ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 360

สรุปบท บทที่ 360 เขาเป็นผู้หญิงของผม: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

สรุปเนื้อหา บทที่ 360 เขาเป็นผู้หญิงของผม – ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

บท บทที่ 360 เขาเป็นผู้หญิงของผม ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ในหมวดนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 360 เขาเป็นผู้หญิงของผม

รอสองคนกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว

เจียงสื้อสื้อคิดถึงเสี่ยวเป่า เลยรีบขวางคนรับใช้หญิงแล้วถามว่า “คุณชายน้อยล่ะ?”

คนรับใช้หญิงรีบตอบกลับไปว่า “นอนหลับไปแล้ว”

อาจจะเป็นเพราะตัวเองเป็นแม่ตามธรรมชาติแล้ว ถึงแม้ลูกของตัวเองจะนอนหลับแล้วไม่ไปดูก็ไม่ไว้วางใจ และเขาก็มองจิ้นเฟิงเฉินจึงคิดที่จะไปห้องของเสี่ยวเป่า

ใครจะรู้ว่าสายตานี้กลับทำให้จิ้นเฟิงเฉินไม่ดีใจ เขาก็เลยดึงเจียงสื้อสื้อกลับห้องของตัวเอง

ถึงแม้ถูกดึง แต่ที่จริงแล้วเขาควบคุมแรงให้เหมาะสม รับรองว่าเจียงสื้อสื้อจะไม่อึดอัดด้วยเหตุนี้

ถูกเขาดึงอย่างนี้ เจียงสื้อสื้อไม่ดีใจเลยสักนิด พูดด้วยความไม่พอใจว่า “ เฟิงเฉิน คุณจะทำอะไร ฉันต้องการไปดูเสี่ยวเป่าว่านอนแล้วหรือยัง”

“คนรับใช้หญิงก็บอกแล้วว่านอนหลับแล้ว พวกเขาล้วนแต่ถูกจ้างให้มาดูแลลูกโดยเฉพาะ ไม่หลอกพวกเราอยู่แล้ว คุณก็ควรที่จะอยู่เป็นเพื่อนผม”พูดจบก็มองเขาอย่างน้อยใจเล็กน้อย เหมือนมีใครละเลยเขาอย่างนั้น

เจียงสื้อสื้อทำตัวไม่ถูก คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่า จิ้นเฟิงเฉินจะหึงลูกของตัวเอง แล้วก็พูดได้แค่ “เสี่ยวเป่ายังเป็นเด็ก ฉันเป็นหม่ามี๊ของเขาไปดูเขาหน่อยก็ไม่เห็นเป็นอะไร แม้แต่กระทั่งลูกของคุณเอง คุณก็หึงหวง ใครได้ยินเข้าไม่กลัวจะโดนคนอื่นหัวเราะเอาเหรอ”สำหรับ จิ้นเฟิงเฉินกลับไม่ได้คัดค้านอะไร กลับไม่สนใจครึ่งประโยคสุดท้ายของเธอ เหมือนยอมรับเรื่องจริงที่หึงหวง แล้วจับประโยคครึ่งแรกมาพูดว่า “ เขาโตอย่างนี้แล้ว ควรจะเรียนรู้ที่จะนอนคนเดียวแล้ว โตขนาดนี้แล้วคุณยังมีเหตุผลที่จะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองที่ไหน”

เจียงสื้อสื้อยังไม่ทันคิดที่จะโต้แย้ง กลับถูกจิ้นเฟิงเฉินจูบปิดปากอย่างกระทันหัน

อย่างนี้แล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะตำหนิเรื่องเขาหึงหวงอีกแล้ว

กลางคืนอากาศเย็นเหมือนน้ำ แสงจันทร์สามส่วนที่ทำลายล้างในเมืองนี้ ปกปิดความวุ่นวายของวันนี้เหลือเพียงแค่ความเงียบสงบ

วันที่สองก็เป็นวันที่แจ่มใส เช้าตรู่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นก็ได้ยินเสียงเสียงเอะอ่ะโวยวายที่หน้าประตู

ไม่ต้องคิดเลย ต้องเป็นบรรพบุรุษตัวน้อยในบ้านที่ตื่นขึ้นมาเช้าตรู่อย่างแน่นอน เด็กคนนี้นิสัยตามธรรมชาติขี้โวยวาย จุดนี้ก็ว่างไม่ได้แล้ว เจียงสื้อสื้อมองผู้ชายที่ยังนอนหลับสนิทอยู่ด้านข้างแล้วก็ได้ยินเสียงเอะอ่ะโวยวายที่ด้านนอก พร้อมกับส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายคิดว่าเสี่ยวเป่าคงหาตัวเองไม่เจอ เวลานี้เลยเป็นเดือดเป็นร้อน

ตอนที่เขากำลังหาวิธีออกไปหาเสี่ยวเป่านั้น ประตูกลับถูกเคาะอย่างรุนแรงสองครั้งแล้วหลังจากนั้นก็ผลักออกมา เสียวเป่าบุกเข้ามาด้วยหน้าตาที่โมโหพร้อมกับชี้ไปทางจิ้นเฟิงเฉินพูดว่า “แดดดี๊เลว ทำไมถึงแย่งหม่ามี๊กับหนู!”

ถูกเขาตะคอกใส่อย่างนี้จิ้นเฟิงเฉินก็ตื่นขึ้นมา เดิมทีคนที่ถูกทำให้หนวกหูจนตื่นจะไม่อารมณ์เล็กน้อย แต่พอเห็นว่าเป็นลูกชายของตัวเอง ก็ไม่ได้ใส่อารมณ์ในทันที

คนรับใช้หญิงที่ไล่ตามเขาก็พูดด้วยใบหน้าที่ขอโทษว่า “ คุณชาย คุณผู้หญิง ดิฉัน……”

เจียงสื้อสื้อสะบัดมือบ่งบอกว่าเรื่องนี้ไม่โทษเขา แล้วพูดกับเสี่ยวเป่าว่า “หนูมานี่ มาที่หม่ามี๊ที่นี่”เดิมคิดว่าเขาวิ่งมาก็ได้แล้ว ใครจะรู้ว่าเสี่ยวเป่ากลับไม่พอใจ ปีนที่ตัวของจิ้นเฟิงเฉินกดและย่ำสักพัก ทำให้จิ้นเฟิงเฉินไม่ตื่นก็ไม่ได้

เห็นท่าทางที่เอาแต่ใจของเขานั่น จิ้นเฟิงเฉินก็ยิ้มออกมา ท่าทางแบบนี้เหมือนตอนที่ตัวเองยังเป็นเด็กจริง ๆ

เสี่ยวเป่าเหมือนว่ามองไม่เห็นเขาอย่างนั้น “แดดดี๊เลวมาก หนูต้องการนอนกับหม่ามี๊”

พูดจบก็เอนตัวลงนอนที่เมื่อกี้จิ้นเฟิงเฉินนอนอยู่ หาท่าที่สบายแล้วขดนอนลงมา

จิ้นเฟิงเฉินไม่รู้จะทำยังไง แต่ถูกเขากดทับอย่างนี้ ความต้องการที่จะนอนก็ไม่มีแล้วทำได้แค่ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า

ถึงกลางทาง จิ้นเฟิงเหราก็พูดเรื่องนั่นที่เมืองนอกขึ้นมาก่อน พูดเสียงกดต่ำว่า “ข้อมูลชิปส่วนหนึ่งได้ส่งมาทางนี้แล้วน่าจะถึงตอนบ่าย แต่ว่าคนเหล่านั้นเหมือนว่ายังตามหาอยู่ ฉันให้เห้อซูหานเบี่ยนเบนความสนใจไปก่อน แต่กลัวว่าไม่นานก็จะตรวจพบข้อมูลถึงเวลานั้นอาจจะต้องมีความวุ่นวายเกิดขึ้น”

ถึงแม้เขากดเสียงต่ำพูด แต่คนขับที่นั่งอยู่ข้างหน้าตั้งใจขับรถแต่ก็ไม่ได้ย้ายเอาความสนใจมา

สำหรับเรื่องนี้จิ้นเฟิงเฉินมีท่าทางที่นิ่งสงบพูดว่า “เรื่องเล็ก หรือว่าฉันจะกลัว?”

ยังไงเขาก็เจอลมมรสุมในเรื่องธุรกิจมาหลายปีอย่างนี้ เรื่องนี้เดิมทีก็ไม่อยู่ในสายตาเขา บวกกับเขาก็มีความสามารถนี้ดังนั้นสำหรับเรื่องนี้แล้วก็มีท่าทางที่เฉยเมย

จิ้นเฟิงเหราเห็นท่าทางของเขา คิดว่าเขาก็คงจะไม่คิดอะไรมาก รีบพูดต่อว่า“ ก็ไม่ได้กลัวหรอก แต่พี่ตอนนี้มีลูกมีเมียไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว”

ประโยคนี้ก็พูดมีเหตุผล แตะต้องจิ้นเฟิงเฉินอยากจริงๆ แต่ถ้าแตะต้องภรรยาของเขา เปรียบเทียบกันแล้วง่ายกว่ากันมากมาย

ในใจจิ้นเฟิงเฉินคิดถึงเรื่องเมื่อวานนี้คิดมา ก็แค่เป็นคนที่มีเงินนิดหน่อยก็สามารถจับเจียงสื้อสื้อไม่ปล่อย ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนเหล่านั้นปัญหาคงไม่ง่ายเพียงเท่านี้อย่างแน่นอน

เขาเป็นผู้หญิงของตัวเอง ตัวเขาเองจะต้องปกป้องคุ้มครองเขาถึงจะถูก

คิดถึงตอนนี้แล้ว จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า “เรื่องนี้กลับไปค่อยพูดคุยกัน ฉันต้องเก็บมาใส่ใจอยู่แล้ว”

ได้ยินเขาพูดอย่างนี้จิ้นเฟิงเหราก็วางใจ เมื่อก่อนได้ยินว่าพอผู้ชายมีครอบครัวแล้ว ความรับผิดชอบก็จะเปลี่ยนไปมาก เดิมทีเขายังไม่เชื่อแต่ตอนนี้เชื่อโดยสิ้นเชิงแล้ว

เขามองไปทางจิ้นเฟิงเฉินแล้วส่ายหัวอย่างเอือมระอาเล็กน้อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!