ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 655

สรุปบท บทที่ 655 ใช่ ผมกำลังข่มขู่เธออยู่: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

สรุปตอน บทที่ 655 ใช่ ผมกำลังข่มขู่เธออยู่ – จากเรื่อง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

ตอน บทที่ 655 ใช่ ผมกำลังข่มขู่เธออยู่ ของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์เรื่องดัง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 655 ใช่ ผมกำลังข่มขู่เธออยู่

ตลอดทั้งคืน ทั้งสองไม่ได้เอ่ยเรื่องนี้อีกแม้ว่าจะนอนอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกันแต่กลับต่างคนต่างคิด

เจียงสื้อสื้อเข้านอนค่อนข้างเร็ว แต่กลับนอนไม่หลับ เบิกตากว้างกระทั่งเที่ยงคืน

ฝู้จิงเหวินก็นอนไม่หลับเช่นเดียวกัน เขานั้นคิดค่อนข้างเยอะ

จะแย่งเจียงสื้อสื้อมาได้อย่างไร และจะไล่จิ้นเฟิงเฉินไปได้อย่างไร ความคิดของเขาสับสนวุ่นวายไปหมด

สุดท้ายเขาก็นึกถึงเถียนเถียน เด็กน้อยนั้นกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนวิธีการเรียก

พอเห็นจิ้นเฟิงเฉินก็อบเรียกเขาว่าแดดดี๊ พูดอย่างไรก็ไม่ยอมเปลี่ยน

ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้กลับรู้สึกไม่สบอารมณ์

เป็นแบบนี้ทั้งคืน และฟ้าก็สว่าง

ฝู้จิงเหวินนอนและลงมาทานอาหารเช้ากับเจียงสื้อสื้อและบอกกับเธอว่ามีธุระจะออกไปข้างนอก และเขาก็ขับรถออกไป

ระหว่างทางเขาโทรหาจิ้นเฟิงเฉิน

“พวกเรามาเจอกันหน่อยเถอะ”

จิ้นเฟิงเฉินรีบรับคำอย่างรวดเร็ว เพราะไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็ต้องคุยกันเรื่องนี้

แต่ว่าในเมื่อฝู้จิงเหวินมาหาเขาในเวลานี้ แสดงว่างานแต่งงานของเขาเกิดปัญหาขึ้นแล้ว จิ้นเฟิงเฉินเผยแววตาอันโชติช่วงออกมา

ขณะเดินทางฝู้จิงเหวินก็ได้คิดไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะพูดอย่างไร เขามั่นใจว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามจะต้องพูดโน้มน้าวจิ้นเฟิงเฉินได้แน่

เขาไม่ยอมปล่อยเจียงสื้อสื้อไปแน่ จิ้นเฟิงเฉินน่าจะรู้ดีว่า ตอนนี้พวกเขาถึงจะเหมาะสมกันที่สุด

เมื่อคิดถึงจุดนี้ สีหน้าของฝู้จิงเหวินก็อ่อนโยนลง

หลังจากที่ทั้งสองคนได้เจอกัน ฝู้จิงเหวินก็พูดขึ้นอย่างตรงไปตรงมาว่า“ประธานจิ้น คุณน่าจะทราบดีนะครับว่าผมมาหาคุณด้วยเรื่องอะไร สื้อสื้อรับปากแล้วว่าจะแต่งงานกับผม ผมหวังว่าคุณจะปล่อยเธอไป”

ราวกับได้ยินเรื่องตลก จิ้นเฟิงเฉิน ริมฝีปากเผยขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยว แววตาไม่มีรอยยิ้ม

“ปล่อยไปยังไง?”

ฝู้จิงเหวินถามคำหยุดคำ“แน่นอนว่าต้องหย่ากับเธอ และปล่อยให้เธอเป็นอิสระ”

จิ้นเฟิงเฉินถามกลับว่า“สื้อสื้อให้คุณมาพูดกับผมเหรอ?”

“……เป็นความประสงค์ของเราทั้งสองคน”

ฝู้จิงเหวินพูดขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้

ตั้งแต่แรกเริ่มเจียงสื้อสื้อไม่เคยคิดที่จะพูดคุยเรื่องนี้กับจิ้นเฟิงเฉิน เพียงแต่บอกเขาว่าพวกเราไม่สามารถแต่งงานกันได้

แม้ว่าปากเขาจะไม่พูดออกมา แต่ในใจของเขาก็รู้สึกรังเกียจ

เมื่อเห็นเขาลังเล จิ้นเฟิงเฉินเม้มปากยิ้มพลางพูดขึ้นว่า“น่าจะเป็นความประสงค์ของคุณฝ่ายเดียวมากกว่า ผมเดาว่าสื้อสื้อน่าจะพูดเรื่องทะเบียนสมรสกับคุณ แล้วบอกคุณว่า ให้ยกเลิกงานแต่งงานใช่ไหมล่ะครับ?”

เมื่อทุกอย่างถูกเปิดเผย สีหน้าของฝู้จิงเหวินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย“แม้ว่าจะเป็นแบบนั้นก็เพราะว่าคุณบีบบังคับเพราะยังไงก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าคุณกับสื้อสื้อก็แค่เป็นคนแปลกหน้า”

“คุณชายฝู้ ผมขอเตือนคุณนะว่า ตอนนี้คุณใช้โอกาสที่สื้อสื้อความจำเสื่อมและบังคับเธอแต่งงานกับคุณ เธอไม่ได้รักคุณเลยแม้แต่น้อย”

จิ้นเฟิงเฉินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ฝู้จิงเหวินกำหมัดแน่นแล้วเงยหน้าขึ้นมา

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับสูญเสียความทรงจำ หากไม่ได้เป็นเพราะเธออยู่กับคุณแล้วไม่มีความสุข แล้วทำไมเธอถึงจำช่วงเวลานั้นไม่ได้ล่ะ?ประธานจิ้นคุณตื่นเถอะ ตอนนี้คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะบงการชีวิตของเธออีกต่อไปแล้ว”

ทั้งสองต่างทับถมบาดแผลของกันและกัน ไม่มีใครยอมใคร

เรื่องที่เขาเป็นคนทำให้เจียงสื้อสื้อหายตัวไป ยังคงเป็นเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจของจิ้นเฟิงเฉิน

หลายปีมานี้เขายากที่จะให้อภัยตัวเอง ฝู้จิงเหวินราวกับสาดน้ำเกลือลงบนบาดแผลของเขา

จิ้นเฟิงเฉินรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดในใจ สีหน้าของเขาราบเรียบ ทำเพียงพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า“เรื่องระหว่างผมกับ สื้อสื้อคุณไม่ต้องมายุ่ง

การที่เธอแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกับผมแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกดีๆที่พวกเรามีต่อกัน คุณไม่ยอมปล่อยเธอไปเพราะความปรารถนาของคุณเพียงฝ่ายเดียว สุดท้ายแล้วคุณก็จะไม่เหลืออะไรเลย”

ฝีปากของประธานจิ้นไม่เป็นสองรองใคร แม้ว่าเขาจะพูดน้อยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่พูด

สายตาของฝู้จิงเหวินเผยความโกรธออกมา “หากคุณปรารถนาดีต่อเธอจริงๆ คุณควรที่จะรู้ว่าการที่เธอแต่งงานกับผมในตอนนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด คุณสามารถให้เธอได้มากกว่าคุณ”

เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ตกอยู่ในสถานะเป็นฝ่ายถูกกระทำ

“ถุย!”

ยากนักที่ฝู้จิงเหวินจะสบถออกมา

ตอนนี้ความผิดพลาดได้เกิดขึ้นมาแล้ว เขาทำได้เพียงคิดหาวิธีอื่น

เมื่อฝู้จิงเหวินเหยียบคันเร่ง รถก็พุ่งออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

งานแต่งงานก็ล่าช้าลงเพราะเหตุนี้

ฝู้จิงเหวินและเจียงสื้อสื้อทั้งสอง รู้อยู่แก่ใจโดยไม่ต้องอธิบาย จึงไม่ได้เอ่ยเรื่องแต่งงานขึ้นอีก

แต่สิ่งต่างๆที่ต้องเตรียมกลับไม่ได้หยุดลง

สถานที่ ของตกแต่ง รวมไปถึงการ์ดเชิญก็เร่งทำเดินการ ทำให้คนรู้สึกว่างานแต่งงานใกล้เข้ามาแล้ว

ในใจของเจียงสื้อสื้อรู้สึกไม่สบายใจ จึงพูดปัญหานี้กับฝู้จิงเหวิน

ความหมายของเธอก็คือในเมื่อไม่สามารถแต่งงานได้แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสูญเสียเงินและแรงกายเช่นนี้

สีหน้าของฝู้จิงเหวินไม่สู้ดีนัก เขาพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า“ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น ผมจะหาวิธีให้จิ้นเฟิงเฉินยอมหย่าให้ได้”

แต่ในความเป็นจริงแล้วเขายังไม่มีวิธีการใดๆเลย คนอย่างจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ขาดแคลนอะไร และก็ไม่ได้มีจุดอ่อนอะไร หากจะให้เขายอมปล่อยมือนั้นยากมาก

สิ่งเหล่านี้เจียงสื้อสื้อก็ทราบเป็นอย่างดี ในช่วงเวลานี้ที่เธอได้สัมผัสกับจิ้นเฟิงเฉิน ก็พอที่จะรู้ว่าผู้ชายคนนั้นดื้อรั้น

หากเขาไม่ต้องการที่จะปล่อยมือ ก็อย่าหวังเลยว่าใครจะบังคับเขาได้ นอกเสียจากว่าเขาจะเต็มใจเอง

ฝู้จิงเหวินโอบไหล่ของเธอพลางพูดขึ้นว่า“สื้อสื้อ คุณรับปากผมแล้ว คุณจะไม่กลับคำใช่ไหม?”

น้ำเสียงเคร่งเครียดและสั่นเครือเล็กน้อย

เจียงสื้อสื้อจนปัญญาและเธอก็ไม่อยากที่จะตอบคำถามนี้

แต่ฝู้จิงเหวินกลับรอคอยอย่างดื้อรั้น เธอไม่มีทางเลือกอื่นทำได้แค่พูดพึมพำว่า“พวกเราเลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ตอนนี้พวกเราคงยังแต่งงานกันไม่ได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!