ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 450

สรุปบท บทที่ 450 ฉันเป็นแม่ของเขานะ!: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

บทที่ 450 ฉันเป็นแม่ของเขานะ! – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

ตอนนี้ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 450 ฉันเป็นแม่ของเขานะ! จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 450 ฉันเป็นแม่ของเขานะ!

กลางดึก เจียงสื้อสื้อกล่อมเสี่ยวเป่านอน แล้วก็ย่องเบาปิดประตูมาในห้องของแม่จิ้น

แม่จิ้นเห็นเขาเข้ามาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย“สื้อสื้อ เสี่ยวเป่านอนแล้วเหรอ เธอมาได้ยังไง?”

“นอนหลับแล้ว”เจียงสื้อสื้อยิ้มที่มุมปาก พิงข้างประตูมองแม่จิ้นแล้วถามว่า“แม่ คุณไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

แม่จิ้นสงสัย“ทำไมถามอย่างนี้?”

ตอนกินข้าว เจียงสื้อสื้อมองออกว่าแม่จิ้นใจลอยตลอด มองเสี่ยวเป่าหลายครั้งมากเป็นพิเศษเขาเป็นห่วงมาก

“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่สบายใจเท่าไหร่”หยุดชั่วครู่แล้วเจียงสื้อสื้อก็อธิบาย

ในใจของแม่จิ้นมีความอุ่นใจขึ้นมาชั่วขณะ ลูกสะใภ้คนนี้เป็นห่วงเขาจริงๆ เวลาเดียวกันเขาก็นึกถึงเซิ่งจือเสี้ยขึ้นมาในใจก็รู้สึกไม่สบายเล็กน้อย บนใบหน้ากลับไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา ยิ้มแล้วพูดว่า“ไม่มีอะไร ก็คงจะวันนี้ไปเดินเล่น เดินจนเหนื่อยมากไป”

เจียงสื้อสื้อพูดทันทีว่า “งั้นคุณพักผ่อนให้เร็ว ฉันก็จะไปนอนแล้ว”

แม่จิ้นส่งสายตาจนเจียงสื้อสื้อออกไป ปิดประตูด้วยหน้าที่หนักใจ

คืนนี้แม่จิ้นนอนไม่หลับ หลังจากพลิกตัวไปมาจนถึงเที่ยงคืนถึงได้นอนหลับไป

วันที่สองตื่นขึ้นมาสายนิดหน่อย ที่ไปเรียนก็ไปเรียน ไปทำงานก็ไปทำงาน เหลือเพียงเขาคนเดียว

แม่จิ้นรีบลุกขึ้นมา พบว่าเกือบจะเก้าโมงแล้ว

เขาและเซิ่งจือเสี้ยนัดกันไว้สิบโมงเจอกันสถานที่ที่เมื่อวานเจอกัน ตอนนี้เหลือเพียงหนึ่งชั่วโมง

แม่จิ้นคิดอยู่นาน หรือว่าตัดสินใจไปตามนัด

ขณะที่เขาไปถึงที่ห้างสรรพสินค้า ก็ไม่เห็นเงาร่างของเซิ่งจือเสี้ย ไม่รู้ว่ายังไง เขาถึงถอนหายใจ

ไม่กล้ามา ก็แสดงว่าเป็นเรื่องโกหก

“นายหญิงจิ้น คุณมาแล้ว” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น

แม่จิ้นหันหัวกลับมาทันที มองเห็นเซิ่งจือเสี้ยยืนอยู่ไม่ไกล ยืนสง่ามีรอยยิ้มที่สวยหวาน

“นายหญิงจิ้น ทางนี้คนเยอะ พวกเราหาสถานที่เงียบสงบคุยกันเถอะ”เซิ่งจือเสี้ยยิ้มให้เขาอย่างสวยงามและอ่อนโยน

ใบหน้าของแม่จิ้นกลับมาเงียบสงบเหมือนเดิมแล้วพูดว่า“แล้วแต่คุณ”

พวกเขาหาร้านกาแฟที่อยู่บริเวณใกล้ ๆ หาตำแหน่งที่เป็นมุมของร้าน อีกด้านเป็นกำแพงอีกด้านเป็นพืชสีเขียวเงียบสงบมาก เป็นสถานที่เหมาะกับการพูดคุย

หลังนั่งลง เซิ่งจือเสี้ยก็ไม่พูดพร่ำ แล้วคิดได้ก็หยิบของที่พับมาออกมาจากในกระเป๋า

“นี่คือเอกสารอัลตร้าซาวด์ B ของฉันระหว่างเวลาตรวจสอบการตั้งครรภ์ เวลานี้เสี่ยวเป่าหกเดือนแล้ว”

“นี่เป็นภาพถ่ายตอนที่ฉันตั้งครรภ์ มีทุก ๆ เดือน ตอนแรกไม่เห็นชัดเจนว่าท้อง หลังห้าเดือนไปท้องถึงได้ใหญ่ขึ้น”

“นี่เป็นภาพถ่ายตอนที่เสี่ยวเป่าเพิ่งคลอดออกมา”

ด้านหน้าเหล่านั้น แม่จิ้นเห็นแล้วก็ไม่คิดอะไร แต่สิ่งที่ทำให้เขาหวั่นไหวอย่างแท้จริง ๆ ก็คือรูปภาพเด็กทารกสองแผ่น

หนึ่งในแผ่นนั้น เด็กทารกน้อยนอนในผ้าห่มสีเหลืองอ่อน หลับตานอนอย่างมีความสุขมาก

อีกแผ่นหนึ่งลืมตา ล้วนพูดว่าเด็กที่เพิ่งเกิดมาจะน่าเกลียดมาก แต่เด็กน้อยในภาพไม่ใช่อย่างนี้ เขาน่ารักเหมือนกับตุ๊กตาก็ไม่ปาน ดวงตากลมโตดำและฉลาดมาก

ล็กน้อยพูดกับเขาว่า“คุณลุกขึ้นมาก่อน คุกเข่าที่นี่ไม่เข้าท่า”

แต่เซิ่งจือเสี้ยกลับเหมือนไม่ได้ยินอย่างนั้น พูดว่า“นายหญิงจิ้นคุณไม่เคยถามเสี่ยวเป่าว่ายอมรับฉันที่เป็นแม่คนนี้ จะยึดสิทธิของฉันอันนี้ได้ยังไง ทำแบบนี้จะไม่ค่อยยุติธรรมกับฉัน จะพูดยังไงฉันก็เป็นแม่ของเสี่ยวเป่า คุณก็เป็นแม่คนหนึ่งทำไมไม่คิดแทนฉันบ้าง ถ้าลูกชายของคุณหายไป คุณจะยังสามารถพูดอย่างนี้ออกมาได้ไหม?”

แม่จิ้นเงียบ

เซิ่งจือเสี้ยร้องไห้จนไม่มีเสียง“คุณอดไม่ได้ ถูกไหม?ไม่มีแม่คนไหนจะทิ้งลูกของตัวเอง ฉันก็เหมือนกัน ฉันตามหามาหลายปีอย่างนี้ ต่างก็หวังว่าจะได้พบกับลูกชายทุกวัน ฉันไม่สามารถทิ้งไปอย่างนี้ได้”

“คุณลุกขึ้นมาก่อน!”แม่จิ้นพูดอีกหนึ่งครั้ง เขาที่เงียบสงบมาตลอด เวลานี้สับสนขึ้นมาเล็กน้อย

เซิ่งจือเสี้ยส่ายหน้า“ฉันไม่ลุกขึ้น”

แม่จิ้นไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี ในสติเขาไม่ยอมทำลายการแต่งงานของลูกชาย อีกคนคือเขาชอบเจียงสื้อสื้อที่เป็นเกินกว่าแม่แท้ ๆ ของเสี่ยวเป่าทั้งหมด ในความรู้สึกเขากลับรู้ว่าตัวเองไม่มีวิธีรับมาตรการที่แข็งแกร่งขึ้น ผู้หญิงที่อยู่ต่อหน้าคนนี้ เป็นแม่ของหลานเขาที่รักมากที่สุด เขาไม่สามารถทำอย่างนั้นได้

แม่จิ้นลำบากใจทั้งสองด้าน

ทันใดนั้น ในมุมที่เงียบสงบมาก ก็มีเพียงเสียงที่สำลักของเซิ่งจือเสี้ย ดังขึ้น

มือสองข้างของแม่จิ้นวางลงบนขาใหญ่ รักษานั่งหลังตรงไว้ ระหว่างหัวคิ้วกลับค่อย ๆ ย่นขึ้น

ตอนนี้เขาลำบากใจมากๆ

เซิ่งจือเสี้ยสูดจมูกอย่างเบาๆ ก้มหน้า หดหัวไหล่ ดูน่าสงสารเล็กน้อย

นานมาก ในที่สุดแม่จิ้นก็ถอนหายใจยาวพูดว่า“ลุกขึ้นเถอะ เรื่องนี้ ฉันตัดสินใจไม่ได้ ฉันต้องกลับไปปรึกษากับคนที่บ้าน”

เซิ่งจือเสี้ยนี่ถึงได้ลุกขึ้น โค้งคำนับไปทางเขาอย่างเคารพพร้อมพูดด้วยตาที่แดงว่า“ขอบคุณ ฉันรอได้ เพียงหวังว่าคุณจะไม่แยกฉันกับลูกชายของฉัน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!