ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 647

สรุปบท บทที่ 647 ต้องได้มาให้ได้: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

สรุปตอน บทที่ 647 ต้องได้มาให้ได้ – จากเรื่อง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

ตอน บทที่ 647 ต้องได้มาให้ได้ ของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์เรื่องดัง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 647 ต้องได้มาให้ได้

จื่อเฟิงออกมาจากห้องทำงาน พริบตาเดียวสีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นโหดร้ายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

เจียงสื้อสื้อ ทำไมเธอไม่ตายไปเสีย!

จื่อเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึก คิดอย่างชั่วร้าย

ในเมื่อเธอหายไปสามปีแล้ว ก็ไม่ควรกลับมาอีก

แต่ไหนแต่ไรมาก็เป็นคนที่ตายไปแล้วนี่ ถ้าอย่างนั้นหายไปอีกรอบก็คงไม่เป็นไร

ในทางเดินที่มืดสลัว ใบหน้าของจื่อเฟิงเหมือนผีร้ายที่มาจากนรก สยดสยองน่ากลัว

ความแค้นและความหึงหวงทำให้จื่อเฟิงเปลี่ยนสีหน้าไปอย่างสิ้นเชิง เล็บจิกฝังลึกลงไปในเนื้อ

อารมณ์บนใบหน้าของเธอใช้คำว่าดุร้ายมาพรรณนามันก็ไม่พอ

เธอมองเงาของจิ้นเฟิงเฉินในห้องทำงาน ใจลึกลงไปมีเจตนาที่ชั่วร้ายแอบแฝง

เจียงสื้อสื้อสมควรตาย ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องกำจัดมัน

เธอต้องได้ผู้ชายคนนี้ แน่นอน...

แต่จิ้นเฟิงเฉินก็ยังไม่รู้ความคิดของจื่อเฟิง เขาเพียงคลึงระหว่างคิ้วที่ปวด

เมื่อไหร่คุณจะกลับมากันนะ สื้อสื้อ ...

เขาเงยหน้าขึ้นมองไปยังหนังสือที่วางไว้บนโซฟาอย่างไม่ได้ตั้งใจ นี่คือสิ่งที่เจียงสื้อสื้อชอบทั้งหมดในตอนแรก

เมื่อกลับมาจากเมืองเป่ย จิ้นเฟิงเฉินก็นำหนังสือเหล่านี้ติดตัวกลับมาด้วย

เมื่ออ่านคร่าวๆไปแล้ว ข้างในยังคงมีเครื่องหมายที่เจียงสื้อสื้อทำเอาไว้ แต่ตอนนี้ตัวละครหญิงไม่ใช่มนุษย์

หลังจากถอนหายใจอย่างหนัก จิ้นเฟิงเฉินก็ลุกขึ้นและออกไปจากห้องทำงาน

ที่นี่มักจะทำให้เขาคิดถึงช่วงเวลาที่ทั้งสองทำงานร่วมกันโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอที่ตั้งใจเป็นคนที่มีเสน่ห์มาก

หลังจากกลับมาถึงบ้านก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว ทั้งคฤหาสน์เงียบมาก มีเพียงเสียงนกและแมลงที่ขับขานขึ้นมาพร้อมกัน

จิ้นเฟิงเฉินเดินไปที่ประตูอย่างเงียบๆ เขาคิดจะตรงกลับห้อง แต่ไม่คาดคิดว่าแม่จิ้นจะเดินออกมาในเวลานี้

เธอเพิ่งตื่นมากลางดึก เมื่อเธอได้ยินเสียงประตูดังขึ้น เธอจึงมาตรวจสอบ

“เฟิงเฉิน?”

เมื่อได้ยินเสียงของแม่จิ้น จิ้นเฟิงเฉินก็นิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะตอบรับ

“รอเดี๋ยว แม่จะไปทำอะไรให้กินเสียหน่อย”

ก่อนที่จิ้นเฟิงเฉินจะทันได้พูดอะไร แม่จิ้นก็หมุนกายตรงไปยังห้องครัวอย่างรวดเร็ว

ภายในสิบนาที อาหารประจำบ้านร้อนๆไม่กี่อย่างก็ถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะ

กลิ่นหอมของอาหารกระตุ้นน้ำย่อยของจิ้นเฟิงเฉินโดยสมบูรณ์

วันนี้เขาจมอยู่กับความเจ็บปวด ยังไม่ได้ทานอาหารดีๆเลยสักมื้อ

แม่จิ้นเห็นจิ้นเฟิงเฉินกินข้าวได้อย่างเอร็ดอร่อย เธอรู้สึกชื่นใจเป็นอย่างมาก

หลังจากคีบผักใส่ลงในชามของจิ้นเฟิงเฉิน แม่จิ้นก็พูดขึ้นมา “นี่เป็นของโปรดลูกทั้งนั้น กินเยอะๆนะ คนเราจะมีแรงทำสิ่งที่อยากทำได้ก็ต่อเมื่ออิ่มท้อง”

เมื่อรู้ว่าแม่จิ้นกำลังกังวลเรื่องอะไร จิ้นเฟิงเฉินจึงพูดปลอบ “แม่ สบายใจเถอะ ผมไม่ถูกโจมตีได้ง่ายๆหรอก ผมคือจิ้นเฟิงเฉินนะ”

แม่จิ้นหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มที่มาจากใจถูกส่งออกมา

เธอกลัวว่าจิ้นเฟิงเฉินจะซึมเซาเหมือนเมื่อสามปีก่อน ท่าทางของเขาแบบนั้นทำให้เธอกังวลจริงๆ

“เห็นลูกเป็นแบบนี้แม่ก็หายห่วง สื้อสื้อเป็นคนของตระกูลจิ้น สู้ๆนะเจ้าลูกชาย!”

แม่จิ้นพูดไปก็ทำท่าทางให้กำลังใจไปด้วย จิ้นเฟิงเฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ก่อนจะทำท่าทางตามแม่จิ้นไปด้วย

พูดพลางผลักพ่อจิ้นออก แต่พ่อจิ้นยังคงอยู่เคียงข้างแม่จิ้นด้วยท่าทีนอบน้อม

ใครให้เป็นเมียตัวเองกันละ หลายปีมานี้ที่อบรมฝึกฝนให้ภรรยาเข้มงวดแบบนี้ก็ดีไม่น้อย

ทั้งสองง่วนอยู่ในครัวกันสักพัก ก่อนจะเตรียมอาหารเสร็จ

ต่อมา เมื่อมาถึง JS กรุ๊ป

เมื่อมาถึงก็ได้ยินมาว่าจิ้นเฟิงเฉินกำลังประชุมอยู่ ทั้งสองจึงรออยู่ข้างนอก

ผ่านไปแล้วสิบนาที จิ้นเฟิงเฉินถึงจะประชุมเสร็จ เมื่อเห็นสองคนอยู่ข้างนอก เขาอดที่จะตกใจไม่ได้

จิ้นเฟิงเฉินพาทั้งสองเข้ามาในห้อง ก่อนจะถามอย่างเหนื่อยล้า “พ่อแม่ มาที่นี่ทำไมกันครับ

เมื่อได้ยินเช่นนี้แม่จิ้นก็วางกล่องอาหารกลางวันในมือลง และพูดอย่างเป็นห่วง “เฟิงเฉินอา แม่เห็นตอนเช้าลูกยังไม่ได้กินอะไร กลัวจะลืมกินข้าว ดังนั้นก็เลยมานี่เพื่อส่งข้าวให้ลูกกิน”

หลังจากคลึงหน้าผากที่ปวดของเขาเสร็จ จิ้นเฟิงเฉินจึงพูด “แม่ ล่างตึกก็มีร้านอาหารของพนักงานนะครับ ผมไปกินที่นั่นได้”

แม้ว่าเขาจะพูดเช่นนั้น แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะปรากฏตัวที่นั่นทุกครั้งไป

เจ้านายที่หล่อเหลาเช่นเขา ไม่ว่าพนักงานหญิงคนใดก็ล้วนต้องการชื่นชม

รู้จักลูกชายดีที่สุดก็คือแม่ แม่จิ้นเข้าใจจิ้นเฟิงเฉิน รู้ว่าเขาไม่ไปอย่างแน่นอน ยิ่งเร่งเร้า “แม่เพิ่งทำเสร็จเลย ลูกกินตอนร้อนๆเถอะ”

พูดจบ กู้เนี่ยนก็เปิดประตูเข้ามา นำกำหนดการเดินทางในมือมาส่งให้จิ้นเฟิงเฉิน

“ประธานจิ้นครับ ตอนเย็นมีงานเลี้ยง คุณโฟร์เริงต์เชิญมาครับ ครั้งก่อนเขาชวนท่านไปร่วมงานประมูล แต่ท่านไม่ไป งานนี้คงไม่ไปไม่ได้แล้วนะครับ”

เพราะกลัวว่าจิ้นเฟิงเฉินจะไม่เห็นด้วย กู้เนี่ยนจึงรีบอธิบายเหตุผล

เมื่อสังเกตเห็นพ่อจิ้นและแม่จิ้นที่อยู่ข้างๆ กู้เนี่ยนจึงพยักหน้าทำความเคารพ

มองไปยังกำหนดการ จิ้นเฟิงเฉินพ่นประโยคออกมาเบาๆ “ไม่สนใจ”

เมื่อเห็นเขาปฏิเสธ กู้เนี่ยนจึงรีบพูดขึ้นมา “ท่านประธาน ผมไปสืบมาครับว่าคุณหญิงจะเข้าร่วมงานนี้ด้วย เพราะมันเป็นการนัดรวมตัวกันทางธุรกิจ ดังนั้น… …”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!