บทที่ 787 ห้ามลวนลามฉันอีก
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาลงมองแล้วหันหลังเดินจากไป
จิ้นเฟิงเหราแอบยิ้มอยู่ในใจ พี่ชายของเขาก็ไม่ใช่ว่าจะต่อกรยากสักเท่าไหร่
เหอะๆดูสิ เพียงแค่ยกพี่สะใภ้ออกมาพูดเขาก็ไม่มีวิธีจัดการแล้ว
เขานี่มันช่างฉลาดล้ำเลิศเสียจริง
ใครจะไปรู้กันแล้วว่าจิ้นเฟิงเหราดีใจได้ยังไม่ถึงสองนาที จิ้นเฟิงเฉินก็เข้ามาอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้นโยนเอกสารไว้ข้างกายของเขามากมายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “นอนไม่หลับใช่ไหม? กระปรี้กระเปร่ามากใช่หรือเปล่า? ดี! คืนนี้จัดการเอกสารพวกนี้ให้เสร็จนะ”
จิ้นเฟิงเหราทำท่าทางงุนงงราวกับคนเสียสติ และเมื่อมองไปทางกองเอกสารเหล่านั้นเขาก็พูดอย่างประหลาดใจว่า “พี่ครับ ที่ไม่ได้เข้าใจอะไรผิดไปใช่ไหม......”
เอกสารมากมายเหล่านี้จะทำหมดในหนึ่งคืนได้ยังไงกัน!
เพียงแต่ว่าพี่ชายของเขาไม่สนใจคำพูดของเขาเลย ปรับก้มตัวลงไปอุ้มเจียงสื้อสื้อแล้วเดินจากไป
“พี่ครับพี่จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!”
จิ้นเฟิงเหราพยายามดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ แต่คำตอบที่เขาได้รับก็คือร่างอันเยือกเย็นของจิ้นเฟิงเฉินที่เดินจากไป
ในตอนนี้น้ำตาของเขาแทบจะไหลลงมาเต็มหน้า ทำไมถึงทำแบบนี้กันล่ะ เขาเป็นพี่ชายแท้ๆจริงหรือเปล่า!
เจียงสื้อสื้อที่ถูกอุ้มขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวก็ตกใจเสียส่งเสียงออกมา มือทั้งสองข้างของเธอโอบกอดคอของจิ้นเฟิงเฉินไว้โดยสัญชาตญาณ
แววตาของจิ้นเฟิงเฉินนั้นปรากฏรอยยิ้มขึ้น
“ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ผมไม่ให้คุณตกลงไปแน่”
เจียงสื้อสื้อยังไม่ได้สติกลับคืนมา เธอทั้งอายและโมโหจึงพยายามที่จะดิ้นลงไป
“คุณปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะคะ!”
เธอตกตะลึงมองไปรอบๆ กลัวว่าใครจะมาเห็นเข้า
ที่ตระกูลจิ้นนี้มีคนอาศัยอยู่หลายคน ไม่เพียงแต่สมาชิกในตระกูลจิ้นยังมีคนรับใช้อีกมากมาย
ถ้าพวกเขาเห็นถ้าเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
แต่มือของจิ้นเฟิงเฉินกลับกอดเธอแน่นขึ้น นำร่างกายของเธอเอามาไว้ในอ้อมแขนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า
“อย่าขยับครับ ไม่อย่างนั้นบางทีมือผมอาจจะลื่นได้......”
แต่เจียงสื้อสื้อกลับไม่สนใจเขา เธอเขินอายหน้าร้อนผ่าวเเสียจนแทบไม่แล้ว แต่ก็ยังพยายามคงดิ้นรนที่จะหนีจากอ้อมอกเขา
เมื่อมือของจิ้นเฟิงเฉินปล่อยออกเล็กน้อย เจียงสื้อสื้อก็ร้องออกมาและมือเมื่อสักครู่กลับโอบคอเขาแน่นขึ้น
หลังจากที่รู้สึกได้ว่าจิ้นเฟิงเฉินแกล้งเธอ ก็ทุบไปที่หลังของเขาอยู่หลายทีเพื่อเป็นการระบายอารมณ์
ทำไมคนคนนี้ถึงได้น่าหมั่นไส้อย่างนี้กัน ก่อนหน้านี้ดูเขาสงบนิ่งดี แต่นิสัยใจจริงช่างเหมือนเด็กเหลือเกิน
เรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอนั้นสำหรับจิ้นเฟิงเฉินแล้วไม่ได้รู้สึกเจ็บเลย คล้ายกับกำลังลูบคลำเขา จึงไม่ได้นำมาใส่ใจ
ตรงกันข้าม กรงเล็บที่กำลังขีดข่วนอยู่นี้เหมือนกับแมวตัวน้อยน่ารักเสียเหลือเกิน
มันทำให้เขาอยากจะกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนและบดขยี้
เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้าลึกๆอยู่สองครั้ง เธอกำลังพยายามทำให้อารมณ์คงที่และชี้แจงเหตุผลกับจิ้นเฟิงเฉินว่า “คุณปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะคะ ฉันจะไปนอนกับเด็กๆ”
ฝีเท้าของจิ้นเฟิงเฉินหยุดลง “คุณจะไปนอนที่ไหน? เสี่ยวเป่าโตขนาดนี้แล้วไม่จำเป็นต้องไปนอนเป็นเพื่อน”
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปนอนกับเถียนเถียน” เจียงสื้อสื้อพูดออกมาอย่างไม่เต็มใจ
“เถียนเถียนก็หลับแล้วเธอไม่ต้องการคุณหรอก”
จิ้นเฟิงเฉินพยายามปิดกั้นทุกวิถีทางของเธออย่างไร้ความปรานี
เมื่อเด็กๆทั้งสองคนนอนหลับสนิทไปแล้วเขาจะยอมปล่อยเธอไปได้อย่างไร
ขณะที่เขากำลังพูดจิ้นเฟิงเฉินก็ก้าวขาออกไปเปิดประตูห้องและเดินเข้าไปด้านใน เขาวางเจียงสื้อสื้อลงบนเตียงด้วยท่าทางการเคลื่อนไหวอย่างอ่อนโยน
แต่เขายังไม่ได้ลุกขึ้นโดยทันที ยังคงเอนกายลงมาตามเดิมและวางเจียงสื้อสื้อไว้ด้านล่างตัวเขา
ระยะห่างระหว่างสองคนใกล้ชิดกันมากจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกันอย่างชัดเจน
ดวงตาอันแหลมคมของจิ้นเฟิงเฉินมองไปยังใบหน้าของเจียงสื้อสื้อ แววตาอันลึกล้ำและมืดมิดของเขาทั้งอันตรายและลึกลับ ทำให้เดาใจไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เจียงสื้อสื้อลุกลี้ลุกลน เธอวางมือของตัวเองลงบนหน้าอกจิ้นเฟิงเฉินแล้วพูดด้วยเสียงสั่นว่า “เอ่อ ฉัน ฉันจะกลับห้อง คุณลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะ......”
ฝ่ามืออันหนาแน่นของจิ้นเฟิงเฉินจับนิ้วมือของเจียงสื้อสื้อเอาไว้ แล้วมองเข้าไปในดวงตาเธอ
“คุณกลัวอะไรเหรอครับ? ผมไม่กินคุณลงไปสักหน่อย หืม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!