บทที่ 781 แทบรอไม่ไหวจะหนีไปไกลๆผม?
เจียงสื้อสื้อเดินตามเขามาอยู่ข้างๆและแอบมองดูท่าทางของเขา เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป
จิ้นเฟิงเฉินคล้ายกับมีบางสิ่งปิดบังไว้
หลังจากขึ้นรถ จิ้นเฟิงเฉินได้เอี้ยวตัวเข้ามารัดเข็มขัดนิรภัยให้กับเธอตามปกติ
เจียงสื้อสื้อดึงชายเสื้อของเขาเพื่อรั้งเขาเอาไว้
วินาทีที่ถูกดึง จิ้นเฟิงเฉินได้ใช้สายตาอันประหลาดใจมองมาทางเจียงสื้อสื้อ “ครับ?”
ไออุ่นจากร่างกายของเขาเฉียดผ่านแก้มของเธอ
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ? ดูเหมือนไม่ค่อยมีความสุขเลย” เจียงสื้อสื้อมองไปทางจิ้นเฟิงเฉินด้วยความกังวล
จิ้นเฟิงเฉินชะงักลงเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้า “ไม่มีจริงๆเหรอคะ?”
เจียงสื้อสื้อยังไม่อยากเชื่อเขาสักเท่าไหร่ จึงได้มองลึกเข้าไปในดวงตา
เมื่อจิ้นเฟิงเฉินมองเห็นเจียงสื้อสื้อที่เข้ามากระชั้นชิด หัวใจเขาก็สั่นไหว ความรู้สึกถึงการกลัวที่จะสูญเสียเธอถาโถมเข้ามาทันใด
“ผมเป็นห่วงคุณ”
ริมฝีปากเรียวบางของจิ้นเฟิงเฉินขยับขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงแหบแห้งดังขึ้นข้างหูของเจียงสื้อสื้อ
ตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินทำตัวเหมือนกับเด็กๆ ความกลัวและกังวลใจถูกส่งผ่านออกมาทางสายตา
เจียงสื้อสื้อรู้สึกถึงน้ำตาที่คลอเบ้า และเอื้อมมือไปโอบจิ้นเฟิงเฉินเอาไว้ “ไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันไม่เป็นไรแน่ๆ!”
เธอพูดประโยคที่เหมือนกับจิ้นเฟิงเฉินคอยปลอบโยนเธอเสมอมานับครั้งไม่ถ้วน
ดูเหมือนเธอกำลังปลอบใจเขา และก็กำลังปลอบใจตัวเองด้วย
มือของเธอวางพาดลงบนบ่าของจิ้นเฟิงเฉินแล้วตบลงเบาๆ เป็นการเพิ่มพลังให้กับเขา
วินาทีต่อมา จิ้นเฟิงเฉินก็โอบเธอเข้าไปไว้ในอ้อมกอด
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากอารมณ์ของเขา ตอนนี้เจียงสื้อสื้อเองก็รู้สึกถึงความขมขื่น
หลังจากโอบกันอยู่สักพัก จิ้นเฟิงเฉินก็ดึงเธอเข้ามากอดแล้วพูดด้วยความตั้งใจ “สื้อสื้อ ผมจะไม่ให้คุณเป็นอะไรไปเด็ดขาด”
เมื่อได้ยินดังนั้น เจียงสื้อสื้อก็พยักหน้า
หลังจากนั้นจิ้นเฟิงเฉินก็ทำการติดเครื่องรถยนต์และตรงกลับไปยังคฤหาสน์ตระกูลจิ้น
จิ้นเฟิงเฉินยังคงเป็นห่วงเรื่องสุขภาพร่างกายของเจียงสื้อสื้อ หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพักในที่สุดเขาก็พูดออกมาว่า “สื้อสื้อ คุณจะยอมออกจากงานไหม แล้วอยู่พักผ่อนที่บ้านไปสักพัก?”
เจียงสื้อสื้อตกตะลึงทันที
เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะลาออกจากงาน
เนื่องจากอาการไม่ค่อยออก ปกติแล้วเธอจึงไม่ได้นึกถึงโรคร้ายที่อยู่ในร่างกาย
แต่ช่วงนี้ร่างกายของเธอดูเหนื่อยล้ากว่าเดิมมาก
หลังจากนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ เจียงสื้อสื้อก็ได้พยักหน้าเป็นการเห็นด้วย
เธอเองไม่ได้ยึดติดอยู่กับการงานเท่าไหร่ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแบกร่างกายอันอ่อนล้าไปทำงาน กลับทำให้คนอื่นกังวลเปล่าๆ
เมื่อพบว่าเธอเห็นด้วย ในที่สุดจิ้นเฟิงเฉินก็วางใจลง
ณไร่องุ่นฝู้ซื่อ
“ท่านประธานฝู้ ฉันอยากจะขอลาออกจากงานที่ทำตอนนี้ค่ะ” เจียงสื้อสื้อนั่งอยู่ตรงข้ามกับฝู้จิงเหวิน กำลังอธิบายถึงความต้องการของเธอ
ฝู้จิงเหวินกำเอกสารในเมืองเอาไว้ แต่ใบหน้าของเขายังคงยิ้มแย้ม ตาดำทั้งสองข้างมองดูเจียงสื้อสื้อด้วยความ สงสัย
“ลาออกเหรอครับ? ทำไมกัน?”
เธอไม่อยากพูดออกมาตรงๆว่าสุขภาพร่างกายของเธอมีปัญหา เนื่องจากจิ้นเฟิงเฉินได้กำชับมาไว้ก่อนแล้ว
เจียงสื้อสื้อตอบกลับอย่างคลุมเครือว่า “ฉันแค่รู้สึกเหนื่อย อยากจะพักผ่อนสักพักค่ะ”
ฝู้จิงเหวินกระวนกระวายขึ้นมาทันใดแล้วพูดว่า “เป็นความสะเพร่าของผมเอง! ผมจะเปลี่ยนแผนกให้คุณนะครับ”
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เธอเป็นผู้จัดการของแผนกการวางแผนของโรงกลั่นไวน์แต่เพียงคนเดียว ฝู้จิงเหวินก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!