บทที่ 599 รบกวนพวกคุณแล้วใช่หรือไม่
“คุณ.......คุณเจียงสวัสดีครับ ท่านประธานกำลังประชุมอยู่ เดี๋ยวก็จะจบแล้ว ท่านตามผมมาเถอะ” คุณหญิงที่มาอยู่ต่อหน้าถูกกู้เนี่ยนพากลับไปอย่างฝืนๆ พาเจียงสื้อสื้อเดินไปยังออฟฟิศประธาน
“ฉันมาไม่ถูกเวลาใช่ไหม น่าจะต้องโทรมาก่อน ขอโทษค่ะ รบกวนพวกคุณแล้วใช่หรือไม่?”
ออกจากลิฟต์ เจียงสื้อสื้อพูดอย่างรู้สึกเกรงใจ
กู้เนี่ยนรีบพูดอย่างเคารพนบนอบว่า “ไม่มี ไม่รบกวน ท่านจะมาเมื่อไหร่ก็ได้!”
สำหรับการมาถึงของเจียงสื้อสื้อ คนที่ไหนจะกล้าบอกว่าเป็นการรบกวนล่ะ?
ทันทีที่ได้ยินว่าเจียงสื้อสื้อมาแล้ว ประธานของบ้านพวกเขาไม่ว่างล้วนสามารถกลายเป็นว่างทันที
นี่ไม่ใช่คนที่เดิมทียังอยู่ในห้องประชุม คราวนี้ยืนอยู่หน้าประตูแล้ว มองหาไปรอบๆฝั่งนี้อยู่
กู้เนี่ยนอดไม่ได้รู้สึกมีความจนใจเล็กน้อย
เจียงสื้อสื้อเหมือนดั่งได้สังเกตเห็น มองไปยังข้างหน้า
แสงอาทิตย์ที่อบอุ่นหลังเที่ยงตกอยู่บนกายของผู้ชายที่สูงใหญ่ หน้าตาสวยสดงดงามหล่อเหลา สายตามีดั่งไม่มีตกอยู่บนกายเธอ
หน้าตาที่งดงามนั้นจับกุมจิตวิญญาณของคนในทันที เขายืนอยู่ที่นั่น ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนดั่งสูญเสียสีสันไป
ทันทีนั้นทำให้คนจินตนาการถึงแสงจันทร์ที่ส่องแสงสุกสกาวในเวลากลางคืน
“มาแล้วหรือ”
ลูกกระเดือกของเขากลิ้งไปหนึ่งที เสียงแหบเข้มต่ำ เป็นน้ำเสียงของผู้ชายคนนี้โดยเฉพาะ แต่ฟังแล้วอ่อนโยนมาก
ตอนที่จ้องมองเธอดวงตาสดใส ไม่ปิดบังความอาลัยรักที่เข้มแรงนั้นแม้แต่น้อย
เจียงสื้อสื้อสะบัดเส้นผมที่อยู่หน้าผาก บังคับตนเองให้เยือกเย็น
“อืม สัญญาเขียนเสร็จแล้ว เอามาให้คุณดูสักหน่อย”
กู้เนี่ยนออกไปอย่างอ่านสีหน้าคนอื่นออก เก็บช่องว่างไว้ให้กับคนทั้งสองอยู่ตามลำพัง
ก่อนที่จะไป ผ่านช่องของหน้าต่างเห็นคนทั้งสองนั่งตรงข้ามกัน
ประธานบ้านตนเองรับสัญญาที่เจียงสื้อสื้อยื่นเข้ามา เปิดออกมาอ่านอย่างละเอียด
เพียงแค่หางตาไม่เคยออกจากบนกายเธอเหมือนเดิม ทำการนำใจเดียวใช้ไปสองด้านอย่างสุดขีด
กู้เนี่ยนยิ้มเล็กน้อยหนึ่งที ส่ายหัวออกไปเลย
“ที่นี่ ผิดแล้ว ง่ายที่จะเกิดความขัดแย้ง ตอนแรกที่พวกเราคุยไว้คือ........”
ในห้องที่ปิดมิดชิด ลมเบาๆพัดผ้าไหมลอยขึ้นมา
นิ้วมือของจิ้นเฟิงเฉินตกอยู่บนกระดาษขาวตัวหนังสือดำ ชี้ความผิดทีละจุดออกมาหลายจุด
ส่วนเจียงสื้อสื้อยื่นหัวออกไปดู ฟังการอธิบายของเขาจบ พยักหน้าต่อๆกันอย่างเข้าใจ
“เป็นพวกเราพิจารณาไม่รอบคอบจริงๆ ฉันเอากลับไปให้คนแก้ไขสักหน่อย”
เธอหยิบปากกาขึ้นมา ทำเครื่องหมายตรงจุดผิดพลาดหลายจุดที่จิ้นเฟิงเฉินพูด
ก้มหัวเขียนไปสักพัก เจียงสื้อสื้อเงยหน้าขึ้น ยิ้มไต่ถามจิ้นเฟิงเฉินว่า “ฉันบันทึกเสร็จแล้ว ก็แค่นี้ใช่........ไหม”
จากนั้นตอนที่เงยหน้าขึ้น เกือบจะถูกับริมฝีปากของจิ้นเฟิงเฉิน
เมื่อกี้ตอนที่ร่วมหารือกันระยะห่างถูกดึงใกล้เข้ากันอย่างไม่รู้ตัว ครั้งนี้ห่างจากจิ้นเฟิงเฉินเพียงแค่หนึ่งนิ้วเท่านั้น
หน้าตาของเขาใหญ่ขึ้นอยู่ต่อหน้า ใกล้จนแม้แต่ลมหายใจกันและกันล้วนสามารถได้ยิน
แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับดูเหมือนไม่รู้สึกอะไรสักนิด นัยน์ตาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เข้มแรง จ้องมองเธออย่างใจจดใจจ่อ
อุณหภูมิในห้อง เพิ่มสูงมากขึ้นในทันที
ถูกเขาจ้องมองจนขนลุก สีหน้าของเจียงสื้อสื้อแดงระเรื่อบางๆขึ้นมา เหมือนดั่งกวางน้อยที่ตื่นตระหนกตกใจ
หลังจากมีปฏิกิริยากลับมาแล้ว เจียงสื้อสื้ออึ้งหนึ่งทีลุกขึ้นมายืน ถอยหลังยืดระยะห่างให้กว้างขึ้น
เทียบกับความตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกของเธอ จิ้นเฟิงเฉินก็เห็นว่าใจเย็นกว่าเยอะเลย
มุมปากของเขาแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย พูดอย่างเมฆบางลมเบาว่า “ไม่มีปัญหาแล้ว”
เจียงสื้อสื้อเพิ่งนึกว่าถ้าไม่มีปัญหาแล้วงั้นเธอไปก่อนล่ะ จิ้นเฟิงเฉินตัดคำเธออีกที
“ผมเลี้ยงคุณไปดื่มอะไรสักหน่อยข้างล่างเถอะ ถือว่าทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ให้เกียรติสักครั้งได้หรือไม่?” เจียงสื้อสื้ออึ้งชะงัก เผชิญหน้ากับการเชิญชวนที่ใจกว้างขนาดนี้ของผู้ชายเป็นความตื่นเต้นอย่างมาก
ในเวลาแบบนี้ถ้าเธอปฏิเสธ กลับเห็นได้ชัดว่าในใจเธอมีพิรุธ ก็เลยพยักหน้าขานรับ
“ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!