่ยวเป่าเห็นเจียงสื้อสื้อ เขาก็พุ่งเข้ามาถามอย่างดีอกดีใจ : “พวกเราจะไปที่ชายหาดกันไหมครับ?”
“อืม” จิ้นเฟิงเฉินลูบหัวของเขา “เตรียมของเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
“เรียบร้อยครับผม” เสี่ยวเป่าตอบอย่างหนักแน่น
จิ้นเฟิงเฉินเห็นแบบนั้นก็ยิ้มขึ้น “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันเลย”
ทั้งสามคนต่างก็พากันออกเดินทางไปที่บ้านพักตากอากาศริมทะเล เพื่อเตรียมจะใช้ชีวิตในสองวันสุดสัปดาห์ อย่างสงบสุข
ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่ง เจียงนวลนวลก็กำลังถูกผลักเข้าไปในห้อง ICU
เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า หลานซือเฉินที่รออยู่ด้านนอก ก็เดินไปเดินมาอย่างรู้สึกไม่สงบจิตสงบใจได้เลย
“อย่าเดินไปเดินมาได้ไหมซือเฉิน ป้าแทบจะเวียนหัวหมดแล้วเนี่ย” เสิ่นซูหลันพูดออกไปอย่างไม่พอใจ เดิมทีเธอก็เป็นห่วงลูกสาวตัวเองจะแย่อยู่แล้ว พอเห็นเขาเดินไปเดินมาแบบนี้อีก ยิ่งทำให้จิตใจรู้สึกยุ่งเหยิงมากกว่าเดิม จนแทบจะเวียนหัวเลยทีเดียว
หลานซือเฉินหันมามองเธอ ก่อนจะเดินไปยืนพิงข้างกำแพง พร้อมจ้องเขม็งไปที่ประตูห้อง ICU นั้น
ทันทีที่เจียงเจิ้นรู้ข่าวก็รีบมาทันที เขาหันไปมองดูห้อง ICU แวบหนึ่ง ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเสิ่นซูหลัน แล้วก็ถามขึ้นอย่างร้อนใจว่า : “นวลนวลเป็นยังไงบ้าง? ลูกไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ยังอยู่ในห้อง ICU อยู่เลย จะเป็นอะไรหรือเปล่าก็ยังไม่รู้”
เจียงเจิ้นขมวดคิ้วแน่น “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นน่ะ? ทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้?”
พอได้ยินเขาถามแบบนั้น เสิ่นซูหลันก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา : “ก็เพราะลูกสาวตัวดีของคุณยังไงล่ะ เป็นเพราะโดนเธอทำร้าย ถ้าไม่ใช่เพราะเธอล่ะก็ นวลนวลก็คงไม่ล้มลงไปแบบนั้น!”
“คุณป้าครับ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับสื้อสื้อเลยนะครับ” หลานซือเฉินเห็นว่าเธอกล่าวโทษเจียงสื้อสื้ออีกครั้ง ก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกไป
“นี่หมายความว่ายังไงน่ะซือเฉิน?” เสิ่นซูหลันหันกลับมาจ้องเขาอย่างฉุนเฉียว “นี่คุณออกตัวแทนผู้หญิงคนนั้นหรือยังไง?”
“คุณป้าครับ ผมพูดความจริงนะครับ ทำไมถึงกลายเป็นว่าผมพูดแทนสื้อสื้อไปล่ะครับ?” หลานซือเฉินมองเธออย่างอดขำไม่ได้
“นี่คุณ!” เสิ่นซูหลันโกรธจนพูดอะไรไม่ออก
หลานซือเฉินหันไปพูดกับเจียงเจิ้น “คุณอาครับ พอดีนวลนวลล้มลงไปแบบไม่ระวังเองน่ะครับ”
“คุณอย่าไปฟังเขาพูดจามั่วซั่วนะ!” เสิ่นซูหลันฉุนเฉียวจนตะโกนออกมา “เห็นๆ อยู่ว่าคนต่ำช้าอย่างสื้อสื้อเป็นคนผลักเธอด้วยซ้ำ!”
“คุณป้าครับ พูดแบบนี้มันก็เกินไปนะครับ เห็นๆ อยู่ว่าสื้อสื้อไม่ได้ผลักนวลนวลเลยแม้แต่น้อยนะครับ!”
“ป้าบอกว่าเป็นก็ต้องเป็นสิ!”
“นี่คุณป้า......”
“พอได้แล้ว!” เจียงเจิ้นตะโกนขึ้นมาอย่างฉุนเฉียว
หลานซือเฉินทำได้เพียง กลืนคำพูดที่จะโต้เถียงนั้นกลับลงไป
“ซือเฉิน” เจียงเจิ้นหันมามองเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ตอนนี้นวลนวลยังรักษาตัวอยู่ นายไม่ควรจะไปพูดอะไรแทนผู้หญิงอีกคนหรอกนะ”
“คุณอาครับ คือผม......”
หลานซือเฉินเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก แต่เจียงเจิ้นก็ยกมือขึ้นปรามไว้ “ไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะ อาแยกแยะเองได้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
ในเมื่อเขาพูดแบบนี้ ก็คงไม่ดีหากหลานซือเฉินยังคงดึงดันพูดต่อไป
ซึ่งในขณะนั้นเอง ประตูห้อง ICU ก็ถูกเปิดออก พร้อมกับพยาบาลคนหนึ่งเดินออกมา
“ญาติของคุณเจียงนวลนวลอยู่ไหมคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!