สรุปเนื้อหา บทที่ 453 ตรวจดีเอ็นเอ – ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว
บท บทที่ 453 ตรวจดีเอ็นเอ ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ในหมวดนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 453 ตรวจดีเอ็นเอ
เมื่อเห็นว่าพูดโน้มน้าวใจเจียงสื้อสื้อไม่สำเร็จ เซิ่งจือเสี้ยก็คุกเข่าต่อหน้าเจียงสื้อสื้ออีกครั้งหนึ่ง พูดด้วยความขอร้อง"คุณหนูเจียงคะ ขอร้องคุณคืนเสี่ยวเป่าให้ฉันหน่อย ฉันรู้ว่าเสี่ยวเป่าพึ่งพาคุณมาก แต่เดิมทีเขาเป็นลูกของฉัน ตอนนี้กลับเรียกคนอื่นว่าแม่ คุณหนูเจียง คุณเข้าใจความเจ็บปวดในใจของฉันไหม?"
เซิ่งจือเสี้ยเปลี่ยนคำเรียก ก็คือหวังว่าเจียงสื้อสื้อสามารถวางตำแหน่งของตัวเองให้ถูกต้อง
พฤติกรรมของเธอดึงดูดสายตาที่แปลกใจของคนรอบข้าง
เจียงสื้อสื้อก็มองไปดูผู้หญิงต่อหน้านี้อย่างอึ้ง คำพูดของเธอเหมือนเป็นมีด แทงเข้าไปในหัวใจของเธออย่างลึก
เธอไม่กล้าไปมองตาของเซิ่งจือเสี้ย รีบวิ่งหนีออกไปจากร้านกาแฟ เกือบเท่ากับว่าเป็นการหนีหัวซุกหัวซุน
นั่งอยู่บนที่นั่งนั้น เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าตัวเองเหมือนถูกบีบคอ ไม่สามารถหายใจเข้าได้ ใกล้จะถึงขั้นที่หายใจไม่ออก
ท้องฟ้ายังคงสีฟ้าสดใส แสงอาทิตย์ที่อบอุ่นส่งมาบนร่างกายของเจียงสื้อสื้อ
แต่เธอกลับรู้สึกว่าเหมือนอยู่ในฤดูหนาว
เดินอยู่บนถนนอย่างมึนงง เจียงสื้อสื้อยอมรับความจริงนี้ไม่ได้
หรือว่าเธอต้องเลือกที่จะสละสิทธิ์เท่านั้นหรือ?คืนเสี่ยวเป่าให้แม่แท้ๆของเขา?
เธอไม่ยอม
จู่ๆก็มีเสียงเบรกรถที่ดังขัดจังหวะการคิดของเธอ เจียงสื้อสื้อหยุดลงทันที
"แกตาบอดหรือไง เดินมาถึงกลางถนนแล้วนะโว้ย"ผู้ชายคนหนึ่งเดินมาทางเจียงสื้อสื้อและด่าด้วยคำหยาบ
พอได้ยินเช่นนี้ เจียงสื้อสื้อค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา เป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ผู้ชายเลยหุบปากทันที
เขาเกาหัวด้วยความเขินอาย และพูดกระบุ่มกระบ่าม"เดินอยู่บนถนนด้วยดูรถด้วยนะ เพราะว่าตอนนี้เป็นช่วงที่รถเยอะอยู่"
"ขอบคุณ"
พอพูดเสร็จ เจียงสื้อสื้อก็สะบัดหน้าจากไปแล้ว
เรียกรถคันหนึ่งบนถนน จากนั้นเจียงสื้อสื้อก็กลับไปยังบริษัท
เพิ่งเข้ามาในห้องทำงาน ก็เห็นจิ้นเฟิงเฉินกำลังนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเอง มองเธอพร้อมด้วยรอยยิ้ม
เมื่อนึกถึงคำพูดเมื่อกี้ของผู้หญิง จมูกของเจียงสื้อสื้อรู้สึกเปรี้ยวๆขึ้นมา น้ำตาไหลออกมาจากขอบตาอย่างไม่หยุด
เธอร้องไห้มาแบบนี้ ทำให้จิ้นเหิงเฉินตกใจทันที รีบเอาทิชชู่มาเช็ดน้ำตาให้เธอ
"สื้อสื้อ คุณเป็นไรหรอ?"จิ้นเฟิงเฉินถามด้วยความห่วง
มองไปดูใบหน้าของจิ้นเฟิงเฉิน จู่ๆเจียงสื้อสื้อก็กอดเขาไว้ พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะเทือน"เฟิงเฉิน ฉันกลัวมาก ฉันกลัวเสียคุณไปจริงๆ"
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว กอดเธอไว้อย่างแน่น และถามอย่างอ่อนโยน"สื้อสื้อ คุณบอกฉันสิ ใครรังแกคุณหรือ?หรือว่ามีคนพูดอะไรกับคุณ?"
เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า เพียงแต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น
รอจนกว่าสติของเธอมั่นคงหน่อย จิ้นเฟิงเฉินก็บังคับเธอมองหาตัวเอง
"สื้อสื้อ คุณว่ามาสิ ตกลงเกิดเรื่องอะไรไป ฉันเป็นสามีของคุณ เป็นคนที่สามารถแบ่งบันภาระให้คุณได้"
เห็นเงาในสายตาของจิ้นเฟิงเฉิน เจียงสื้อสื้อร้องไห้อย่างแรงอีกครั้ง
แต่ว่า ไม่นานเธอก็ควบคุมสติได้ หายใจเข้าลึกๆ เหมือนเป็นการตัดสินใจบางอย่าง
หลังจากผ่านไปสักครู่หนึ่ง เจียงสื้อสื้อค่อยๆอ้าปากพูดว่า"ถ้าหากวันไหนเสี่ยวเป่าจะได้ความสุขที่ครบถ้วนกว่านี้ คุณจะให้เขาไหม?"
จิ้นเฟิงเฉินค่อนข้างจะมึนงง ฝังศีรษะไว้ในระหว่างคอของเธอ พูดเบาๆว่า"ตอนนี้ฉันกับเสี่ยวเป่าก็ครบถ้วนแล้ว สื้อสื้อ อย่าคิดมากเลย"
ระหว่างที่พูดเซิ่งจือเสี้ยก็ไหลน้ำตาออกมาด้วย เหมือนกับว่าตัวเองถูกคุกคาม
แต่จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้รับผลกระทบจากเธอเลย ถามต่อว่า"ทารกแรกเกิดมีการเจาะเลือดที่ส้นเท้าไม่ใช่หรือ?และหมอจะบอกผลให้แม่ทราบทันที คุณจะไม่รู้ได้ยังไง?"
เซิ่งจือเสี้ยตื่นตันใจขึ้นมา รีบอธิบายว่า"ฉัน......ตอนนี้ฉันคลอดเสี่ยวเป่าอ่อนแอหรือเกิน ยังไม่ทันได้ดูตาหนึ่งเลย"
"ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเสี่ยวเป่าถูกคนอื่นอุ้มไปหลังจากคลอดออกมา แล้วคุณรู้จากที่ไหนว่า เสี่ยวเป่าเป็นเด็กของตระกูลจิ้น?"
คำพูดที่เผด็จการของจิ้นเฟิงเฉินทำให้เซิ่งจือเสี้ยค่อนข้างจะรับไม่ไหน ในที่สุดต้องพึ่งการแกล้งโง่ถึงจะหลอกไปได้
"พอแล้ว ฉันรู้ความเป็นมาของเรื่องมาคร่าวๆแล้ว ตอนนี้การตรวจดีเอ็นเอ ถึงรู้ว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นเป็นความจริงหรือเปล่า"
คำพูดของเซิ่งจือเสี้ยจิ้นเฟิงเฉินเชื่อไม่ถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ แม้ว่าเขาปลอมตัวได้ดีกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ แต่เขายังไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้หญิงต่อหน้านี้ก็คือแม่แท้ๆของเสี่ยวเป่า
เมื่อได้ยินว่าจะตรวจดีเอ็นเอ สีหน้าของเซิ่งจือเสี้ยแข็งขึ้นทันที มืออดไม่ได้ที่จะสั่นครั้งหนึ่ง แต่ยังคงแกล้งทำเป็นว่ามีสติแล้วพูดว่า"ได้ค่ะ คุณกำหนดเวลามา ฉันจะไปตามเวลานั้น"
จิ้นเฟิงเฉินส่ายมือ พูดอย่างเย็นชา"คุณไม่ต้องปรากฏหน้าเองเลย เอาแต่เส้นผมของคุณเส้นหนึ่งก็พอ"
เดิมเซิ่งจือเสี้ยอยากจะหาข้ออ้างมาปฏิเสธ แต่ออร่าของจิ้นเฟิงเฉินทำให้เธอไม่กล้าปฏิเสธ
เลยต้องดึงเส้นผมลงมาเส้นหนึ่งและเอาให้จิ้นเฟิงเฉิน
หลังจากได้เส้นผมของเธอแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็จากไปกับแม่จิ้น
หลังจากพวกเขาไปแล้ว เซิ่งจือเสี้ยก็รีบหยิบกระเป๋าขึ้นมาและกลับไปยังที่พัก
จากนั้น โทรหาเจียงนวลนวล และเล่าเรื่องการพบกันของวันนี้ให้เธอฟังหนึ่งรอบ
เจียงนวลนวลปลอบใจเธอให้เธอไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องที่เหลือเธอจะจัดการให้
หลังจากวางสายเสร็จ เซิ่งจือเสี้ยยังมีความสงสัยเล็กน้อย แม้ว่าเจียงนวลนวลมีความสามารถไปถึงไหน จะสามารถเปรียบแปลงความจริงตบตาผู้คนได้ด้วยหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!