ตอน บทที่ 541 แสงสว่างของฉันไม่อยู่แล้ว จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 541 แสงสว่างของฉันไม่อยู่แล้ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่เขียนโดย เมียวเมียว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่ 541 แสงสว่างของฉันไม่อยู่แล้ว
มีไฟดวงหนึ่งสว่างอยู่ด้านหน้า เหมือนเป็นความหวังสุดท้าย เคลื่อนไหวไปมาท่ามกลางความมืด
การค้นหาไม่ได้หยุดลงเลย
จิ้นเฟิงเฉินไม่พูด ไม่มีใครกล้าหยุด
เรือส่ายไปมา แต่ไม่มีอะไรทำให้สีหน้าหม่นหมองจิ้นเฟิงเฉินเปลี่ยนได้เลย
ทั้งวัน เขายืนอยู่ตรงนั้นไม่กินไม่ดื่มอะไรเลย มองไปที่ท้องทะเลอย่างหน้านิ่ง
ดูสภาพเขาแบบนี้ จิ้นเฟิงเหราก็รู้สึกเป็นห่วง
ดึงแขนเสื้อเขา ถามอย่างเป็นห่วง “พี่ พี่ยืนทั้งวันแล้ว พักก่อนเถอะ ดื่มน้ำสักคำก็ยังดี แบบนี้ร่างกายรับไม่ไหวนะ”
ไม่มีเสียงตอบกลับ จิ้นเฟิงเหรายืนอยู่ที่เดิม สายตามองไปข้างหน้า
หลายครั้งจิ้นเฟิงเหราคิดว่าเขาจะกระโดดตามลงไป แต่เขาก็ยังยืนอยู่ตรงนั้นดีๆ ทำให้เขาต้องคอยกังวล
เขารู้ เพราะยังไม่ได้เห็นศพของเจียงสื้อสื้อ
แต่พอกลางคืน จิ้นเฟิงเหราเริ่มทนไม่ไหว เอาน้ำมาแล้วยื่นให้เขา
จิ้นเฟิงเฉินไม่รับ ยืนไม่ขยับเหมือนศพ ไม่มีอาการตอบรับแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่หันมามองเขา
อาการจะเป็นจะตายแบบนี้ก็ทำให้จิ้นเฟิงเหรารู้สึกหดหู่
“พี่ไม่พักแบบนี้ ก็น่าจะให้คนอื่นพักบ้าง พวกเขาค้นหากันมาทั้งวันแล้ว ต้องการพักเติมพลังแล้ว”
เขาถอนหายใจ หันไปมองหน่วยงานค้นหาที่ดูเหนื่อยล้า
ได้ยินแบบนี้แล้วจิ้นเฟิงเฉินก็ขยับเปลือกตา มีอาหารตอบสนอง
ขยับตัว เดินไปข้างหน้า
“พักก่อน พรุ่งนี้ค่อยเปลี่ยนกะกันค้นหาใหม่” เขาพูดด้วยเสียงแหบ สายตาหดหู่ไร้แวว
พูดจบ ทุกคนต่างก็โล่งใจ ล้มนั่งลงไปกับพื้นเพื่อพักผ่อน
แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับไม่ได้หยุด เขาเดินเข้าไป พับแขนเสื้อไปรับงานค้นหาต่อ
ครั้งแล้วครั้งเล่า มือดึงจนแดงก่ำแต่กลับไม่มีความรู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย.....
เขาไม่มีสิทธิ์ให้คนอื่นทำงานตลอด แต่เขาไม่มีวันปล่อยโอกาสและเวลาที่จะช่วยเหลือเจียงสื้อสื้อเด็ดขาด
ถ้าหาก เวลาที่พวกเขาจอดเรือพักผ่อน แต่กลับสวนทางกับเจียงสื้อสื้อไป?
ไม่ว่าแม้แต่นาทีเดียว ก็เป็นโอกาสที่เจียงสื้อสื้อจะมีชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งนาที
เมื่อจิ้นเฟิงเหราเห็น ก็ต้องถอนหายใจอย่างแรง
เขาไม่ได้ห้ามจิ้นเฟิงเฉิน และไม่มีวันห้ามความดื้อรั้นและหนักแน่นอย่างเขาได้
เพราะเห็นการกระทำของจิ้นเฟิงเฉินแล้ว กลุ่งค้นหาก็ไม่ได้หยุดพักนาน ก็รีบลุกขึ้นมาค้นหาต่อ......
การค้นหาไม่หยุดไม่หย่อน การทำงานอย่างหนักทำให้ดึงดูดความสนใจของสื่อ
หน่วยงานค้นหาออกทะเลค้นหาคน เรื่องนี้ทำให้เกิดความสนใจเป็นอย่างมาก การค้นหาใหญ่โตแบบนี้ สื่อมากมายต่างพากันรายงานข่าว
แต่เพราะตระกูลจิ้นปิดข่าวได้ดี สื่อก็ยังไม่สามารถเข้าไปทำข่าวอย่างใกล้ชิดได้
สุดท้ายมีสื่อนำนักหนึ่งได้เบาะแสมา เขียนว่าเป็นการลักพาตัวหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่ง ถูกโยนลงทะเล
หนึ่งศพสองชีวิต คนในครอบครัวต่างก็ช่วยกันหาศพด้วยความเศร้าโศก
ทันใดนั้น ก็ได้รับความเห็นใจจากผู้คน
ผู้คนต่างช่วยกันรวมกลุ่มในอินเทอร์เน็ตเพื่อช่วยค้นหา
มีชาวเน็ตบอกว่า บ้านอยู่ใกล้ทะเล พรุ่งนี้เช้าไปจะเข้าไปช่วยเหลือการค้นหา.....
แต่ว่า ทุกอย่างก็เหมือนสูญเปล่า
ติดกันหลายวัน จิ้นเฟิงเฉินยืนอยู่หัวเรือตลอด ไม่กินไม่นอนไม่พัก สายตามองไปที่กลางทะเล
เพราะในใจเขาคิดตลอดว่า สื้อสื้อยังรอเขาอยู่ เขาจะไม่เสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว
ท่ามกลางคลื่นลม ใบหน้าของจิ้นเฟิงเฉินเริ่มแตกร้าวเพราะลมพัด จนเป็นรอยแดง
รู้สึกมีกลิ่นคาวเลือดขึ้นมาที่คอ มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา
จิ้นเฟิงเหราที่อยู่ข้างๆรีบเข้าไปพยุงตัว พูดด้วยความเป็นห่วง “พี่ พี่มีสติหน่อย หัวหน้าหน่วยเขาพูดถูก ตอนนี้พี่สะใภ้โอกาสรอดน้อยมาก ตอนนี้มีเรื่องมากมายรอพี่ไปจัดการอยู่ พี่ต้องเข้มแข็ง สภาพร่างไร้วิญญาณของพี่ตอนนี้ ยังเป็นจิ้นเฟิงเฉินที่เก่งกาจคนเดิมไหม? พี่สะใภ้ไม่อยากเห็นพี่เป็นแบบนี้”
ได้ยินแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็ยิ้ม พูดอย่างไร้เรี่ยวแรง “ฉันต้องเข้มแข็ง......ยังมีประโยชน์อะไร? สื้อสื้อกลับมาได้ไหม? เหอะ......ฉันไม่มีแสงแล้ว แสงของฉันไม่อยู่แล้ว ข้างหน้ามืดมนไปหมด ฉันมองหน้าเธอไม่ชัดเลย”
พูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็จะล้มไปข้างหน้า จิ้นเฟิงเหรารีบรับเขาไว้
มองดูร่างที่อ่อนเพลียของจิ้นเฟิงเฉินแล้วเขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก ได้แต่ให้เขานั่งพักอยู่ข้างๆ
หัวหน้าหน่วยค้นหาลุกขึ้นมา มองจิ้นเฟิงเฉินด้วยสีหน้าครุ่นคิด
จิ้นเฟิงเหราทำมือให้เขา ให้เขาออกไปก่อน
“ต้องขอโทษจริงๆ พี่สะใภ้ผมหายตัวไป พี่ชายผมควบคุมอารมณ์ไม่ได้ตอนนี้ หวังว่าคุณอย่าใส่ใจ”
หัวหน้าหน่วยได้ยินแล้วก็ส่ายหัวพูดว่า “คุณชายรอง คุณอย่าพูดแบบนี้ สถานการณ์ของประธานจิ้นตอนนี้ผมเข้าใจดี แต่ตอนนี้มันผ่านช่วงเวลานาทีทองไปแล้ว ค้นหาต่อก็ไม่มีความหวังแล้ว โอกาสรอดน้อยมาก เพราะฉะนั้น.....ขอให้คุณชายรองช่วยพูดกล่อมเขาด้วย”
คำพูดของหัวหน้าหน่วยทำไมจิ้นเฟิงเหราจะไม่รู้?
จิ้นเฟิงเฉินจะไม่เข้าใจได้ยังไง?
แต่ใครจะไปยอมรับความจริงนี้ได้ละ
คนที่ยังกระโดดโลดเต้นอยู่ดีๆ ตอนนี้กลับหายไปจากโลกของพวกเขา ใครก็รับไม่ได้
สายตาจิ้นเฟิงเหราเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เมื่อหัวหน้าหน่วยเดินจากไป เขาก็เดินไปข้างหน้าจิ้นเฟิงเฉิน
ร่างที่สูงใหญ่แต่ก่อน แต่วันนี้กลับดูอ่อนแอ
ทุกสิ่งในโลกย่อมเปลี่ยนไปได้ ชะตาชั่งเล่นตลกกันคน
ยื่นไปสักพัก จิ้นเฟินเหราก็เปิดปากพูด
“พี่ มันผ่านช่วงเวลาปลอดภัยไปแล้ว โอกาสที่พี่สะใภ้มีชีวิตอยู่น้อยมาก......”
“ผมรู้ว่ามันยอมรับยาก แต่ว่า เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว พวกเราต้องยอมรับ......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!