บทที่ 505 จำฉันไม่ได้แล้วเหรอ?
เจียงสื้อสื้อก็เดินจูงมือจิ้นเฟิงเฉินออกมาจากห้องทำงานของหมอ พร้อมกับแกว่งมือไปมา แล้วก็พูดด้วยสีหน้าที่มีความสุขว่า “ใช้เวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น มันเป็นเรื่องที่วิเศษไปเลย คุณว่าไหม?”
ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเห็นแม่ของตัวเองหายเป็นปกติอีกแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินจับมือของเธอขึ้นมา จูบลงที่หลังมือเบาๆ จากนั้นก็พยักหน้า “ครับ หนึ่งปีให้หลัง ลูกของเราก็คลอดแล้วแถมแม่ก็อยู่ด้วย ตอนนั้นเรามาจัดงานตั้งงานที่แสนอลังการกัน ทุกอย่างมันช่างเหมาะเจาะกันจริงๆ”
ร่างกายของทั้งสองคนขยับเข้ามาใกล้กันทีละนิด ร่างกายที่สูงใหญ่ของจิ้นเฟิงเฉินค่อยๆ โอบล้อมเข้ามา บดบังทัศนวิสัยของเธอเอาไว้
บรรยากาศที่แสนอบอุ่นกับน้ำเสียงชวนหลงใหลที่ดังอยู่ข้างหู ราวกับขนนกที่ลอยผ่าน มันทำให้รู้สึกจักจี้
ทั้งคู่หันมาสบตากับ ต่างก็มองเห็นเปลวไฟที่ลุกโชนกับสิ่งที่อีกฝ่ายปรารถนาอย่างชัดเจน
เมื่อบรรยากาศมันได้ จิ้นเฟิงเฉินก็โน้มตัวลงมา ใบหน้าที่หล่อเหลาค่อยๆ เข้าใกล้ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของเธอทีละนิด
เจียงสื้อสื้อถอยจนไปชิดกำแพง เรี่ยวแรงทั้งหมดในร่างกายมันสูญสิ้นไปหมดแล้ว เธอหลับตาลงตามสัญชาตญาณและกอดเอวที่เล็กคอดของเขาเอาไว้แน่น
“อะแฮ่มๆ!”
ในตอนที่ริมฝีปากของทั้งสองอยู่ห่างกันแค่ปลายนิ้วนั้นเอง เสียงไอของใครบางคนทำให้เจียงสื้อสื้อตกใจจนผลักจิ้นเฟิงเฉินออกไป
พอรูปที่มาของเสียงมันก็ทำให้ใบหน้าของเจียงสื้อสื้อแดงซะยิ่งกว่าแอปเปิลแดงอีก
เธอรีบกล่าวทักทายกับพ่อจิ้นแม่จิ้นด้วยความเลิ่กลั่ก “พ่อคะ แม่คะ”
พวกเขายืนอยู่ในที่ไม่ไกล พ่อจิ้นที่เพิ่งส่งเสียงไอออกมารีบหันไปมองหน้าแม่จิ้นด้วยความทรมาน
ถ้าสังเกตสักหน่อยก็จะเห็นว่าแม่จิ้นกำลังหยิกหนังบนตัวเขาอยู่
“คุณนี่นะ บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้อยู่เงียบๆ ดูสิลูกๆ ตกใจหมดแล้ว!” แม่จิ้นแอบตำหนิพ่อจิ้น
เมื่อกี้เธอน่าจะเอามืออุดปากตาแก่คนนี้เอาไว้ จะได้ไม่ต้องไปขัดจังหวะของหนุ่มสาวคู่นี้
“ฉันก็แค่อยากจะเตือนสติพวกเขาเท่านั้น อยู่ในโรงพยาบาลไม่ควร……โอ้ย ไม่พูดแล้ว ไม่พูดแล้ว”
สีหน้าของพ่อจิ้นดูแย่ลงอีกครั้ง แต่เขาก็กลับมาทำหน้าปกติได้อย่างรวดเร็วโดยการกลั้นความเจ็บเอาไว้
เจียงสื้อสื้อเข้าใจดีว่าพ่อจิ้นต้องการจะสื่ออะไร การอยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้ก็ความรู้จักวางตัวให้เหมาะสมกับสถานที่หน่อย
เมื่อกี้เธอแค่ถูกความกระหายเข้าครอบงำจนควบคุมตัวเองไม่ได้ โอ้ย………บ้าบอ!
เป็นธรรมดาของคนที่เข้าเห็นจะทำตัวไม่ถูก แต่คนที่ก่อเรื่องยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่
เจียงสื้อสื้อยืนก้มหน้าก้มตาเหมือนกันเด็กน้อยที่เพิ่งทำเรื่องไม่ดีมา เธออายจนแทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีแล้ว
ใบหน้าของเธอแดงก่ำ เห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจเลย
จิ้นเฟิงเฉินก้าวมาข้างหน้าด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย สิ่งเดียวที่เขาแสดงออกทางสีหน้าก็คือ ความไม่พอใจที่การจูบกับภรรยาของตัวเองถูกขัดจังหวะแบบนี้
“พ่อกับแม่มีเวลามาที่ได้ยังไงครับ? ไม่ใช่จะไปช่วยไกล่เกลี่ยที่บ้านญาติหรอกเหรอครับ?”
ในขณะที่พูดเขาก็โอบเจียงสื้อสื้อแน่นขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้เธออยู่ใกล้ตัวเองให้มากที่สุดโดยไม่สนใจว่าใครจะพูดอะไร
แม่จิ้นเป็นคนอธิบาย “เรื่องทางนั้นเขาจัดเขาจัดการกันเองแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องไปที่นั่น ต้องแรกฉันกับพ่อของแกก็ที่อยากมาที่นี่ให้เร็วที่สุด แต่ก็แวะซื้อของฝากไปแปบหนึ่ง ไม่รู้ว่าแม่ของสื้อสื้อเธอชอบอะไร เลยซื้อมาหมดนี่แหละ เราถึงได้มาช้าแบบนี้ไง”
แล้วเจียงสื้อสื้อก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าในมือของพ่อจิ้นนั้นเต็มไปด้วยของฝาก
ส่วนด้านหลังของเขาก็ยังมีพ่อบ้านที่พาคนงานในบ้านมาด้วย ในมือของทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยผลไม้และของบำรุงมากมาย
ของเยอะขนาดนี้ ฟางเสว่มั่นคนเดียวไม่มีทางกินหมดอย่างแน่นอน
เมื่อต้องมาเจอกับการเยี่ยมไข้ที่เวอร์วังขนาดนี้ เจียงสื้อสื้อถึงกับต้องกุมขมับเลยทีเดียว
การเยี่ยมไข้ของคนบ้านนี้มันช่างเหมือนกันไม่มีผิด ไม่น่าจะเจริญได้เลยสักคน……”
ด้วยการมาของแม่จิ้น มันยิ่งทำให้ห้องคนไข้ดูครึกครื้นขึ้นไปอีก
พอเปิดประตูเข้ามา แม่จิ้นก็รีบตรงเจ้าไปหาฟางเสว่มั่นแล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูสนิทสนมว่า “คุณนี่เองที่เป็นแม่ของสื้อสื้อ ดีจริงๆ ที่ได้เจอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!