บทที่ 469 เขาทำไมถึงอยู่ที่นี่?
อีกด้าน ที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง
ส้งหวั่นชีงนั่งอยู่โต๊ะสำหรับคนสองคน ตรงข้ามได้มีผู้ชายวัยประมาณสามสิบนั่งอยู่ กำลังใช้สายตาที่มองเขาอย่างวิจารณญาณ
ทั้งสองไม่ได้พูดคุย บรรยากาศเงียบจนน่ากลัว
“คือว่า พวกเราสั่งอาหารเถอะ” ในที่สุด เป็นส้งหวั่นชีงที่ทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัด
ชายหนุ่มได้ตอบอ้อ แล้วก็เอาเมนูมา พลิกแล้วก็สั่งอาหาร ก็ไม่ได้ถามความคิดของส้งหวั่นชีง แล้วก็ได้ส่งเมนูกลับ
ส้งหวั่นชีง “......”
ส้งหวั่นชีงใจเย็นมากๆ ไหนๆ ก็เป็นการนัดบอด งั้นก็ทำความเข้าใจกันหน่อยก็ดี
เธอได้สูดหายใจเข้าไปลึกๆ กำลังจะเปิดปากพูด คิดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนั้นได้พูดก่อน “เธอโมโหแล้ว?”
“อะไรคะ?” ส้งหวั่นชีงรู้สึกงง
ชายหนุ่มก็ได้หลงตัวเอง พูดเองเออเองว่า “ไม่ได้โมโหก็ดี เป็นผู้หญิงไม่ต้องใจแคบขนาดนั้น เมื่อกี้ฉันไม่ได้ให้เธอสั่งอาหารเพราะกลัวว่าจะเสียเวลา ผู้หญิงอย่างพวกเธอชักช้ากันไปหมด”
ส้งหวั่นชีงแทบจะโมโหจนขำออกมา ของมาตรฐานต่ำนี่มาจากไหนเนี่ย ยังพูดได้ไม่กี่คำก็ได้เริ่มที่จะต่อว่าคนอื่นแล้ว
เธอได้เปิดปาก “คุณจ้าว ไม่รู้ว่าคุณเอาความคิดพวกนี้มาจากไหน แต่ฉันบอกคุณก่อนเลยนะ ที่ที่คุณรู้มานั้นมันผิดทั้งหมด ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่เป็นเหมือนกันที่คุณคิด
อีกอย่าง ฉันรู้สึกว่า พื้นฐานของคนก็คือการทำตัว ก่อนที่จะสั่งอาหารนั้น ควรที่จะถามความเห็นของอีกฝ่ายหรือเปล่า และคุณไม่ได้ถามเลยสักนิด แล้วก็ พวกเราพึ่งเจอกันครั้งแรก คุณว่าการที่คุณพูดแบบนี้มันเหมาะเหรอ?”
พอพูดอะไรออกมามากมาย ก็ได้ทำเอาเขาได้งง
ชายหนุ่มได้มองเธอด้วยความตกใจสักพัก สีหน้าก็ได้สำรวมลงเล็กน้อย เขาพยักหน้า “เป็นผมที่คิดไม่รอบคอบ”
การกระทำของอีกฝ่ายดีขนาดนี้ ส้งหวั่นชีงจะพูดเรื่องนี้ต่อก็ไม่ดี
เวลานี้อาหารก็ได้มาเสิร์ฟ ส้งหวั่นชีงมองแล้วก็ไม่ได้มีความอยากอาหารเลย แต่เพราะมารยาท เธอก็ยังกินไปบ้างด้วยความเกรงใจ
“คุณชื่อส้งหวั่นชีง?” ชายหนุ่มทานไปสักพัก ถึงได้นึกขึ้นที่จะถามชื่อของส้งหวั่นชีง
สำหรับคำพูดของเขา ส้งหวั่นชีงได้พยักหน้า
เวลานี้ส้งหวั่นชีง ไม่ได้รู้สึกอยากจะทำความรู้จักกับคนคนนี้
ที่ยังไม่ได้ออกไป ก็เพราะให้เกียรติอีกฝ่าย
“ได้ยินมาว่าคุณเป็นพยาบาล เงินเดือนของพยาบาลต่ำใช่ไหม เธอเลี้ยงตัวเองได้เหรอ?” ฝ่ายชายได้ถามอยากไม่เกรงใจ
ส้งหวั่นชีงได้ยิ้ม ก็ได้ฝืนยิ้มออกไป “ขอบคุณที่คุณสนใจ ถึงตอนนี้ฉันก็มีชีวิตอยู่อย่างดี”
ฝ่ายชายฟังไม่เข้าใจ ก็ได้ถามออกไป “คุณส้งตอบไม่ตรงคำถาม ผมไม่ได้ถามว่าคุณเป็นอยู่ดีไหม”
“อ่อ ฉันเป็นคนฟังผิดเอง”
ฝ่ายชายเหมือนว่าจะไม่พอใจกับการตอบของส้งหวั่นชีง
แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม ก็ได้อดทน ก็ได้พูดอย่างหยิ่งๆ “ที่จริงคุณทำงานอะไรไม่สำคัญ ผู้หญิงนั้นต้องเป็นแม่ศรีเรือนถึงสำคัญ เชื่อฟังสามีเลี้ยงลูก ปรนนิบัติสามีดีๆ นี่เป็นงานที่สำคัญที่สุดของพวกเธอ”
ส้งหวั่นชีงก้มหัว ขี้เกียจที่จะเงยหน้า
ฝ่ายชายก็ได้พูดด้วยความไม่พอใจ “เธอทำไมไม่มีมารยาทขนาดนี้ ฉันกำลังพูดกับเธอ เธอควรที่จะมองหน้าฉัน ในเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าเป็นการทานอาหารกับหัวหน้างาน เธอมีท่าทางแบบนี้ ต้องถูกไล่ออกแน่ๆ”
“อ่อ” ส้งหวั่นชีงก็ได้ตอบส่งๆ ไป
ฝ่ายชายคิดว่าเธอได้ฟังไปแล้ว สีหน้าก็ได้ดีขึ้น ก็ได้พูดราวกับใจดี “คนที่แนะนำคงจะพูดเกี่ยวกับเรื่องของผมไปบ้างแล้วใช่ไหมครับ ตอนนี้ผมเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทแห่งหนึ่ง รายรับรายปีหกหลัก ตำแหน่งในการตลาดของบริษัทเราต้องสูงขึ้น ที่พูดพวกนี้กับคุณ เพราะคิดว่าคุณนั้นก็ไม่เลว ผมมองแล้วรู้สึกชอบ จากสิ่งที่ผมมี ผมไม่แคร์ว่าคุณจะมีเงินเดือนเท่าไหร่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!