บทที่ 449 ตระกูลจิ้นไม่ได้หลอกง่ายอย่างนั้น
“เขาก็คือเสี่ยวเป่า”
ตามประโยคสุดท้ายของเซิ่งจือเสี้ยที่เพิ่งพูดจบ ใจของแม่จิ้นก็เต้นอย่างรุนแรง เขาปฏิเสธอย่างเด็ดขาดว่า“เป็นไปไม่ได้”
เซิ่งจือเสี้ยยิ้มยังน่าเกลียดว่าร้องไห้อีก ใช้มือบังหน้าพูดว่า “ น้าสาว ฉันไม่ได้โกหกคุณ ฉันเป็นแม่ของเสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่าที่น่าสงสารโตมาขนาดนี้แล้วยังไม่เคยเจอแม่เลย”
แม่จิ้นพูดน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า“ถ้าเธอเป็นแม่แท้ ๆ ของเสี่ยวเป่า ทำไมตอนนี้ถึงมาแสดงตัว?”
“ฉันตามหามาโดยตลอด แต่ฉันหาไม่พบ”
แม่จิ้นเห็นชัดว่าไม่เชื่อ
เซิ่งจือเสี้ยมองตรงไปทางแม่จิ้น ขอบตาแดงเล็กน้อย“ตอนนั้นหลังจากที่ฉันคลอดลูกแล้วก็ถูกคนอุ้มไป ฉันไม่รู้ว่าจะไปตามหาที่ไหน”
พูดพลางก็มีหยดน้ำตาไหลจากมุมขอบตาของผู้หญิงออกมา
จากนั้นสองหยด สามหยด น้ำตาที่ไหลมามากมายแย่งกันไหลลงมาที่แก้ม
แม่จิ้นมองเห็นที่นี่มีคนเดินพลุกพล่าน ผู้หญิงก็ร้องไห้ออกมา อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว“เธออย่าร้องไห้ไปก่อน เช็ดน้ำตาซะ”
เซิ่งจือเสี้ยหยิบกระดาษทิชชูออกมาจากในถุงอย่างหยาบ ๆ แล้วเช็ดอย่างน้ำตาอย่างลวก ๆ
น้ำตาชะล้างแป้งที่อยู่บนหน้าของเขาออกหมด ทิ้งไว้เพียงแนวร่องน้ำ
โชคดีที่ผู้หญิงมีพื้นฐานที่ดี มองอย่างนี้ก็ไม่ถึงขนาดน่าเกลียดมาก
แม่จิ้นหันหน้ามา ทำเป็นไม่สนใจ
เซิ่งจือเสี้ยมีเสียงที่จมูกอย่างเข้มข้น แล้วพูดขอโทษว่า“ขอโทษด้วย ฉันเสียมารยาทแล้ว”
แม่จิ้นพูดอย่างเบา ๆ ว่า“ในเมื่อหาไม่เจอ แล้วทำไมถึงมาปรากฏอยู่ต่อหน้าฉันได้?”
“ฉันก็เพิ่งได้รับข่าวในระยะนี้ ที่จริงแล้วฉันรู้มาตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว เพียงแต่ฉันไม่กล้าที่จะไปรู้จัก ฉันกลัว”
กลัวอะไร เหตุผลง่าย ๆ
ตระกูลจิ้นเป็นตระกูลที่ร่ำรวยแรกในเมือง ปกติคนอื่นก็จะไม่ไปหาอย่างง่าย ๆ
จุดนี้ สามารถเข้าใจได้
แม่จิ้นอืมออกมาอย่างไม่ชัดเจน เขามองไปทางห้องน้ำ
ในใจคิดว่าทำไมเข้าห้องน้ำนานอย่างนี้ ยังไม่ออกมา เขาแทบจะรอจนเบื่อแล้ว
เซิ่งจือเสี้ยยังสะอื้นอยู่ด้านข้างเงียบๆ แล้วพูดเสียงเบา ๆ ว่า“นายหญิงจิ้นฉันไปเยี่ยมเสี่ยวเป่าได้ไหม ฉันไม่รบกวนเขาหรอก จริง ๆ ฉันแค่อยากเห็นเขา”
แม่จิ้นย่นหัวคิ้ว มองดูเขาอย่างคิดไตร่ตรอง
เซิ่งจือเสี้ยมีใบหน้าที่โดดเด่นมากจริง ๆ ถึงแม้จะเพิ่งร้องไห้ก็ไม่ทำลายสีสักนิดเดียว กลับทั้งยิ่งมีความรู้สึกที่ฉันเห็นแล้วน่าสงสารชนิดหนึ่ง
เสี่ยวเป่าเป็นลูกชายของเขาเหรอ?
เขาพยายามค้นหาความเหมือนของสองคนบนใบหน้าของเซิ่งจือเสี้ย แต่เหมือนว่าจะไม่มี ถ้าพูดว่าเหมือน ระดับความเหมือนของพวกเขายังเปรียบไม่ได้กับเสี่ยวเป่าและเจียงสื้อสื้อ
เอาตามที่ใช้ชีวิตด้วยกันมาเป็นเวลานานแล้ว จะมีหน้าคล้ายกับฝ่ายตรงข้ามอย่างบังคับไม่ได้
เสี่ยวเป่าติดหนึบกับเจียงสื้อสื้อย่างนั้น ดังนั้นก็ยิ่งเหมือนเขาขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่น่าสงสัย
เพียงแค่ ผู้หญิงที่มีชื่อว่าเป็นแม่แท้ ๆ ของเสี่ยวเป่า ทำไมเสี่ยวเป่าไม่มีความเหมือนเลยสักครึ่งหนึ่ง?
หลังของเซิ่งจือเสี้ย ตรงมาก ให้แม่จิ้นประเมินอย่างตามใจ
สุดท้าย แม่จิ้นพูดส่ายหน้าว่า“ฉันไม่มีวิธีที่จะเชื่อคำพูดของเธอ ถึงแม้เธอจะพูดเหมือนจริงมาก แต่ไม่ว่าผู้หญิงที่เคยท้องมาต่างก็สามารถพูดออกมาได้ นี่ไม่มีวิธีที่ทำให้ฉันเชื่อได้”
ขอบตาของเซิ่งจือเสี้ยแดงอีกครั้ง ลูกตาที่มองแทบจะทะลักออกมา
แม่จิ้นพูดอย่างไม่อดทนว่า“อาศัยแค่คำพูดของเธอฝ่ายเดียว ก็อยากที่จะเป็นแม่แท้ ๆ ของเสี่ยวเป่าบ้านฉัน ความกล้าของเธอมีมากจริงๆ รีบออกไปออกไปไกลๆ ตระกูลจิ้นไม่ได้หลอกง่ายอย่างนั้นหรอก ”
ในดวงตาของของเซิ่งจือเสี้ยเต็มไปด้วยความคาดไม่ถึง กัดริมฝีปากพูดอย่างน่าสงสารว่า “งั้นคุณจะไม่คิดหาแม่แท้ ๆ กลับมาให้เสี่ยวเป่าแล้วเหรอ ?”
แม่จิ้นพูดอย่างเย็นชาว่า“อยากที่จะหา แต่ไม่ใช่เธอ”
เซิ่งจือเสี้ยยิ้มอย่างน่าสงสาร“งั้นต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อฉัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!