บทที่ 483 ฉันไม่ควรเกลียดท่านหรือ?
หลังจากเจียงสื้อสื้อตั้งครรภ์แล้วมีอาการขี้เซาเล็กน้อย จิ้นเฟิงเฉินก็วางแผนให้เธอไปอยู่ที่ออฟฟิศของตนเอง เตรียมพรมขนสัตว์ขนาดเล็กผืนหนึ่งกับน้ำอุ่นแก้วหนึ่งไว้ และหั่นผลไม้ไว้จานหนึ่งอยู่ข้างๆอีก
เจียงสื้อสื้อมักจะกินผลไม้อยู่ก็หลับไปเลย จากนั้นตื่นขึ้นมา ก็ถึงเวลาเลิกงานแล้ว ก็เลยเลิกงานพร้อมกันกับจิ้นเฟิงเฉิน
“วันนี้ฉันซึมเซาอีกแล้ว” เจียงสื้อสื้อทั้งเดิน ทั้งเกิดความเสียใจเต็มใบหน้า
จิ้นเฟิงเฉินวางมาดขรึมพูดว่า “ล้วนต้องโทษลูกน้อยขี้เซา”
เจียงสื้อสื้อจะร้องไห้ก็ใช่จะไม่ร้องไห้เสียเลยก็ไม่ได้ เหลือบมองเขาหนึ่งที “เขายังเป็นลูกน้อยคนหนึ่ง คุณแข็งใจทำลงคอได้ยังไง”
“ต้องโทษผมที่ไม่ได้เรียกลูกน้อยให้ตื่น” จิ้นเฟิงเฉินรับความคิดเห็นที่ดีเหมือนกับกระแสน้ำที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ
เจียงสื้อสื้อหน้าแดงขึ้น เชิดหน้าไป สาวๆแผนกธุรการสองคนที่ติดตามอยู่ข้างหลัง ถูกความหวานจนแทบจะเป็นลมไป รอจิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อทันทีที่ออกไป รีบเปิดกลุ่มขึ้นมา แชร์สิ่งที่ได้ยินเมื่อกี้ออกไป
ในกลุ่มคึกคักเจี๊ยวจ๊าวขึ้นมาอีกครั้ง เลื่อนอ่านข่าวมากจนลายตาไปหมด
เจียงสื้อสื้อยังไม่รู้ว่าตัวเธอกลายเป็นใจกลางหัวเรื่องที่คุยกันของกลุ่มใหญ่ในออฟฟิศแล้ว อีกทั้งทุกวันล้วนต้องถูกอิจฉาไปหมื่นรอบ เวลานี้เธอยืนอยู่หน้าประตู รอจิ้นเฟิงเฉินขับรถเข้ามา
ระหว่างรอ มีความน่าเบื่อเล็กน้อย เธอมองซ้ายมองขวาอยู่ จู่ๆเธอมองเห็นเจียงเจิ้นเดินมายังทางนี้
ในใจเจียงสื้อสื้อประหลาดใจ แต่บนใบหน้ากลับไม่มีสีหน้าแม้แต่นิด
เจียงเจิ้นเดินถึงต่อหน้าเธอ มีความตื่นเต้นเล็กน้อยเรียกว่า “สื้อสื้อ!”
เจียงสื้อสื้อถอยหลังก้าวหนึ่ง จ้องมองเขาอย่างระแวดระวัง แรงพลังเอ้อระเหยที่ทำจิตใจให้มีความสุขแบบนั้นของเมื่อกี้กระจัดกระจายหายไปไร้ร่องรอยในทันที สิ่งที่แทนที่คือความหนาว หนาวถึงกระดูก
เจียงเจิ้นมีความอึดอัดใจเล็กน้อย ท่าทีที่ปฏิเสธคนไว้อยู่ห่างออกไปหมื่นลี้ของเจียงสื้อสื้อเห็นชัดเกินไปแล้ว แต่ว่าเขาก็มาแล้ว กลับไปโดยไม่ได้ทำอะไรสักอย่างแบบนี้ไม่ได้ ดังนั้นฝืนใจพูดว่า “แกไม่ต้องกลัวสื้อสื้อ ผมไม่มีความหมายอย่างอื่น ก็แค่มาเยี่ยมแก”
“ตกลงท่านมาทำอะไรหรือ?” เจียงสื้อสื้อพูดอย่างเย็นชา คำพูดโกหกของเจียงเจิ้นเธอจะไม่เชื่ออีกแล้ว
คนคนนี้ยืนอยู่ที่นี่เธอก็รู้สึกหงุดหงิด จิ้นเฟิงเฉินทำไมยังไม่มา เธออยากออกไปแล้ว
เจียงเจิ้นรีบพูดว่า “ได้ยินว่าแกตั้งครรภ์แล้ว ผมเอาสิ่งของนิดๆหน่อยๆมาให้แก แกทำไมยังทำงานอยู่ล่ะ ยามปกติระวังร่างกายหน่อย อย่า........ขอโทษ ผมพูดมากเกินไปแล้ว”
เจียงสื้อสื้อไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกซาบซึ้งใจ ยังรู้สึกน่าขำ คิดไม่ถึงว่า เจียงเจิ้นจะเป็นห่วงเธอ คำพูดที่เขาพูดแม้แต่คำเดียวเธอล้วนไม่เชื่อ เพราะว่าเจียงเจิ้นอยู่ดีๆมาคอยเอาอกเอาใจ ไม่ใช่คนพาลก็คือคนขโมย เจียงเจิ้นย่อมมีจุดประสงค์อะไรอีกอย่างแน่นอน
สายตาเลื่อนลง ตกอยู่บนสิ่งของที่เจียงเจิ้นหิ้วไว้
ในทันทีนั้นเจียงเจิ้นรู้จักวางตัวยกของขึ้นมาหน่อยหนึ่ง แนะนำว่า “นี่คือแม่ของแกคัดเลือกด้วยตนเอง เหมาะสมกับให้แกกินตอนนี้อย่างมาก แก........”
เจียงสื้อสื้อตัดคำเขา “แม่ของฉันตายไปแล้ว”
เจียงเจิ้น “.........”
เดิมทีเขาคืออยากจะสร้างความรู้สึกดีๆให้เสิ่นซูหลันสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าถูกเจียงสื้อสื้อตะโกนกลับมาอย่างไม่ไว้หน้าขนาดนี้ อารมณ์ยังรุนแรงขนาดนี้ โชคดีว่าสุดท้ายเสิ่นซูหลันเลือกที่จะไม่มา มิฉะนั้นก็ไม่รู้ว่าจะรับได้หรือไม่เช่นกัน
“ได้ได้ เป็นผมพูดผิดเอง แกอย่าเก็บใส่ใจเลย” เจียงเจิ้นเปลี่ยนการพูดด้วยรับความคิดเห็นที่ดีเหมือนกับกระแสน้ำที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ
บัดนี้ เขาอยู่ต่อหน้าเจียงสื้อสื้อก็หน้าใหญ่ใจโตอีกไม่ได้แล้ว แต่ว่าเจียงสื้อสื้อไม่ชอบอย่างนี้สักนิด ถ้าหากว่าเป็นไปได้ล่ะก็ เธอหวังว่าคนคนนี้ อย่าโผล่ออกมาอีกชั่วนิรันดร์
“ท่านไม่ต้องทำอย่างนี้ พวกเราต่างคนต่างเดินทางของตนเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวข้องกัน ไม่ใช่ดีมากเลยหรือ ท่านทำไมต้องโผล่ออกมาอีกล่ะ?” เจียงสื้อสื้อถามอย่างนิ่งๆ
เจียงเจิ้นฝืนใจยิ้ม ก้มหน้าไม่กล้ามองเจียงสื้อสื้อ “สื้อสื้อ แต่ก่อนพ่อทำเรื่องผิดไปมากมาย ทำร้ายแกแล้ว ผมรู้ แกเกลียดพ่อ นานขนาดนี้แล้วก็ไม่ยอมติดต่อผมสักนิด ผมล้วนรู้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!