บทที่699 ใครเป็นคนช่วยเธอ
ด้วยความหวังอันริบหรี่ป๋ายหลี่พูดกับตัวเองราวกับว่าเขากำลังปลอบใจตัวเอง “จื่อเฟิงฉลาดมาก เธอไม่มีทางถูกจับได้”
แน่นอนว่าจื่อเฟิงฉลาด ไม่อย่างนั้นก่อนหน้านี้ไม่มีทางได้รับคำชมจากจิ้นเฟิงเฉินหรอก
กู้เนี่ยนยกมุมปากแล้วดับฝันของเขาแทบจะไร้ความปรานีแล้วพูดขึ้น “ใช่ไง ฉลาดก็ฉลาด เพียงแต่ว่า ชีวิตนี้ถูกทำลายไปแล้ว ทำลายจนหมดสิ้นแล้ว ตลอดชีวิตนี้ไม่มีทางจะลืมตาอ้าปาก หากวันไหนไม่ระวังถูกคุณชายจับตัวได้ จบไม่สวยแน่”
“ไม่ต้องพูดแล้ว!” จู่ ๆ ป๋ายหลี่ตะโกนขึ้นด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่มือขวาที่ได้รับบาดเจ็บ
กู้เนี่ยนลุกขึ้นและช่วยเขาดูแผล
ทนเห็นผ้าพันแผลที่พันไว้ลวกๆ ไม่ได้จริงๆ เขาฉีกผ้าปูที่นอนแล้วผูกมันแล้วพันรอบคอเขาและพูดอย่างเย็นชา “ชายดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ”
ในเวลานี้ป๋ายหลี่เหมือนถูกจับขึ้นมาจากน้ำโดยมีเหงื่อออกทั่วใบหน้าและลำคอ
มีกลิ่นเหม็นออกมาจากตัวเขาเล็กน้อย ทำให้กู้เนี่ยนไม่ค่อยอยากจะเข้าไปใกล้เขาเท่าใดนัก
“ขอบคุณมาก” ป๋ายหลี่กระตุกมุมปาก
กู้เนี่ยนส่งเสียงออกมาอย่างเย็นชาและอดไม่ได้ที่จะพูด “นายเป็นแบบนี้แย่แน่ แขนที่ได้รับบาดเจ็บถ้าไม่ได้หาหมอช้าเร็วมันต้องเน่าแน่”
“แขนข้างเดียวก็พอแล้ว” ป๋ายหลี่พูดอย่างเฉยเมย
เมื่อเห็นเขาเช่นนี้กู้เนี่ยนก็เชื่อเช่นกัน
สภาพแวดล้อมที่นี่หดหู่เกินไปและป๋ายหลี่ก็ดื้อรั้นกู้เนี่ยนก็หมดหนทางจริงๆ
เขาจงใจดึงป๋ายหลี่ออกมาจากนรก แต่ตอนนี้ป๋ายหลี่เต็มใจที่จะตกลงไปและกู้เนี่ยนก็ไม่ไหวที่จะดูแลมันอีกต่อไป
พี่น้องเพื่อนสนิทกลายเป็นแบบนี้ ในใจของกู้เนี่ยนเองก็รู้สึกไม่ดี เขาลุกขึ้นและเตรียมจะไป
“กู้เนี่ยน” ทันใดนั้นป๋ายหลี่ก็เรียกเขาไว้
กู้เนี่ยนหยุดเดินแต่ไม่หันกลับมา “มีอะไร”
แต่ผ่านไปนานก็ยังไม่มีเสียงตอบรับจากป๋ายหลี่และกู้เนี่ยนก็ไม่เร่งรัด
ทั้งสองคนหนึ่งยืนอีกคนหนึ่งนอน อากาศไหลอย่างเงียบงัน
ผ่านไปครู่หนึ่ง ป๋ายหลี่ยังคงถามเสียงแหบพร่า “คุณชายส่งคนออกไปเท่าไหร่?”
ประโยคนี้ดูเหมือนจะหลุดออกมาจากลำคอของเขา
“ยามมืดทั้งหมดรวมถึงหัวหน้าเห้อซูหาน”
เสียงของกู้เนี่ยนเงียบลงและกลับได้ยินเสียงป๋ายหลี่หน้าซีดลงทันใด
เห้อซูหานก็เข้ามาร่วมภารกิจนี้ด้วย...
งั้นจื่อเฟิงคงต้องหวังพึ่งบุญที่ทำมาแล้ว
หลังจากกู่เนี่ยนจากไป ในห้องมีเพียงป๋ายหลี่เพียงคนเดียว บรรยากาศเงียบจนน่ากลัว
แต่ป๋ายหลี่กลับไม่สามารถทำจิตใจให้สงบได้เลย แม้แต่ความเจ็บปวดที่แขนของเขาก็ไม่สามารถเบนความสนใจไปได้
เพื่อที่จะจับจื่อเฟิงคุณชายได้ใล้ยามมืดทั้งหมด
ในสถานการณ์ปกติแล้ว จิ้นเฟิงเฉินส่งยามมืดออกไปเพียงแค่หนึ่งถึงสองกลุ่มเพื่อไปทำภารกิจเพียงเท่านั้น
ครั้งนี้พอจะเห็นได้แล้วว่าเขาเล่นใหญ่แค่ไหน
ในใจป๋ายหลี่หมดหวังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ได้แต่ภาวนาว่าจื่อเฟิงฉลาดพอ อย่าโดนจับได้
โรงพยาบาล
เจียงสื้อสื้อฟื้นขึ้นมาหลังเที่ยง
มีเพียงแสงสีขาวส่องเข้ามาในตา เธอไม่ค่อยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จึงมองอย่างมึนงง
ผ่านไปครู่หนึ่งจึงกะพริบตาแล้วเรียกคืนสติ
ถึงได้รู้ว่าที่นี่คือโรงพยาบาล
มีเสียงของเครื่องมือทางการแพทย์ข้างหูและสมองของเจียงสื้อสื้อก็เริ่มทำงานโดยคิดถึงสิ่งต่างๆ มากมาย
เธอคิดว่าเธอคงจะตายไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจะยังสามารถได้เห็นแสงแดดสดใสเช่นนี้อีกซึ่งเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ
แต่ว่าตอนนั้นใครเป็นคนช่วยเธอไว้?
ในระหว่างที่เธอกำลังสงสัย เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์กลุ่มหนึ่งก็รีบเข้ามา
สิ่งแรกที่ทำคือทำการตรวจร่างกายเจียงสื้อสื้อเต็มรูปแบบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!