ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 758

สรุปบท บทที่ 758 พาคุณไปพบคนคนหนึ่ง: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

สรุปเนื้อหา บทที่ 758 พาคุณไปพบคนคนหนึ่ง – ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

บท บทที่ 758 พาคุณไปพบคนคนหนึ่ง ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ในหมวดนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 758 พาคุณไปพบคนคนหนึ่ง

แต่ว่า ทุกคนในที่ประชุมล้วนเป็นคนฉลาด รู้ว่าฝู้จิงเหวินอารมณ์เสียเพราะอะไร

เรื่องงานอะไรเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ที่สำคัญคือวันนี้เจียงสื้อสื้อไม่มา

“ยอดขายโรงกลั่นเหล้าของเราในเดือนนี้ ต่ำกว่าเดือนที่แล้ว 3% เต็มๆ เดือนหน้า ผมต้องเห็นยอด ถ้าทำไม่ได้ พวกคุณทุกคนม้วนเสื่อกลับบ้านไป”

พูดจบ ฝู้จิงเหวินก็หยิบเอกสารตรงหน้าโยนลงกลางโต๊ะ ออร่ามืดมนไร้ผู้เปรียบ

ตอนนี้โรงกลั่นเหล้าของฝู้ซื่อกรุ๊ปยุติความร่วมมือกับJSกรุ๊ปแล้ว ออเดอร์ก็น้อยลงครึ่งหนึ่งเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

ฝู้ซื่อกรุ๊ปไม่ได้เจิดจรัสเหมือนเมื่อก่อน ถ้าเทียบกันแล้ว ธุรกิจของJSกรุ๊ปจะดีกว่าของฝู้ซื่อกรุ๊ปมาก

นี่ก็คือสาเหตุที่ทำไมฝู้จิงเหวินถึงโมโห

ตอนแรกเขาคิดว่า หลังจากผ่านเรื่องไวน์แดง JSกรุ๊ปจะอยู่ใต้เขา แต่สถานการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้เลย

เมื่อเวลาผ่านไปอีกยี่สิบนาที การประชุมที่น่าเบื่อก็สิ้นสุดลง ฝู้จิงเหวินก้าวเดินอย่างเร่งรีบ ออกจากห้องไปด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร เหลือไว้แต่กลุ่มพนักงานที่เหลือก็พาซุบซิบนินทากันลับหลัง

“วันนี้ท่านประธานฝู้อารมณ์เสียขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนยกก้อนหินทุบขาตัวเองเหรอ ถ้าให้ฉันพูดนะ ไม่ควรจะแยกความสัมพันธ์กับJSกรุ๊ปตั้งแต่แรก ไม่ว่าอย่างไงชื่อเสียงของ JSกรุ๊ปก็แกร่งกว่าโรงกลั่นเหล้าของเราไม่น้อย ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป พวกเราไม่มีทางพัฒนาแน่นอน”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ อีกคนหนึ่งก็พูดต่อทันที “พวกเธอยังไม่รู้ไหม ว่าประธานเจียงของเรากับประธานJSกรุ๊ปมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ”

เมื่อทุกคนได้ยินต่างก็รู้สึกสนใจ คนคนนั้นเหลียวมองดูข้างหลังแล้วกล่าว “ตอนนั้น………”

อีกด้านหนึ่ง ร่างกายเจียงสื้อสื้อเกือบฟื้นตัวดีแล้ว ดูมีชีวิตชีวากว่าแต่ก่อนเล็กน้อย

หลังจากที่นอนกลางวันแล้ว เถียนเถียนก็กวนเธออยู่ตลอดเวลา

“หม่ามี๊ เราไม่ได้ไปหาแดดี๊มานานแล้ว หนูคิดถึงพี่เสี่ยวเป่า”

เมื่อได้ยินคำพูดของเถียนเถียน นัยน์ตาเจียงสื้อสื้อก็หมองลงเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม เธอไม่อยากให้เถียนเถียนผิดหวัง ได้แต่เกลี้ยกล่อมเธอว่า “เถียนเถียนเป็นเด็กดี ตอนนี้พี่เสี่ยวเป่ายังเรียนอยู่ เราจะไปรบกวนเขาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะกระทบต่อผลการเรียนของพี่ได้”

ทุกครั้งที่เธอพูดแบบนี้ เถียนเถียนก็จะเชื่อฟัง

แต่คราวนี้เถียนเถียนกลับวิ่งไปเอาปฏิทินมาแล้วพูดว่า “หม่ามี๊ดู วันนี้วันที่7แล้ว พี่ชายบอกว่าหลังวันที่ 7ก็จะปิดเทอมแล้ว ท่านเองต่างหากที่ไม่อยากพาหนูไปเจอพี่ชาย”

หนูน้อยพูดไปพร้อมกับหันหลังกลับด้วยความโกรธ โดยไม่สนใจเจียงสื้อสื้ออีก

มองดูท่าทางโกรธของเธอแล้วเจียงสื้อสื้อก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

หนูน้อยคนนี้ไหวพริบดีจริงๆ รู้จักจำวันที่ด้วย

หลังจากตั้งแต่วันที่ถูกแม่ฝู้เรียกลับบ้านแล้ว เธอก็ขาดการติดต่อกับทางจิ้นเฟิงเฉินไปจริงๆ

ตอนที่เธอกำลังคิดอยู่ว่าจะหาข้ออ้างอะไรมาเกลี้ยกล่อมเถียนเถียนอยู่นั้น เสียงเรียกเข้ามือถือก็ดังขึ้นจนดับความคิดเธอไป

จิ้นเฟิงเฉินโทรมา

ในใจเจียงสื้อสื้อตื่นเต้นเล็กน้อย เขาโทรมาเวลานี้มีเรื่องอะไรหรือ

หลังจากเก็บอาการแล้ว เจียงสื้อสื้อก็รับสายขึ้นมา “มีอะไรหรือ”

หลังจากได้ยินเสียงเธอ จิ้นเฟิงเฉินพูดพร้อมรอยยิ้ม “สื้อสื้อ ผมใกล้จะถึงตระกูลฝู้แล้ว วันนี้ผมจะพาคุณไปพบคนคนหนึ่ง คุณกับเถียนเถียนเก็บข้าวของเสร็จแล้วก็ลงมาเลยนะ”

ได้ยินเช่นนั้น เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะแปลกใจเล็กน้อย เขายังดีๆอยู่ทำไมถึง……….

หนูน้อยที่อยู่ข้างๆได้ยินเสียงจิ้นเฟิงเฉิน รีบแย่งโทรศัพท์ไป พูดเสียงออดอ้อน “แด๊ดดี้ มารับเถียนเถียนเร็วๆ หม่ามี๊โกหก ”

ทันทีที่เธอพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็เอาโทรศัพท์กลับมา พูดด้วยความเกรงใจ “เถียนเถียนพูดมั่ว คุณไม่ต้องไปใส่ใจ คุณจะพาฉันไปพบคนคนหนึ่ง ใครหรือ”

“เดี๋ยวคุณก็รู้เอง”จิ้นเฟิงเฉินลับลมคมในเล็กน้อย

จากนั้นก็วางสายไปทันที

ฝั่งตรงข้ามวางสายไปแล้ว เจียงสื้อสื้อกลับรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาจะพาตัวเองไปพบใครกันแน่

ไม่ว่าอย่างไร เธอก็รีรอให้เสียเวลา ลงจากที่นอนล้างทำความสะอาดและมัดผมให้หนูน้อยทันที

เป็นความรู้สึกที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน

เมื่อผู้หญิงเห็นเจียงสื้อสื้อเข้าประตูมา น้ำตาก็ร่วงหล่นลงมาจากหางตาของเธอ

ในสายตาเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความคาดหวังและความดีใจ

ถูกอารมณ์ของเธอกระทบจนเจียงสื้อสื้อก็รู้สึกน้ำเหลวอุ่นๆไหลจากขอบตาตัวเองโดยไม่รู้ตัว

จิ้นเฟิงเฉินพาเจียงสื้อสื้อมาถึงตรงหน้าผู้หญิง พูดอย่างอ่อนโยน “แม่ ผมได้พาสื้อสื้อมาหาท่านแล้ว”

เมื่อหญิงวัยกลางคนได้ยินเช่นนั้น พยักหน้าอย่างตื่นเต้น จับเจียงสื้อสื้อด้วยสองมือที่สั่นเทา

ผู้หญิงที่กุมมือเจียงสื้อสื้ออยู่ตอนนี้ก็คือ ฟางเสว่มั่น

เมื่อสามปีก่อน หลังจากที่เกิดเรื่องกับเจียงสื้อสื้อ ฟางเสว่มั่นได้รับผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจอย่างหนัก

ร่างกายที่เกือบจะฟื้นฟูเต็มร้อยแล้ว ก็กลับกลายเป็นสภาพเก่าภายในชั่วค่ำคืน

อย่างไรก็ตาม รอบนี้เธอกลับไม่ได้หมดสติไป แต่ระบบการทำงานของร่างกายแย่ลงมาก

เพื่อสุขภาพร่างกายของเธอ จิ้นเฟิงเฉินจึงส่งเธอไปทำการรักษาตัวที่สวิตเซอร์แลนด์

พอดีได้ยินมาว่าเจียงสื้อสื้อยังมีชีวิตอยู่ เธอถึงขอร้องให้จิ้นเฟิงเฉินรับเธอมา

วันนี้เห็นลูกสาวตัวเองตัวเป็นๆยืนอยู่ข้างหน้า เป็นธรรมดาที่จะดีใจจนร้องไห้

มองดูใบหน้าค่อนข้างซูบผอมของเจียงสื้อสื้อแล้ว ฟางเสว่มั่นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย จับแก้มเธอไว้ และพูดเสียงสั่นเครือ “กลับมาแล้ว ในทุกสุดก็กลับมาแล้ว………”

แต่การเผชิญกับความตื่นเต้นของฟางเซว่มั่น เจียงสื้อสื้อกลับคิดอะไรไม่ออก

เธอจำหญิงตรงหน้าคนนี้ไม่ได้ และก็ไม่รู้ว่าหญิงคนนี้เป็นใคร

มีแต่ความรู้สึกอบอุ่นแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!