ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 832

สรุปบท บทที่ 832 ไม่ใช่การปล้นฉึ่งๆหน้าหรือ: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

สรุปตอน บทที่ 832 ไม่ใช่การปล้นฉึ่งๆหน้าหรือ – จากเรื่อง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

ตอน บทที่ 832 ไม่ใช่การปล้นฉึ่งๆหน้าหรือ ของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์เรื่องดัง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 832 ไม่ใช่การปล้นฉึ่งๆหน้าหรือ

“เมื่อกี้คุณทำพนักงานของฉันเจ็บหลายคน คนพวกนี้ล้วนเป็นคนที่ฉันใช้เงินจำนวนมากจ้างมาก เมื่อได้รับบาดเจ็บแล้วก็ต้องมีคนรับผิดชอบ ที่จริงถ้าเมื่อกี้นี้หากคุณไปแล้ว ฉันยอมขาดทุน แต่ในเมื่อคุณมีใจจะอยู่ต่อ คิดว่าคงมีใจอยากขอโทษกับเรื่องที่ทำไป ใช่ไหม ”

จิ้นเฟิงเฉินเผยอยิ้ม ไม่รอเบอร์เกนต่อคำ เขายกมือขึ้นทำท่าตัวเลขอย่างช้าๆ “ดังนั้น ชดใช้ต่อคนเท่านี้นะ คุณเบอร์เกนฐานะร่ำรวย ตัวเลขนี้ คิดว่าคงไม่อยู่ในสายตา”

เมื่อเบอร์เกนเห็นตัวเลขที่เขาทำมือมา ทันใดนั้นสีหน้าซีดลง ไม่คิดว่าจิ้นเฟิงเฉินจะมาไม้นี้กับเขา

เขากัดฟันด้วยความเกลียดชัง ลุกขึ้นจากโซฟากะทันหัน วางมาดต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เปิดเผยหน้ากัน “ผมได้ทำร้ายคนของคุณแล้วอย่างไง ชดใช้หรือ หรือว่าบริษัทประธานจิ้นหมุนเงินไม่ทัน จึงต้องรีดไถเงินจากผมไปสักก้อน ”

เจิ้นเฟิงเฉินยิ้มอย่างเย็นชา เหลือบมองดูมือถือ พูดน้ำเสียงเรียบๆว่า “บวกกับเวลาที่คุณเข้ามาห้านาทียี่สิบสี่วินาที ทำให้งานของผมล่าช้า เห็นแก่ที่เรารู้จักกันมาหลายปี ฉันลบวินาทีไป แค่ห้านาทีก็พอ หนึ่งล้านยูโร คุ้มมาก”

เบอร์เกนโกรธจนสำลัก ชี้หน้าจิ้นเฟิงเฉิน อ้ำอึ้งอยู่หลายวินาที

จิ้นเฟิงเฉินราวกับมองไม่เห็น บนใบหน้าไม่มีแม้แต่อาการใดๆ พูดเสียงเข้ม “ กู้เนี่ยน ส่งแขก ”

“ครับ คุณชาย”

กู้เนี่ยนสีหน้าอมยิ้ม ยืดอกผายมือ พูดกับเบอร์เกนว่า “คุณเบอร์เกน ไม่ทราบว่าจะจ่ายเป็นเช็คหรือเงินสดครับ”

……

เบอร์เกนตกตะลึงไปเลย ในตาเต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อ

นี่ไม่ใช่การปล้นกันแบบซึ่งหน้าหรอกหรือ

“จิ้นเฟิงเฉิน คุณ คุณ………”

เบอร์เกนโกรธจนหอบ พูดตะกุกตะกัก………..

จิ้นเฟิงเฉินประสานนิ้วมือทั้งสิบไว้ กระตุกยิ้มเย็นชา “ทำไม ไม่มีปัญญาจ่ายหรือ งั้นเราแจ้งตำรวจจัดการเป็นไง ฉันคิดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะให้ความสนใจสิ่งที่คุณเบอร์เกนทำอย่างมาก ”

จิ้นเฟิงเฉินดันเอกสารตรงหน้าออก แล้วเอนกายพิงพนักเก้าอี้ จ้องมองเขาอย่างมีความหมาย

เบอร์เกนเองก็เป็นคนฉลาด ฟังความหมายในคำพูดของจิ้นเฟิงเฉินออกอยู่แล้ว

นี่เป็นการข่มขู่เขา

เขาอดไม่ได้ที่จะบึ้งตึง จ้องมองจิ้นเฟิงเฉินอย่างเขม่น ในตาเต็มไปด้วยความกดขี่

โดยทั่วไปแล้ว วิธีการจ้องมองคนมุมมองแบบนี้ สร้างความกดดันทางจิตใจให้กับคนได้ง่ายสุด

แต่กับคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

นั่นคือจิ้นเฟิงเฉิน

ถึงแม้จะเป็นการนั่ง ออร่าของจิ้นเฟิงเฉินก็ทรงพลังจนทำให้คนกลัว

ทันใดนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็ยิ้มเยาะ สองขาไขว้หากัน กล่าวอย่างสบายๆ “ คุณเบอร์เกนผู้มีทรัพทย์สินนับไม่ถ้วน ได้ขี้เหนียวขั้นนี้ ดูแล้ว พวกเราหาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคุยกันดีกว่า”

“คุณ………….”

จิ้นเฟิงเฉินไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดเลย เลิกคิ้วเล็กน้อย พูดอย่างช้าๆ“คุณว่า คุณตำรวจเขาจะตรวจสอบเจออะไรบางอย่างที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ออกมาหมดหรือไม่ ”

สีหน้าเบอร์เกนซีดลงทันที

แต่ว่า ไม่นาน เขาก็หัวเราะเยาะ แกล้งทำเหมือนฟังความหมายในคำพูดของจิ้นเฟิงเฉินไม่ออก “งั้นก็หาตำรวจเลย ผมแค่ทำร้ายคนไม่กี่คนก็เท่านั้นเอง จะตรวจสอบเจออะไรได้ ”

เห็นเขาเป็นเช่นนี้ จิ้นเฟิงเฉินสีหน้าไม่เปลี่ยน พยักหน้าอย่างครุ่นคิด “ทำร้ายคนเพียงไม่กี่คนหรือ ดูแล้ว คุณเบอร์เกนมั่นใจว่า ตำรวจจะตรวจไม่เจอสิ่งที่อยู่ในสถาบันวิจัยของคุณหรือ ”

น้ำเสียงหยุดไปชั่วคราว แล้วกล่าวอย่างไม่เร่งไม่รีบ “อย่างเช่น เชื้อไวรัส ”

เมื่อได้ยินสองคำสุดท้าย เบอร์เกนยืดตัวตรงทันที ม่านตาหดตัว สายตาอย่างกับแมงป่องมีพิษนั้นจ้องไปที่จิ้นเฟิงเฉิน

จิ้นเฟิงเฉินสบตาเขา สีหน้าดูเรียบ ราวกับว่าเมื่อกี้แค่พูดล้อเล่นเฉยๆ

อากาศในห้องทำงานเหมือนจะแข็งตัวเช่นนั้น

มุมปากกู้เนี่ยนเผยอยิ้มน้อยๆ ในตาเต็มไปด้วยความหมายที่ไม่ชัดเจน

ผ่านไปเนิ่นนาน เบอร์เกนค่อยๆผ่อนคลายลง หยีตาจ้องมองจิ้นเฟิงเฉิน แล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

กัดฟันพูดทิ้งท้ายประโยคนี้ แล้วก็จากไป

บนใบหน้าจิ้นเฟิงเฉินไม่แสดงอาการอื่นใด หยิบเอกสารบนโต๊ะอย่างสงบ แล้วดูอย่างจริงจัง

กู้เนี่ยนที่ถือเช็คไว้“………….. ”

ตอนนี้ในใจเขาสับสนมาก ใครสามารถบอกเขาได้ว่า เมื่อกี้นี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

เขารู้สึกว่า เขาใกล้จะตามความคิดของคุณชายในบ้านไม่ทันแล้ว

“คุณชาย ”ในที่สุดกู้เนี่ยนก็อดไม่ได้ มีความไม่เข้าใจเล็กน้อยจึงถามว่า “ปล่อยเบอร์เกนไปแบบนี้หรือ”

“ ไม่อย่างนั้น แกคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ”จิ้นเฟิงเฉินเหลือบตามองเขาแล้วกล่าวเรียบๆ

กู้เนี่ยนนำเช็คในมือวางลงบนโต๊ะ สีหน้าสับสน ยิ่งน้ำเสียง ยากจะอธิบาย

“หรือว่าเขาตั้งใจ………….นำเงินมาให้พวกเราหรือ”

นี่มันกุมารแจกเงินอะไรเนี่ย

ตอนที่บุกเข้ามาบริษัทด้วยท่าทางดุเดือด เหมือนกับนกยูงหยิ่งผยอง เขายังคิดว่าเบอร์เกนจะทำการเคลื่อนไหวใหญ่อะไร

ใครจะคาดคิดว่า แค่คำพูดสองสามคำของจิ้นเฟิงเฉิน ก็ยกมือยอมจำนน แล้วยังเขียนเช็คไว้หนึ่งใบเช่นนี้

แต่ว่า เงินแค่นี้ ย่อมไม่อยู่ในสายตาของคุณชายของพวกเขาอยู่แล้ว

ริมฝีปากบอบบางของจิ้นเฟิงเฉินซึมซาบไปด้วยความเย็นชา กระตุกยิ้มที่มุมปาก “แน่นอนว่า เขาไม่ได้มาเพื่อนำเงินมาให้ แต่ว่าเขามีแผนชั่วอยู่ในใจก็เท่านั้นเอง”

เมื่อบอกเท่านี้ กู้เนี่ยนก็รู้ได้ทันที “คุณชาย ท่านว่า ที่บริษัทเกิดปัญหาคราวนี้ เป็นไปได้ไหมว่าจะเกี่ยวกับเบอร์เกน”

คนคนนั้นช่างกะล่อนปลิ้นปล้อนนัก อำนาจก็ยิ่งใหญ่ รากจะขดกิ่งก้านพันกัน การจะลงมือบ้างเล็กน้อย ไม่มีอะไรง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว

จิ้นเฟิงเฉินเหลือบตามองเขา กล่าวอย่างใจเย็นว่า“ไม่ใช่ปัญหาที่เป็นไปได้ แต่มีความเกี่ยวข้องกับเขาอย่างแน่นอน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!