บทที่ 703 ลอบสังหาร
แต่ตอนที่จิ้นเฟิงเหราโทรหาจิ้นเฟิงเฉิน ฝั่งโน้นล้วนเป็นสภาพที่สายไม่ว่างมาโดยตลอด
เป็นเช่นนี้มา ก็ทำให้คนของตระกูลจิ้นกลุ้มใจแย่แล้ว
ฝากข้อความด่วนหลายข้อความให้กับจิ้นเฟิงเฉิน จิ้นเฟิงเหราก็เลยย่ำเท้าอยู่ในห้องนอนมาโดยตลอด ร้อนรนไม่สงบเหลือเกิน
เซิ่นมู่ป๋ายเห็นสภาพ ตบไหล่ของจิ้นเฟิงเหราตบแล้วตบอีก คลายความกังวลพูดว่า “อาการของเสี่ยวเป่าในครั้งนี้ยังแย่กว่าครั้งที่แล้วอีกเล็กน้อย เพราะว่าครั้งนี้ก็เกิดเรื่องเหล่านี้อยู่ต่อหน้าเขา ดีที่สุดยังคงต้องให้คนที่ก่อให้เขาเกิดการปรุงแต่งในใจออกมา นั่นก็คือมารดาของเขา เรื่องจึงได้จัดการง่ายหน่อย”
ที่ไหนจิ้นเฟิงเหราจะไม่อยากทำอย่างนี้ แต่ตอนนี้เรื่องยังมีช่องทางที่ยังเหลือเอากลับคืนได้อยู่ที่ไหนล่ะ
พอดี ในเวลานี้มือถือของจิ้นเฟิงเหราดังขึ้น เป็นกู้เนี่ยนโทรมา
เนื่องเพราะว่ายามมืดฝั่งโน้นส่งข่าวจื่อเฟิงมา จิ้นเฟิงเฉินก็เลยรีบไปประเทศอังกฤษในคืนนั้น
ส่งมือถือให้กับกู้เนี่ยน ให้เขาจำเป็นจะต้องทำให้สภาพการณ์ของบริษัทมั่นคงก่อน
ตอนที่กู้เนี่ยนเห็นข้อความของจิ้นเฟิงเหรา โทรกลับมาทันที
แต่ว่าในใจจิ้นเฟิงเหรากลับเกิดความสงสัยงงงวย ทำไมจึงเป็นกู้เนี่ยนล่ะ?
หรือว่าพี่ชายเขาเกิดเรื่องแล้ว?
ไม่กล้าคิดเรื่องราวไปทางที่ไม่ดีกว่านี้อีก จิ้นเฟิงเหราขมวดคิ้วถามว่า “มีเรื่องอะไรหรือ?”
“คุณชายรอง ประเทศฝรั่งเศสฝั่งนี้เกิดเรื่องเล็กๆเล็กน้อย ก็คือคุณหญิงโดนคนจู่โจมแล้ว ดังนั้นคุณชายยังต้องผ่านไประยะหนึ่งจึงสามารถกลับไป พวกคุณอย่าได้เป็นห่วง”
คำพูดของกู้เนี่ยนระเบิดดังขึ้นข้างหูของหลายคน อะไรเรียกว่าโดนจู่โจมหรือ?
หรือว่าเจียงสื้อสื้อถูกลักพาตัวแล้วหรือ?
แม่จิ้นแย่งมือถือมาทันที ร้อนใจถามว่า “งั้นเธอเป็นอะไรหรือเปล่า?”
อาการของเสี่ยวเป่าในปัจจุบันนี้ยังต้องการเจียงสื้อสื้อมาจัดการ ถ้าหากว่าเธอเกิดเรื่องอะไรจริงๆแล้ว งั้นเสี่ยวเป่าจะทำยังไงดีล่ะ?
แม้ว่าความคิดของแม่จิ้นจะมีความเห็นแก่ตัวเล็กน้อย แต่ว่าแม่จิ้นก็ไม่สามารถสนใจมากขนาดนี้แล้ว
เธอเพียงได้แต่หวังว่าเสี่ยวเป่าจะสามารถเหมือนดั่งเด็กทั่วไป
หลังจากได้ยินเสียงแม่จิ้น เสียงเบาๆของกู้เนี่ยนดังขึ้นว่า “นายหญิง บอกความจริงกับท่านล่ะ คุณหญิงถูกจื่อเฟิงลักพาตัวไป แต่ตอนนี้จื่อเฟิงหนีไปแล้ว คุณชายทุ่มสุดแรงตามล่าอยู่ ถ้าจะกลับประเทศละก็ยังต้องใช้ระยะเวลาหนึ่ง เรื่องของภายในกรู๊ปตอนนี้ล้วนมอบอยู่ในมือของผมทั้งหมด”
คิดไม่ถึงคือจื่อเฟิง!
จิ้นเฟิงเหราได้ยินคำพูดตกตะลึงเหลือเกิน ก่อนหน้านั้นเขาก็รู้สึกว่าจื่อเฟิงคนนี้มีความผิดปกติเล็กน้อย
มักจะแอบแข่งขันกับเจียงสื้อสื้อ นึกไม่ถึงครั้งนี้เธอจะทำเรื่องลักพาตัวออกมาได้
พี่ชายเขานี่น่าจะเทียบได้ว่าเลี้ยงไอ้คนเนรคุณตัวหนึ่งอยู่ข้างกายแล้วล่ะ
ยังคงเป็นคนที่คุ้นเคยที่สุด ยิ่งจะเอามีดแทงเข้าไปในจุดที่เจ็บที่สุดจริงๆ
หันหน้ากลับไปมองเห็นแม่จิ้นสีหน้าซีดขาวยืนอยู่กับที่ จิ้นเฟิงเหราทำให้แม่จิ้นได้สงบหน่อย
จากนั้นรับโทรศัพท์กลับมาพูดว่า “ได้ ผมรู้แล้ว เรื่องของบริษัท ถ้าหากมีข้อสงสัยอะไร มาติดต่อสื่อสารกับผมโดยตรงก็ได้แล้ว”
พูดจบ จิ้นเฟิงเหราก็วางสายเลย
คราวนี้เรื่องกลายเป็นจัดการยากเล็กน้อยแล้ว
พี่ชายเขาไม่อยู่ เจียงสื้อสื้อยังเกิดเรื่องอีก ดูแล้วอาการของเสี่ยวเป่าคงยังต้องรอไปสักพักแล้ว
เซิ่นมู่ป๋ายมองความคิดของจิ้นเฟิงเหราออก ปลอบโยนเขาพูดว่า “ไม่เป็นไรล่ะ สองวันนี้ผมจะมาบ้านบ่อยๆ พวกคุณเพียงแค่อย่ากระทบกระเทือนกับเขาก็พอ ที่เหลือก็ให้ผมมาจัดการ”
“ขอบคุณแล้ว มู่ป๋าย” จิ้นเฟิงเหราพูดอย่างซาบซึ้งใจ
พูดจบ เซิ่นมู่ป๋ายตบไปยังจิ้นเฟิงเหราหนึ่งทีโดยตรง หยอกล้อพูดว่า “พวกเราทั้งสามเติบโตด้วยกันตั้งแต่เด็ก พูดอะไรขอบคุณไม่ขอบคุณล่ะ เอาล่ะ ในห้องให้คำปรึกษาของผมยังมีเรื่องเล็กน้อย ไปก่อนแล้ว จำไว้ว่ามีสภาพการณ์อะไรให้โทรหาผม”
หลังจากส่งเซิ่นมู่ป๋ายแล้ว ส้งหวั่นชีงเดินลงมาจากข้างบน
จิ้นเฟิงเหรารีบขึ้นไปรับ ร้อนใจถามว่า “เสี่ยวเป่าตอนนี้เป็นยังไงแล้วล่ะ?”
ส้งหวั่นชีงได้ยินคำพูด ส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก “ยังคงไม่ดีมาก นั่งเหม่อลอยอยู่หน้าหน้าต่างโดยตลอด ไม่ว่าฉันพูดกับเขาอะไรล้วนไม่สนใจ เห็นแบบนี้คงเป็นเพียงแค่พี่สะใภ้จึงจะสามารถพูดคุยกับเขาแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!