ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 638

สรุปบท บทที่ 638 ไม่มีข่าวคราวก็คือข่าวคราวที่ดีที่สุด: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

บทที่ 638 ไม่มีข่าวคราวก็คือข่าวคราวที่ดีที่สุด – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

ตอนนี้ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 638 ไม่มีข่าวคราวก็คือข่าวคราวที่ดีที่สุด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 638 ไม่มีข่าวคราวก็คือข่าวคราวที่ดีที่สุด

หลังจากเธอพยักหน้า แม่ฝู้ที่อยู่บนเตียงคนป่วยก็มีรอยยิ้มปลื้มอกปลื้มใจปรากฏออกมา

เธอลูบฝ่ามือเจียงสื้อสื้อ กะพริบตาที่แห้งผากด้วยความพอใจ มีสีหน้าที่เหมือนจะไม่เสียใจอีกต่อไป

แต่เจียงสื้อสื้อกลับไม่ค่อยสบายใจนัก เธอยิ้มตอบแม่ฝู้ไปอย่างแข็งๆ

ภายในใจ ยุ่งเหยิงจนจะขาดอยู่แล้ว

ฝู้จิงเหวินที่ยืนอยู่ข้างๆเห็นดังนั้น รู้ดีว่าไม่ควรจะดีอกดีใจ แต่ก็ยังเกิดความดีใจอยู่ดี

รู้ว่าภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เจียงสื้อสื้อถูกบังคับอย่างไม่มีทางเลี่ยง ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องรับปากแม่ของตัวเองไป

อนาคตจะแต่งงานกับเขาไหมก็ยังไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้แค่ได้ฟังก็รู้สึกพอใจอย่างมาก

“สมาชิกในครอบครัวมีอะไรจะพูดอีกรีบหน่อยนะคะ จะต้องดำเนินการผ่าตัดแล้ว”

พยาบาลเดินมาแจ้งอีกครั้ง

แม่ฝู้ได้ยินก็มองมาทางฝู้จิงเหวิน พูดกับเขาว่า “จิงเหวิน มรดกของครอบครัว อยู่ที่ตู้ข้างเตียงของฉัน จำไว้ว่าให้เจียงสื้อสื้อ”

มรดกตกทอดที่แม่ฝู้พูดถึงเป็นสัญลักษณ์ของลูกสะใภ้ตระกูลฝู้

หากเจียงสื้อสื้อสวมใส่สิ่งนี้ นั่นก็มีชื่อเป็นสะใภ้ตระกูลฝู้อย่างแท้จริง

เจียงสื้อสื้อที่ยืนอยู่อีกข้างพอได้ยินคำว่ามรดกตกทอด ก็อ้าปากค้าง อยากจะพูดว่าตัวเองไม่ต้องการ

แต่พอเห็นแม่ฝู้กำลังตื่นเต้นดีใจ ก็เงียบไม่พูดไม่จา

“ทราบแล้วครับ คุณแม่”ฝู้จิงเหวินตอบอย่างเชื่อฟัง

เมื่อเป็นเช่นนี้ แม่ฝู้ก็สบายใจ เธอหลับตาลงอย่างพึงพอใจ

มีเพียงเจียงสื้อสื้อเท่านั้น ที่ยังไงก็ไม่สามารถมีความสุขได้

ไม่นาน พยาบาลและหมอก็เดินมา

แม่ฝู้ถูกย้ายไปอีกรถเข็นอีกคันหนึ่ง ถูกเข็นไปยังห้องผ่าตัด

ในตอนที่แม่ฝู้เข้าไปนั้น ฝู้จิงเหวินและพ่อฝู้ถือว่าเป็นคนในครอบครัว ก็ลงชื่อในแบบฟอร์มยินยอมรับการผ่าตัด

ไม่นานห้องผ่าตัดก็มีไฟสีแดงสว่างขึ้น

ประโยคของการผ่าตัดยิ่งใหญ่มาก ทำให้ใจลังเลสับสน

ทั้งสามคนรออยู่ที่นอกห้องผ่าตัด สีหน้าของแต่ละคนเคร่งขรึม

บรรยากาศเงียบสงบ เงียบเหมือนตาย

ไม่มีใครรู้ ว่าความตายหรือโชคดีจะมาก่อนกัน

เวลาค่อยๆหมุนไปทีละนิด ห้องผ่าตัดที่แม่ฝู้อยู่แต่กลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆแม้แต่นิดเดียว

ทำให้คนยิ่งไม่สบายใจ

ฝู้จิงเหวินก้าวเท้าเดินไปนอกประตู เดินไปเดินมา สีหน้ากังวลมากยิ่งขึ้น

ใจของเจียงสื้อสื้อก็รู้สึกไม่ดี เดินเข้าไปพูดปลอบฝู้จิงเหวิน “จิงเหวิน คุณนั่งพักสักหน่อย คุณทำอย่างนี้มาสามชั่วโมงแล้ว”

พ่อฝู้เห็นดังนั้นก็พูดเสริม “สื้อสื้อพูดถูก นั่งเถอะ ตอนนี้ไม่มีข่าวคราวอะไรก็คือข่าวที่ดีที่สุด”

อย่างไรเขาก็คือหัวหน้าครอบครัว ผ่านประสบการณ์มามากมาย ใจสงบกว่าฝู้จิงเหวินอยู่มาก

พูดจบ ฝู้จิงเหวินก็นั่งลง จิตใจกระวนกระวาย สองมือประสานกันไว้ จ้องมาไปที่ห้องผ่าตัด

ในตอนนี้ มีพยาบาลคนหนึ่งพุ่งออกมาจากห้องผ่าตัดอย่างกระวนกระวาย สีหน้าตื่นตระหนก

บนเสื้อผ้าเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสด

ใบหน้าของทั้งสามคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เปลี่ยนไปกะทันหัน ต้องการจะถามสถานการณ์ภายในอย่างกระตือรือร้น

แต่พยาบาลไม่มีเวลามาสนใจพวกเขา หลังจากรีบไปหยิบสายรัดห้ามเลือดมัดใหญ่ ก็รีบพุ่งกลับเข้าไป

ประตูห้องผ่าตัดถูกปิดอย่างไร้ความปราณี

เหตุการณ์นี้ทำให้ทั้งสามคนที่อยู่ด้านนอกประตูตกใจไม่น้อย

สีหน้าของพยาบาลเมื่อกี้นี้เพียงพอแล้วที่จะอธิบายว่าระหว่างกระบวนการการผ่าตัดไม่น่าจะราบรื่น อย่างน้อยสถานการณ์ในตอนนี้ก็น่าจะอันตรายพอสมควร

ใจของจิ้นเฟิงเฉินที่เพิ่งจะสงบลงก็เกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้นในทันที

เจียงสื้อสื้อเองก็ขยี้มุมเสื้ออย่างกังวล หายใจช้าลง

บรรยากาศรอบๆกดดันมาก

บรรยากาศเป็นแบบนี้มาสามชั่วโมงแล้ว

พอฝู้จิงเหวินได้ฟังก็รู้สึกว่ามีเหตุผล หลังจากคิดอยู่สักพักก็พยักหน้าตอบตกลง

หลายวันมานี้ เขาไม่ได้นอนเลยจริงๆ

สภาพจิตใจของเจียงสื้อสื้อนับว่าดีที่สุดท่ามกลางพวกเขา อยู่ดูแลแม่ฝู้ที่นี่เหมาะสมที่สุดแล้ว

คืนนั้นฝู้จิงเหวินและพ่อฝู้ก็กลับบ้านไป

เจียงสื้อสื้อที่นั่งอยู่หน้าเตียงผู้ป่วยไม่ได้ปิดตาลงเลยตลอดทั้งคืน ดูการเปลี่ยนแปลงของแม่ฝู้อย่างระมัดระวัง

เช้าตรู่ของวันต่อมา ในตอนที่เจียงสื้อสื้อกำลังเช็ดหลังมือให้แม่ฝู้อยู่นั้น แม่ฝู้ก็ตื่นขึ้นมา

ทั้งสองคนสบตากัน เจียงสื้อสื้อตกใจไปสักพัก จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปตะโกนเรียกหมอทันที

ไม่นานหมอและพยาบาลก็มาถึง และทำการตรวจเช็คให้แม่ฝู้ทุกด้าน

ในตอนที่หมอกำลังซักถามนั้น แม่ฝู้ระบุได้อย่างชัดเจนว่าเจียงสื้อสื้อเป็นใคร

ตอนนี้นอกจากร่างกายของเธอจะเชื่องช้า สภาพจิตใจของเธอดีมาก

หลังจากการซักถาม หมอก็ยิ้มและพูดกับเจียงสื้อสื้อว่า “การผ่าตัดสำเร็จอย่างแท้จริง จากนี้เพียงแค่ฟื้นฟูสภาพร่างกาย ฝึกฝน ร่างกายก็กลับมาแข็งแรงตามปกติได้ครับ”

เจียงสื้อสื้อได้ยินดังนั้น ในที่สุดบนใบหน้าก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้น และรีบพูดขอบคุณ

อีกด้านหนึ่งของคฤหาสน์ ล้วนมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

หลายวันที่อยู่ที่บ้านตระกูลจิ้นนั้น เถียนเถียนมีความสุขมาก

วันๆอยู่ติดกับจิ้นเฟิงเฉินและเสี่ยวเป่า ความผูกพันของทั้งสามคนมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

วันนี้ จิ้นเฟิงเฉินทำงานอยู่ที่ห้องหนังสือ ในวิดีโอนั่นคือกู้เนี่ยนและผู้บริหารระดับสูงทั้งหลาย

ในตอนที่เขากำลังสั่งงานอะไรอยู่นั้น ที่ประตู จู่ๆเด็กหญิงตัวน้อยและเสี่ยวเป่าก็พุ่งเข้ามา

เสี่ยวเป่ายืนอยู่ข้างๆเถียนเถียน ในมือกำหนังยางไว้ ใบหน้ากลัดกลุ้ม

ในอ้อมแขนของเด็กหญิงตัวน้อยกอดตุ๊กตาอยู่ ผมยุ่งเหยิงไปหมด ขาเล็กๆนั้นก้าวเท้าวิ่งมาทางเข้าด้วยใบหน้าที่กลัดกลุ้ม

จิ้นเฟิงเฉินก้มลงแล้วอุ้มเธอขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

“แดดดี๊……” เด็กหญิงตัวน้อยกระซิบออกมา อย่างไม่ชัดเจน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!