ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 342

สรุปบท บทที่ 342โน้มตัวจูบเธอ: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

ตอน บทที่ 342โน้มตัวจูบเธอ จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 342โน้มตัวจูบเธอ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่เขียนโดย เมียวเมียว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 342โน้มตัวจูบเธอ

หลังจากออกมา ส้งหวั่นชีงอารมณ์ซับซ้อน

คิดไม่ถึงว่าเพื่อนร่วมงานที่อยู่ด้วยกันทั้งเข้าทั้งเย็น จะพูดลับหลังแบบนี้ และไม่เหลือเยื่อใยใดๆทั้งสิ้น ดูท่าแล้ว เธอยังต้องขอบคุณเรื่องของครั้งนี้ ที่ทำให้เห็นธาตุแท้ของพวกเธอ

ต่อไป เป็นได้แค่เพื่อนร่วมงาน เป็นเพื่อนน่ะเหรอ? ช่างมันเถอะ

ส้งหวั่นชีงไม่ได้รู้สึกเสียใจสักเท่าไหร่ เพียงแต่ต่อไปคงไม่ต้องทุ่มเทให้คนพวกนี้เต็มร้อยแล้ว

เมื่อคืนยากที่เธอได้ตามใจตัวเองสักครั้ง ดื่มไปค่อนข้างมาก จนถึงตอนนี้ขมับยังเต้นตุ๊บๆๆอยู่เลย

ส้งหวั่นชีงใช้มือรับน้ำมาตบที่ใบหน้า และพยายามยกมุมปากขึ้น หลังจากสีหน้าดูไม่ค่อยแย่แล้ว ถึงฮึดสู้ขึ้นมา กลับไปที่ตำแหน่งงานของตัวเอง

“เธอไปไหนมาหรอ เมื่อกี๊หัวหน้าพยาบาลหาเธอ เธอไปหาหัวหน้าที่ออฟฟิศหน่อยเถอะ” เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเห็นเธอกลับมา เลยพูดกับเธอ

ส้งหวั่นชีงพยักหน้า และเดินไปเคาะประตู “หัวหน้าคะ คุณหาฉันเหรอคะ?”

“ใช่ แผนกข้างๆขาดคนอยู่พอดี ฉันกะว่าจะย้ายเธอไปช่วยเหลือที่นั่น เธอคงไม่มีความคิดเห็นมั้ง?” ท่าทีของหัวหน้าพยาบาลถือว่าดีอยู่ น้ำเสียงก็อ่อนโยน

ส้งหวั่นชีงอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้าและพูด “ไม่มีความคิดเห็นค่ะ”

“งั้นก็ดี” หัวหน้าพยาบาลถอนหายใจทีหนึ่ง พูดเหมือนมีท่าทีจนปัญญา “หวั่นชีง ฉันก็ไม่ปิดซ่อนอะไรแล้ว ที่ย้ายเธอไป หลักๆก็คือเพราะคำพูดที่แพร่ออกไปพวกนั้นฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เธอเองก็คงไม่มีกะจิตกะใจทำงานเหมือนกัน เพราะฉะนั้นสามารถหลบได้สักพักก็หลบเถอะ”

“ฉันเข้าใจค่ะ หัวหน้า” ส้งหวั่นชีงพูดอย่างใจเย็นและสงบ ที่จริงเธอรู้ดีแก่ใจ บอกว่าไปหลบคำซุบซิบนินทา ที่จริงก็คือตบตาแยกเธอออกห่างจากจิ้นเฟิงเหรา

แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เธอไม่มีอะไรต้องละอายแก่ใจ ย่อมไม่แคร์คำพูดเหล่านั้นอยู่แล้ว

เพียงแต่ ถูกทุกคนพูดลับหลัง วิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า คาดเดาไปต่างๆนาๆ ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเหมือนกัน เธอไม่ใช่คนซาดิสม์สักหน่อย

....................

ติดต่อกันหลายวัน ที่จิ้นเฟิงเหราไม่ได้เจอหน้าส้งหวั่นชีง คนที่มาฉีดยาให้เขาได้เปลี่ยนเป็นหัวหน้าพยาบาล

ครั้งสองครั้งยังไม่เป็นไร เป็นแบบนี้ทุกครั้ง จิ้นเฟิงเหราก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจแล้ว หลังจากเขาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ส้งหวั่นชีงเป็นคนรับผิดชอบมาโดยตลอด

จู่ๆก็เปลี่ยนคน ไม่มีความรับผิดชอบไปหน่อยหรือเปล่า อย่างน้อยฉันก็ยังเป็นคนไข้ของเธอนะ ไม่มาบอกฉันสักคำเลย ฮื้อ~

คุณชายรองจิ้นแววตาว่างเปล่า ยากที่จะคิดเรื่องๆหนึ่งอย่างจริงจัง

หัวหน้าพยาบาลก้มตัวฉีดยาให้เขา แปลกใจมากคนที่จีบหญิงเก่งท่านนี้เงียบสงบขนาดนี้ เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างห้ามใจไม่ได้

แต่เสียดายที่จิ้นเฟิงเหราไม่สังเกตเห็นเลย

หัวหน้าพยาบาลค่อนข้างเจ็บแค้นใจ ตอนที่ดึงเข็มออกได้แกล้งเพิ่มน้ำหนักของมือ

จิ้นเฟิงเหราร้องซี๊ดขึ้นมาคำหนึ่ง ในที่สุดสายตาก็หันมามองที่เธอ

“ขอโทษนะคะ คุณชายรองจิ้น ที่ทำคุณเจ็บ” เสียงของพยาบาลจริตจะก้านผิดปกติ ยังมีความตื่นตระหนกของการดัดจริตด้วย

จิ้นเฟิงเหราเคยเห็นคนมานับไม่ถ้วน จะดูลูกไม่ตื้นๆแบบนี้ไม่ออกได้ยังไง แต่ก็ไม่จำเป็นที่ต้องไปเปิดโปง เขาก็แค่ยิ้มมุมปากแล้วพูดอย่างใจกว้าง “ไม่เป็นไรครับ ถามอะไรคุณหน่อย ทำไมสองวันนี้ไม่เห็นส้งหวั่นชีงเลย?”

ได้ยินเขาถามข่าวคราวของส้งหวั่นชีง หัวหน้าพยาบาลบีบฝ่ามือ แต่ใบหน้าก็ยังยิ้มอย่างอ่อนหวานมาก “หวั่นชีงไปช่วยเหลือที่แผนกอื่นแล้วค่ะ”

“อ๋อ แบบนี้เอง” จิ้นเฟิงเหราครุ่นคิดอยู่ในใจ

หัวหน้าพยาบาลถามด้วยรอยยิ้ม “คุณชายรองจิ้นคะ คุณยังมีอะไรให้ฉันช่วยมั้ยคะ?”

“ไม่มีแล้วครับ ลำบากคุณแล้ว คุณออกไปเถอะ” จิ้นเฟิงเหราโบกมือ และหลับตาลงเบาๆ เหมือนเตรียมตัวจะพักผ่อนแล้ว

รอยยิ้มของหัวหน้าพยาบาลแข็งทื่อ ถือของออกไปจากห้องอย่างเจ็บใจ

เจียงสื้อสื้อมองดูครู่หนึ่ง กรงเล็บอ้วนๆน้อยๆทั้งสองข้างกำลังจับผ้าเช็ดตัวไว้ เธอเลยพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันป้อนเขาเอง”

เพิ่งพูดจบ หลอดดูดอันหนึ่งก็ได้ส่งมาที่ริมฝีปาก

เจียงสื้อสื้อมองจิ้นเฟิงเฉินอย่างตกตะลึง จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเล็กน้อย แล้วดื่มเครื่องดื่มมาที่ด้านหน้าอีก “ดื่มเถอะ”

เจียงสื้อสื้ออมหลอดดูดไว้ และดูดไปคำหนึ่ง

พ่อแม่ลูกสามคนนี้ ได้ทำให้คนที่อยู่รอบๆริมทะเลต่างก็อิจฉาไปตามๆกัน

ป้อนกันไปป้อนกันมาจนดื่มเครื่องดื่มหมดไปแก้วหนึ่ง ใบหน้าของเจียงสื้อสื้อ ก็ไม่รู้ว่าเพราะตากแดดมาหรือว่าเขินอาย สรุปก็คือได้แก้มของเธอกลายเป็นสีชมพูไปแล้ว

น้ำหยดหนึ่งไหลลงมาตามแก้มของเธอ หยดลงมาที่ไหปลาร้าของเธอ

แววตาของจิ้นเฟิงเฉินมืดครึ้ม ใช้นิ้วมือลูบผมที่เปียกชุ่มของเธอ ปัดเส้นผมที่ติดอยู่ตรงแก้มเธอออก และพูดว่า “เล่นไม่ได้แล้ว ร่างกายคุณเพิ่งหายดี แช่น้ำนานเกินไปไม่ได้”

“โอเคค่ะ” เจียงสื้อสื้อพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เธอเองก็เล่นพอสมควรแล้ว “งั้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และไปทานข้าวกันเถอะค่ะ”

“ดีครับๆ” เสี่ยวเป่าปรบมือและพูดด้วยความดีใจ

จิ้นเฟิงเฉินอุ้มเขาขึ้นมา พ่อแม่ลูกสามคนกลับไปที่โรงแรม

กลัวเสี่ยวเป่าจะเป็นหวัด เจียงสื้อสื้อพาเสี่ยวเป่าไปที่ห้องน้ำก่อน เปิดน้ำให้เขาและให้เขาอาบน้ำเอง จากนั้นก็หันหลังเดินออกมา แค่พริบตาเดียวกลับถูกร่างเงาสูงใหญ่จับกดไว้ที่ผนัง

“จิ้นเฟิงเฉิน!” เจียงสื้อสื้อตกใจ

จิ้นเฟิงเฉินแววตามืดครึ้ม สายตามองผ่านเธอทีละคืบๆ แล้วมองลงไปที่ด้านล่าง

เจียงสื้อสื้อไม่รู้ หน้าตาที่คลุมผ้าเช็ดตัว และปล่อยผมที่ดกดำเงางามไว้ของเธอ มันน่าดึงดูดมากแค่ไหน ลูกกระเดือกของจิ้นเฟิงเฉินเคลื่อนไหวขึ้นลง โน้มตัวจูบริมฝีปากของเจียงสื้อสื้อไว้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!