บทที่ 360 เขาเป็นผู้หญิงของผม
รอสองคนกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว
เจียงสื้อสื้อคิดถึงเสี่ยวเป่า เลยรีบขวางคนรับใช้หญิงแล้วถามว่า “คุณชายน้อยล่ะ?”
คนรับใช้หญิงรีบตอบกลับไปว่า “นอนหลับไปแล้ว”
อาจจะเป็นเพราะตัวเองเป็นแม่ตามธรรมชาติแล้ว ถึงแม้ลูกของตัวเองจะนอนหลับแล้วไม่ไปดูก็ไม่ไว้วางใจ และเขาก็มองจิ้นเฟิงเฉินจึงคิดที่จะไปห้องของเสี่ยวเป่า
ใครจะรู้ว่าสายตานี้กลับทำให้จิ้นเฟิงเฉินไม่ดีใจ เขาก็เลยดึงเจียงสื้อสื้อกลับห้องของตัวเอง
ถึงแม้ถูกดึง แต่ที่จริงแล้วเขาควบคุมแรงให้เหมาะสม รับรองว่าเจียงสื้อสื้อจะไม่อึดอัดด้วยเหตุนี้
ถูกเขาดึงอย่างนี้ เจียงสื้อสื้อไม่ดีใจเลยสักนิด พูดด้วยความไม่พอใจว่า “ เฟิงเฉิน คุณจะทำอะไร ฉันต้องการไปดูเสี่ยวเป่าว่านอนแล้วหรือยัง”
“คนรับใช้หญิงก็บอกแล้วว่านอนหลับแล้ว พวกเขาล้วนแต่ถูกจ้างให้มาดูแลลูกโดยเฉพาะ ไม่หลอกพวกเราอยู่แล้ว คุณก็ควรที่จะอยู่เป็นเพื่อนผม”พูดจบก็มองเขาอย่างน้อยใจเล็กน้อย เหมือนมีใครละเลยเขาอย่างนั้น
เจียงสื้อสื้อทำตัวไม่ถูก คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่า จิ้นเฟิงเฉินจะหึงลูกของตัวเอง แล้วก็พูดได้แค่ “เสี่ยวเป่ายังเป็นเด็ก ฉันเป็นหม่ามี๊ของเขาไปดูเขาหน่อยก็ไม่เห็นเป็นอะไร แม้แต่กระทั่งลูกของคุณเอง คุณก็หึงหวง ใครได้ยินเข้าไม่กลัวจะโดนคนอื่นหัวเราะเอาเหรอ”สำหรับ จิ้นเฟิงเฉินกลับไม่ได้คัดค้านอะไร กลับไม่สนใจครึ่งประโยคสุดท้ายของเธอ เหมือนยอมรับเรื่องจริงที่หึงหวง แล้วจับประโยคครึ่งแรกมาพูดว่า “ เขาโตอย่างนี้แล้ว ควรจะเรียนรู้ที่จะนอนคนเดียวแล้ว โตขนาดนี้แล้วคุณยังมีเหตุผลที่จะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองที่ไหน”
เจียงสื้อสื้อยังไม่ทันคิดที่จะโต้แย้ง กลับถูกจิ้นเฟิงเฉินจูบปิดปากอย่างกระทันหัน
อย่างนี้แล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะตำหนิเรื่องเขาหึงหวงอีกแล้ว
กลางคืนอากาศเย็นเหมือนน้ำ แสงจันทร์สามส่วนที่ทำลายล้างในเมืองนี้ ปกปิดความวุ่นวายของวันนี้เหลือเพียงแค่ความเงียบสงบ
วันที่สองก็เป็นวันที่แจ่มใส เช้าตรู่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นก็ได้ยินเสียงเสียงเอะอ่ะโวยวายที่หน้าประตู
ไม่ต้องคิดเลย ต้องเป็นบรรพบุรุษตัวน้อยในบ้านที่ตื่นขึ้นมาเช้าตรู่อย่างแน่นอน เด็กคนนี้นิสัยตามธรรมชาติขี้โวยวาย จุดนี้ก็ว่างไม่ได้แล้ว เจียงสื้อสื้อมองผู้ชายที่ยังนอนหลับสนิทอยู่ด้านข้างแล้วก็ได้ยินเสียงเอะอ่ะโวยวายที่ด้านนอก พร้อมกับส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายคิดว่าเสี่ยวเป่าคงหาตัวเองไม่เจอ เวลานี้เลยเป็นเดือดเป็นร้อน
ตอนที่เขากำลังหาวิธีออกไปหาเสี่ยวเป่านั้น ประตูกลับถูกเคาะอย่างรุนแรงสองครั้งแล้วหลังจากนั้นก็ผลักออกมา เสียวเป่าบุกเข้ามาด้วยหน้าตาที่โมโหพร้อมกับชี้ไปทางจิ้นเฟิงเฉินพูดว่า “แดดดี๊เลว ทำไมถึงแย่งหม่ามี๊กับหนู!”
ถูกเขาตะคอกใส่อย่างนี้จิ้นเฟิงเฉินก็ตื่นขึ้นมา เดิมทีคนที่ถูกทำให้หนวกหูจนตื่นจะไม่อารมณ์เล็กน้อย แต่พอเห็นว่าเป็นลูกชายของตัวเอง ก็ไม่ได้ใส่อารมณ์ในทันที
คนรับใช้หญิงที่ไล่ตามเขาก็พูดด้วยใบหน้าที่ขอโทษว่า “ คุณชาย คุณผู้หญิง ดิฉัน……”
เจียงสื้อสื้อสะบัดมือบ่งบอกว่าเรื่องนี้ไม่โทษเขา แล้วพูดกับเสี่ยวเป่าว่า “หนูมานี่ มาที่หม่ามี๊ที่นี่”เดิมคิดว่าเขาวิ่งมาก็ได้แล้ว ใครจะรู้ว่าเสี่ยวเป่ากลับไม่พอใจ ปีนที่ตัวของจิ้นเฟิงเฉินกดและย่ำสักพัก ทำให้จิ้นเฟิงเฉินไม่ตื่นก็ไม่ได้
เห็นท่าทางที่เอาแต่ใจของเขานั่น จิ้นเฟิงเฉินก็ยิ้มออกมา ท่าทางแบบนี้เหมือนตอนที่ตัวเองยังเป็นเด็กจริง ๆ
เสี่ยวเป่าเหมือนว่ามองไม่เห็นเขาอย่างนั้น “แดดดี๊เลวมาก หนูต้องการนอนกับหม่ามี๊”
พูดจบก็เอนตัวลงนอนที่เมื่อกี้จิ้นเฟิงเฉินนอนอยู่ หาท่าที่สบายแล้วขดนอนลงมา
จิ้นเฟิงเฉินไม่รู้จะทำยังไง แต่ถูกเขากดทับอย่างนี้ ความต้องการที่จะนอนก็ไม่มีแล้วทำได้แค่ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!