บทที่ 551 ตามจีบให้อยู่หมัด
ตอนนั้นเจียงสื้อสื้อจมอยู่ในน้ำทะเล และสำลักน้ำทะเลเข้าไปไม่น้อย
บวกกับศีรษะยังถูกกระแทก ร่างกายจึงอ่อนแรงมาก เหลือเพียงลมหายใจที่รวยริน
ถ้าหากไม่ได้คนที่มีความรู้วิธีการปฐมพยาบาลตามฝู้จิงเหวินมาด้วยแล้วช่วยเหลือไว้ เธอคงไม่สามารถอดทนจนเรือมาถึงที่นี่ได้
หลังจากนำเจียงสื้อสื้อไปส่งรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว เธอก็นอนสลบอยู่หนึ่งเดือนเต็ม
แพทย์บอกว่าเนื่องจากสมองถูกกระทบกระเทือน จึงส่งผลต่อเส้นประสาทบางส่วน
อีกทั้งเธอยังตั้งครรภ์ ภาวะทารกในครรภ์ก็ยังไม่ปลอดภัยดี ทางโรงพยาบาลจึงไม่กล้าให้ยาผลีผลาม
เพียงแค่ฉีดสารอาหารเพื่อให้ชีพจรของเธอเต้นปกติเท่านั้น
ในช่วงเวลาที่ทุกคนคิดว่าเธอจะไม่สามารถฟื้นขึ้นนั้น เจียงสื้อสื้อก็ได้ฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์
แต่เมื่อฟื้นขึ้นมาแล้ว ดวงตาของเธอดูซึมเซาเล็กน้อย
ยังจำได้ว่าเธอตอนนั้น เมื่อเห็นพวกเขา ได้พูดประโยคออกมาด้วยความมึนงงสะลึมสะลือ “ฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
หลังจากที่แม่ฝู้ได้เล่าอธิบายถึงคำพูดที่ได้ยินจากลูกชายให้กับเจียงสื้อสื้อแล้ว เธอก็ยังจำไม่ได้ว่าก่อนหน้านั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น
แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ยกแขนขึ้นปัดไม่ให้พวกเขาเข้าใกล้ แล้วก็ดึงสายยางออก จากนั้นได้วิ่งออกไป
แต่ตอนที่วิ่งออกไปนั้น ชนเข้ากับฝู้จิงเหวิน แล้วเธอก็หยุดวิ่ง
ยืนจ้องมองฝู้จิงเหวินอยู่สักพัก จากนั้นความหวาดกลัวในแววตาได้มลายหายไป
“ที่รัก” เจียงสื้อสื้อร้องเรียกขึ้น แล้วก็ร้องไห้โฮโผเข้ากอดฝู้จิงเหวิน
ทุกคนต่างมึนงงตกใจ รู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบตามแพทย์ให้มาตรวจดู
หลังจากซักถามอยู่สักพัก ทุกคนได้รู้ว่าเจียงสื้อสื้อจำชื่อของตัวเองได้ จำได้ว่าเหมือนตัวเองแต่งงานแล้ว และก็มีลูกชายหนึ่งคน
แต่ความจำที่เหลือมีความสับสนปนเปไปหมด อีกทั้งยังเข้าใจผิดคิดว่าฝู้จิงเหวินเป็นสามีของเธอ
ในตอนนั้น ด้วยความสงสารเจียงสื้อสื้อ ทุกคนจึงไม่ได้พูดเผยความจริงของเรื่องนี้ อีกทั้งยังพาเธอเข้าไปอยู่ที่บ้านตระกูลฝู้ด้วย
พริบตาเดียวเวลาก็ผ่านไปสามปีแล้ว ลูกในท้องของเธอก็คลอดออกมาอย่างปลอดภัย และก็คลอดออกมาเป็นเด็กผู้หญิง
ทุกคนก็ไม่ได้รังเกียจ ยังให้การต้อนรับการมาของชีวิตนี้ด้วยอย่างยินดี
การหวนระลึกถึงความทรงจำได้หยุดลงทันที แม่ฝู้บิดผ้าเช็ดหน้า เผยให้เห็นถึงความเศร้าบนใบหน้า
แล้วเธอก็บ่นขึ้นด้วยความหงุดหงิด “เฮ้อ จิงเหวินเด็กคนนี้ก็เหลือเกินจริงๆ สามปีผ่านไปแล้ว ทำไมถึงยังไม่จับสื้อสื้อมาเป็นภรรยานะ ถ้าลงมือตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่แน่เธออาจจะมีลูกชายหรือลูกสาวเพิ่มแล้ว นี่ฉันคงไม่ได้คลอดลูกชายหัวทื่อมาหรอกนะ”
แม่ฝู้บ่นพึมพำด้วยความโมโห
หลายปีมานี้ ปฏิกิริยาของลูกชายตัวเองนั้นอยู่ในสายตาเธอมาตลอด
เขาไม่สนใจชายตามองหญิงสาวคนอื่น เอาแต่ทำหน้าตาบึ้งตึง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสื้อสื้อ ก็มักจะไม่สามารถปกปิดรอยยิ้มได้
ถ้าคนตาดีจะสังเกตเห็นว่าเขานั้นชอบเจียงสื้อสื้อ
แต่วิธีที่สารภาพนั้นค่อนข้างจะอ้อมค้อมไปหน่อย สามปีผ่านไปแล้ว การคลุกคลีของทั้งคู่ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ความสัมพันธ์ก็พัฒนาค่อนข้างช้า ไม่เดินหน้าย่ำอยู่ที่เดิม
เธอเห็นแล้วเป็นกังวลแทน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ทำได้เพียงด่าลูกชายตัวเองในใจว่าไม่เอาไหน คนก็อยู่ตรงหน้าแท้ๆ ไม่รู้จักตามจีบให้อยู่หมัด เอาแต่พะวงในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
แต่เธอก็เข้าใจลูกชายของตัวเอง ว่าลูกชายไม่อยากจะฉวยโอกาส
ซึ่งในความคิดของเธอ คิดว่าลูกชายของตัวเองนั้นคิดมากเกินไป
เธอคิดว่าที่สื้อสื้อมาถึงจุดนี้ได้ จะต้องเป็นเพราะว่าถูกสามีทิ้งอย่างแน่นอน
สามปีได้ผ่านไปแล้ว สามีของเธอไม่เคยออกตามหา เพราะฉะนั้นเธอคิดว่าลูกชายของตัวเองไม่จำเป็นต้องอดทนอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!