อ่านสรุป บทที่ 377อยู่เคียงข้างเธอคนเดียว จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว
บทที่ บทที่ 377อยู่เคียงข้างเธอคนเดียว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 377อยู่เคียงข้างเธอคนเดียว
ความเข้าใจผิดได้รับการแก้ไขในเมื่อคืนกันหมดแล้ว วันถัดไปสองคนก็อยู่กันอย่างคลุมเคลืออีก
ตอนเช้าตื่นมา แม่จิ้นเห็นสองคนเป็นอย่างนี้ ก็ไว้ใจแล้ว เมื่อวานสองคนนี้ยังไม่สนใจกันเลย ตามสุภาษิตที่ว่าผัวเมียทะเลาะกัน แป๊บเดียวก็คืนดีกันแล้ว
“มากินข้าวเร็วๆสิ”แม่จิ้นพูดกับสองคนที่อยู่บนโซฟา
ได้ยินเช่นนี้ทั้งสองคนก็รีบไปเลย เวลากินข้าว เจียงสื้อสื้อนึกถึงจิ้นเฟิงเหราาที่ยังอยู่โรงพยาบาล ถามว่า “ไม่ทราบว่าสองวันนี้เฟิงเหราเป็นยังไงบ้างแล้ว”
แม่จิ้นยิ้มอย่างนุ่มนวล “ไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอก เขาสบายดีอยู่”
จิ้นเฟิงเฉินก็พูดตามด้วย “เธอไม่รู้เขาหรอ อยู่ตรงไหนก็สบายหรอก ในโรงพยาบาลไม่มีใครยุ่งกับเขา ยังมีส้งหวั่นชีงอยู่ด้วยอีก เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องไปกังวลเขาหรอก”
พวกเขาพูดถูกแล้ว ในขนาดนี้จิ้นเฟิงเหรากำลังนั่งอยู่บนที่นอน รอส้งหวั่นชีงป้อนอาหารให้เขา
ส้งหวั่นชีงถือข้าวเช้าในมือ ป้อนข้าวทีละคำ
“มือแกก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก ทำไมกินข้าวเองไม่ได้”ป้อนข้าวนานแล้ว ส้งหวั่นชีงรู้สึกใจร้อนขึ้นมา
จิ้นเฟิงเหราาทำปากยื่น “ตอนนี้ฉันเป็นผู้ป่วย แกช่วยฉันหน่อยเป็นอะไรมากไหม”
เขาทำแบบนี้เหมือนงอแง ทำให้ส้งหวั่นชีงไม่รู้ทำยังไงดี แม้ในใจของเธอยังรู้สึกหวานด้วย
“ฉันจะกินผลไม้อีก” จิ้นเฟิงเหราาเหมือนชอบสั่งส้งหวั่นชีงมาก ก็พูดเลย
ส้งหวั่นชีงเอาแอปเปิ้ลที่ยังไม่ล้างยัดเข้าไปในป่าของจิ้นเฟิงเหราา
จิ้นเฟิงเหราาคายออกมาอย่างรีบ พูดด้วยความไม่พอใจ “ส้งหวั่นชีง แกก็ใจร้ายเกินไปแล้วจริงๆ ไม่กลัวฉันตายเหอะ”
“ตายก็ช่างมัน ตายแล้วก็ไม่ต้องมาสั่งนู้นสั่งนี่” พูดเสร็จแล้วก็จากไปอย่างโมโห เวลาไปยังเอาชามกินข้าวของเขาไปด้วย
จิ้นเฟิงเหราามองไปที่ร่างหลังของเธอและยิ้ม
ฝั่งนี้พวกจิ้นเฟิงเฉินกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว ก็เตรียมจะไปบริษัทกับเจียงสื้อสื้อ
แต่ไม่ได้คิดว่าเตรียมของเสร็จแล้ว เจียงสื้อสื้อยังอยู่ที่เดิมและขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความกลัว
“เป็นอะไร?”เขาสังเกตได้แล้วถาม
เจียงสื้อสื้อเงยหน้าขึ้น พูดด้วยความกลัว“ ช่วงนี้เรื่องเกิดขึ้นเยอะมาก ฉันกำลังคิดอยู่ว่าเสี่ยวเป่าไม่ไปโรงเรียน อยู่กับเราดีกว่าไหม”
นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในเมื่อวาน เธอก็รู้สึกกลัว เธอไม่อยากให้เสี่ยวเป่าเจอเรื่องแบบนี้ และเรื่องเมื่อวานเพราะว่าตัวเองสังเกตได้อย่างเร็ว แต่ว่าเสี่ยวเป่า แค่เป็นเด็ก ถ้าเขาได้เจอเรื่องแบบนี้ จะทำยังไงดีล่ะ
จิ้นเฟิงเฉินก็คิดว่าเธอพูดถูก “แล้วแต่คุณเลย”
ได้ยินเขาตกลงแล้ว เธอก็พูดต่อ“แล้วฝั่งแม่ก็ต้องสั่งคนปกป้องไว้นะ ใครจะรู้ไหมว่าพวกเขาจะ……”
เธอไม่ได้พูดต่อ เพราะว่าเธอรู้ว่าเขาก็คงเข้าใจแล้ว
นั่นแหละ จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้าอย่างจริงจัง“ฉันเข้าใจสิ่งที่แกพูด ไว้ใจเถอะ เรื่องนี้ฉันจะไปทำ”
ในขนาดนี้ เสี่ยวเป่าเดินผ่านพวกเขาพอดี เห็นพวกเขายังไม่ออกจากบ้าน ก็เลยถาม “แดดดี๊หม่ามี๊ ทำไมยังไม่ไปทำงานครับ”
เจียงสื้อสื้อแตะศีรษะของเสี่ยวเป่า พูดด้วยเสียงเบาๆ “แดดดี๊หม่ามี๊กำลังคุยเรื่องจะพาลูกไปบริษัทด้วย”
เสี่ยวเป่าได้ยินเช่นนี้รู้สึกตื่นเต้นมาก “จริงหรอ งั้นผมก็ไม่ต้องไปโรงเรียนหรอครับ”
หลังจากได้รับคำชมจากคุณชายน้อย สาวนั้นก็หน้าแดงและวิ่งหนีไป
โดยไม่คาดคิดเสน่ห์ของเสี่ยวเป่าไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นและในไม่นานก็มีคนจำนวนมากมาพร้อมที่จะส่งของกินให้เขา
หลายคนก็ชอบคุณชายน้อยคนนี้
ตอนแรกคิดว่าเขาจะกินของที่ตัวเองส่งไปให้ แต่ไม่ได้คิดว่าลูกคนนั้นเอาของที่ได้มาทุกอย่างให้เจียงสื้อสื้อเลย “หม่ามี๊ ขนมพวกนี้ให้หม่ามี๊หมดเลยครับ”เขากระพริบตาหลังจากพูดเสร็จ
ตอนแรกคิดว่าเสี่ยวเป่าแค่น่ารัก แต่ไม่ได้คิดว่าเขาเป็นลูกกตัญญูด้วย ทำให้ทุกคนอิจฉาเจียงสื้อสื้อมีลูกที่ดีขนาดนี้
จื่อเฟิงที่ยืนอยู่หน้าประตู ไม่อยากจะเชื่อว่าสองคนนี้ยังอยู่ด้วยกันดีขนาดนี้ ไม่ทราบว่าทำไมสองคนนี้จะสามารถดีขนาดนี้ได้
เสี่ยวเป่าด้วย เมื่อก่อนเขาก็แค่เล่นกับตัวเอง ทำไมตอนนี้อยู่เคียงข้างเธอคนเดียว
ไม่เข้าใจจริงๆ
ณ ขนาดนี้ สำนักงานของประธานที่อยู่ชั้นบน
จิ้นเฟิงเฉินถาม “คนที่ติดตามสื้อสื้อในเมื่อวานคือใคร”
ป๋ายหลี่ตอบอย่างเคารพ “คือคุณชายรองของสตีเฟนกรุ๊ส สตีเฟนอาเธอร์นั่นเอง"
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว มองไปทางเขาอย่างงง
ป๋ายหลี่ก็พูดต่อ “ ชื่อภาษาจีนของเขาชื่อว่าจี้เฉิน เป็นลูกครึ่ง คุณชายรองคนนี้โหดร้ายมาก กี่ปีที่ผ่านมา ตอนแรกคนที่รับผิดชอบสตีเฟนต้องเป็นพี่ชายของเขา แต่ว่าก่อน1วันที่พี่ชายของเขาจะรับผิดชอบ เกิดอุบัติเหตุรถชน ตอนนี้ก็ยังหลับอยู่ในโรงพยาบาล กลายเป็นสภาพผัก แม้ว่าไม่มีหลักฐานบ่งบอกว่าเขาเป็นคนทำ แต่คนฉลาดก็รู้กันว่า มีแค่เขากล้าทำแบบนี้ เพราะว่าสองพี่น้องไม่ใช่แม่เดียวกัน มีผลประโยชน์ทับซ้อนแน่นอน ดังนั้นทุกคนก็แค่เข้าใจแต่ไม่พูด”
ป๋ายหลี่พูดเสร็จ ก็เงยหน้าขึ้นและมองจิ้นเฟิงเฉิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!