บทที่ 788 ต้องอ้างงานมาแก้แค้นด้วยเหรอ?
เช้าวันต่อมาเมื่อเจียงสื้อสื้อตื่นขึ้นก็พบว่าไม่มีใครอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินตื่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่
เธอลุกขึ้นนั่งและทบทวนเรื่องเมื่อคืนจนทำให้หน้าแดง
เดิมที่เธอคิดว่าจะนอนไม่หลับเสียแล้ว คาดไม่ถึงว่าเมื่อคืนเธอนอนหลับสนิทไม่มีแม้แต่ความฝันจนกระทั่งรุ่งเช้า
เมื่อไม่เห็นจิ้นเฟิงเฉินอยู่ข้างๆเธอเองก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
หลังจากล้างหน้าแปรงฟันแล้วเธอก็เดินลงไปด้านล่างเพื่อเตรียมรับประทานอาหารเช้า
“พี่สะใภ้คะ”
ส้งหวั่นชีงทักทายเธอ และเชิญชวนให้เธอนั่งลงข้างๆด้วยความยินดี
เจียงสื้อสื้อยิ้มตอบ และมองดูท่าทางของส้งหวั่นชีงที่รับประทานอาหารเช้าอย่างเอร็ดอร่อย เธอจึงได้ถามขึ้นว่า “ไม่มีอาการแพ้ท้องบ้างเหรอ กินได้ทุกอย่างเลยหรือไง?”
ส้งหวั่นชีงยักไหล่แล้วพูดว่า “นั่นสิคะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรช่วงนี้รู้สึกว่ากินไม่เคยอิ่มเลย พี่สะใภ้คะตอนที่พี่ท้อง เถียนเถียนเป็นแบบนี้หรือเปล่า?”
แต่เมื่อเธอถามออกมาแล้วจึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป
ตอนนี้เจียงสื้อสื้อลืมเรื่องก่อนหน้าไปหมดแล้ว
ส้งหวั่นชีงจึงรีบพูดขึ้นว่า “ขอโทษนะคะพี่สะใภ้ฉันลืมอีกแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอก”
เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมาอย่างไม่ได้ใส่ใจ หลังจากรุ่นคิดแล้วเธอก็บอกว่า “ฉันพอจะจำได้ว่าตอนที่ท้องเถียนเถียนดูเหมือนจะกินอะไรไม่ได้เลย แต่ละวันอยากกินแต่ของแปลกๆ”
ความทรงจำในเวลานั้นคือหลังจากที่เธอได้รับการช่วยเหลือจากฝู้จิงเหวิน และอาการแพ้ท้องของเธอก็รุนแรงมากเช่นกัน
จิ้นเฟิงเฉินกลับเข้ามาหลังจากวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า เขาบังเอิญได้ยินประโยคนี้เข้า จึงทำให้ปวดใจมาก
เขาเดินตรงเข้ามากุมมือของเจียงสื้อสื้อเอาไว้แล้วพูดอย่างหนักแน่นว่า “ต่อจากนี้จะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะอยู่เคียงข้างคุณ”
เขาพูดต่อหน้าทุกคนแบบนี้ทำให้เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะอายจนหน้าแดง เธอชักมือกลับแล้วพูดอย่างกระสับกระส่ายว่า “ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ มันผ่านมาแล้ว”
ในตอนนั้นเอง จิ้นเฟิงเหราเดินทำท่าหาวออกมาจากห้อง ดวงตาของดำคล้ำเหมือนหมีแพนด้า
เขาเดินโซเซไปมา มองไปกลัวว่าเขาจะล้มลงเหลือเกิน
เขานั่งลงที่ห้องรับแขกจากนั้นแล้วเอื้อมมือไปหยิบหมอนเข้ามากอดซุกหน้าลงไป
แววตาของจิ้นเฟิงเหราเหลือบไปทางพี่ชายของเขาด้วยความโมโหและอาฆาตแค้น
พ่อจิ้นรู้ว่าลูกชายคนรองของเขาค่อนข้างจะเอาแต่ใจตัวเองจึงได้เอ่ยถามอย่างเคร่งครัดว่า “เฟิงเหรา เมื่อคืนไปทำอะไรมาทำไมถึงง่วงแบบนี้?”
แม่จิ้นก็พูดเสริมขึ้นมาว่า “นั่นน่ะสิเฟิงเหรา อย่าไปเลียนแบบคนหนุ่มสาวที่นอนเล่นเกมจนดึกดื่นไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย”
จิ้นเฟิงเหรามองไปยังทางพี่ชายของเขาด้วยท่าทางเศร้าสร้อย เขาก็อยากจะนอนหรอกนะแต่พี่ชายของเขากับใช้ไม้นั้น จะให้เขานอนได้อย่างไร
เอกสารมากมายเมื่อคืนนี้ เขาพยายามฝืนอยู่จนกระทั่งรุ่งเช้าจึงจะอ่านมันเสร็จ
ในที่สุดก็เลยเวลานอนมาจนได้ จึงทำให้เขานอนไม่หลับ
อีกอย่าง ส้งหวั่นชีงก็ไม่อยู่ข้างกายทำให้ยิ่งแย่ลงกว่าเดิม
จิ้นเฟิงเฉินนั่งสงบนิ่งไม่ไหวติง เขาไม่ได้สนใจกับความอาฆาตแค้นของน้องชายที่มองออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว
สำหรับเรื่องจัดการน้องชายคนนี้เขาไม่เคยยอมให้อยู่แล้ว
น้องชายไม่ฟังคำสั่งสอน กล้าเข้ามาขัดจังหวะของพี่ชายจะให้เขาทำอย่างไรล่ะ?
คงต้องให้บทเรียนเท่านั้นเอง
ด้านของส้งหวั่นชีงก็พูดขึ้นด้วยความห่วงใยว่า “นั่นสิคะ คุณพ่อคุณแม่พูดถูก คุณไปทำอะไรมาทำไมไม่หลับไม่นอน? ดูขอบตาคุณเข้าสิ ดำจนแทบจะเหมือนหมีแพนด้าอยู่แล้ว”
“อะไรนะ?!”
ผู้ชายที่หลงตัวเองอย่างคุณชายรองจิ้นทำท่าทางตกใจ และรีบเรียกให้คนรับใช้นำกระจกมาให้เขา
เนื่องจากในวันนี้เขาลุกขึ้นมาอย่างค่อนข้างรีบร้อนยังไม่ทันได้ไปส่องกระจก
หนุ่มหล่ออย่างคุณชายรองจิ้นผู้ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มาก จะไม่มีวันยอมให้ภาพลักษณ์ของเขาล่มสลายลงอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!