สรุปตอน บทที่ 833 มาดูเรื่องตลก – จากเรื่อง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว
ตอน บทที่ 833 มาดูเรื่องตลก ของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์เรื่องดัง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 833 มาดูเรื่องตลก
“ที่เขามาวันนี้………”
“มาดูเรื่องตลก” จิ้นเฟิงเฉินดูเย็นชา
เมื่อได้ยินเช่นนั้นกู้เนี่ยนก็เข้าใจทันที
เห็นได้ชัดว่าเบอร์เกนคนนี้ยกก้อนหินทุบขาตัวเองชัดๆ
กู้เนี่ยนดึงสติกลับมา แล้วถาม “คุณชาย ตอนนี้พวกเราควรจะทำอย่างไร”
เบอร์เกนหยิ่งผยองเช่นนี้ กดขี่มาถึงบนหัวแล้ว ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้
สีหน้าจิ้นเฟิงเฉินไม่เปลี่ยน กล่าวอย่างเรียบๆ “ ยังไม่ต้องรีบลงมือก่อน ”
กู้เนี่ยนติดตามอยู่ข้างกายจิ้นเฟิงเฉินมาหลายปี แต่ก็ยังตามความคิดของเขาไม่ค่อยจะทัน
ตามความคิดของกู้เนี่ยน หน้าแบบนี้ก็ควรจะตบกลับไปในตอนนั้น ให้เบอร์เกนได้สัมผัสกับความรู้สึกหัวแหวกหน้าแหวกสักครั้ง
อย่างกับรู้ความคิดของกู้เนี่ยน จิ้นเฟิงเฉินกล่าวอย่างเย็นชา “บริษัทสูญเสียมากมายเช่นนี้ ย่อมต้องเอาคืนอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ หากเราลงมือตอนนี้ เบอร์เกนจะต้องถือโอกาสเล่นเกมอีกครั้ง สถานการณ์บริษัทจะแย่ลงไปอีก ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือรักษาเสถียรภาพสถานการณ์บริษัท อย่างอื่นระงับไว้ก่อนชั่วคราว”
“ครับ”กู้เนี่ยนพยักหน้า แล้วหันหลังเดินออกไป
เมื่อกู้เนี่ยนเดินไปถึงประตูห้องทำงาน จิ้นเฟิงเฉินเรียกเขาไว้ “แจ้งผู้บริหารระดับสูง อีกห้านาที ประชุมที่ห้องประชุม”
หลังกู้เนี่ยนรับคำ ก็รีบออกไปแจ้งเพื่อทราบทันที
จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ใบหน้าที่สมบูรณ์ราวกับใช้มีดแกะสลักขึ้นมา ช่างเยือกเย็น และในแววตามีแสงเฉียดคมวาดผ่าน
เบอร์เกนชอบเล่นอย่างนี้ ถ้าอย่างนั้น เขาก็ควรหาเวลาเล่นกับเบอร์เกนบ้าง
……
เบอร์เกนขึ้นลิฟต์ลงมาชั้นล่าง ตลอดทาง ใบหน้ามืดมนราวกับท้องฟ้าที่พายุฝนจะกระหน่ำลงมาเช่นนั้น
ผู้ช่วยวิ่งเหยาะๆตามหลังเขา
หลังจากออกจากประตูบริษัทแล้ว รถหรูคันใหญ่ก็จอดรออยู่ตรงข้างทางแล้ว
เมื่อคนขับรถเห็นเบอร์เกนออกมา รีบลงจากรถ ยกมือขึ้นอย่างเคารพยำเกรง จะเปิดประตูรถให้เบอร์เกน
ใครจะรู้ว่า กลับถูกผลักอย่างแรงกระเด็นไปอีกด้านหนึ่ง
เบอร์เกนใช้แรงดึงประตูรถออกเอง ก้มตัวนั่งเข้าไปในรถ
จากนั้น เสียง “ปัง ” กระแทกประตูรถอย่างอารมณ์เสีย
คนขับรถชำเลืองมองผู้ช่วยอย่างไร้เดียงสา
ผู้ช่วยส่งสายตาให้เขา บอกให้เขาไม่ต้องสนใจ
ตอนนี้เบอร์เกนกำลังอยู่ในอารมณ์โกรธ ใครกล้าไปกระตุกหนวดเสือในเวลานี้ ก็ได้ตายอย่างน่าอนาถอย่างแน่นอน
คนขับรถเงียบดังไก่ อ้อมไปทางท้ายรถแล้วเข้าไปนั่งในที่คนขับ
ผู้ช่วยนั่งข้างคนขับ และเอียงหัวแอบมองไปที่เบอร์เกนอย่างเงียบๆ
เห็นเพียง รูปร่างสูงใหญ่ของเบอร์เกนนั่งยุบลงไปที่เบาะหนังแท้ ใบหน้าที่หล่อเหลาไม่มีแสดงอาการใดๆ ในตาเต็มไปด้วยกลิ่นพายุฝนกระหน่ำ
เจ้านายของบ้านเพิ่งจะสูญเสียเงินไปจำนวนหนึ่ง อารมณ์ย่อมไม่ดีอยู่แล้ว
แต่ผู้ช่วยก็เข้าใจดีว่า สาเหตุแท้จริงที่ทำให้เบอร์เกนโกรธนั้น เขาตั้งใจจะไปดูเรื่องตลกของจิ้นเฟิงเฉิน สุดท้ายกลับถูกจิ้นเฟิงเฉินเห็นเป็นตัวตลก
เรื่องนี้จะทนได้อย่างไร
นึกถึงจิ้งเฟิงเฉินที่บอกเขาว่าจะแจ้งตำรวจด้วยสีหน้าเรียบๆ เบอร์เกนก็ทุบกำปั้นไปที่ประตูรถแรงๆ
เสียงอู้อี้ทำให้ ทั้งสองที่นั่งอยู่ข้างหน้าตกใจ
ผู้ช่วยมองมา แล้วถามอย่างเป็นห่วงว่า “ คุณผู้ชาย มือของท่าน ”
ข้อนิ้วเบอร์เกนเปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาชักมือกลับด้วยสีหน้าไม่แสดงอาการใดๆ แล้วกล่าวอย่างเย็นชา “ไม่เป็นไร”
ได้ยินเช่นนั้น ผู้ช่วยก็ปิดปากทันที
เบอร์เกนนั่งมองไปนอกหน้าต่างรถ ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ช่วยจึงทำได้เพียงถามอย่างระมัดระวังอีกครั้ง “งั้น……….ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ย้ายหนี”
“ย้ายอะไรย้าย ” เบอร์เกนกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด “แกคิดจริงๆหรือว่าเขามีรายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่งของเรา ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้ช่วยก็รู้สึกสับสนมาก
หรือว่าจะไม่ใช่ ถ้าไม่ใช่ ทำไมเบอร์เกนถึงถูกเขาข่มขู่ได้
“เขาโกงเราหรือ ”จู่ๆผู้ช่วยก็พูดขึ้นพร้อมกับแสงวาบเข้ามาในความคิดของเขา
เบอร์เกนจ้องมองและหัวเราะเยาะ“อย่างน้อย เขาก็ไม่รู้ว่าสถาบันวิจัยอยู่ที่ไหน”
ถึงแม้จิ้นเฟิงเฉินจะรู้ว่าพวกเขามีสถาบันวิจัย แต่ก็ไม่รู้รายละเอียดตำแหน่งที่ตั้ง
หากจิ้งเฟิงเฉินแจ้งตำรวจจริงๆ เขาก็ยังสามารถย้อนกลับมาฟ้องจิ้นเฟิงเฉินข้อหากล่าวเท็จได้
“เขาก็แค่จะเอาเรื่องนี้มาคุกคามแค่นั้นเอง คราวนี้จิ้นซื่อกรุ๊ปเสียหายหนักมาก จิ้นเฟิงเฉินไม่มีที่ระบาย แกไม่เห็น หน้าอย่างเขาภายนอกแข็งกร้าวแต่ภายในขี้ขลาดหรือ ”
เบอร์เกนเข้าใจดีว่าวันนี้ตัวเองสู้จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ เสียเปรียบเขา แต่ว่า ต่อหน้าผู้ช่วยของตัวเอง เขาจะยอมรับได้อย่างไร
ผู้ช่วยจำได้ว่า จิ้นเฟิงเฉินเหมือนจะพูดแค่สองสามคำก็ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเจ้านายพูดเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธเพื่อรนหาที่ตาย ทำได้เพียงพยักหน้า
เบอร์เกนสองขาไขว้กัน แล้วกล่าวต่อ “ยิ่งไปกว่านั้น หากเขารู้ตำแหน่งเฉพาะเจาะจงว่าอยู่ไหน ทำไมถึงทนไว้ไม่ลงมือ ต้องรู้นะว่า เชื้อไวรัสในร่างกายของภรรยาเขายังไม่ได้แก้ไข”
การวิเคราะห์นี้ค่อนข้างสมเหตุสมผล ตอนนี้ผู้ช่วยก็เห็นด้วยเล็กน้อย รู้สึกว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
หากจิ้นเฟิงเฉินหาตำแหน่งสถาบันวิจัยของพวกเขาเจอจริง สิ่งแรกที่ทำต้องไม่ใช่การไปหาตำรวจอย่างแน่นอน แต่ตัวเองต้องลงมือก่อน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จิ้นเฟิงเฉินทำในตอนนี้ทั้งหมด ล้วนเพื่อแสวงหาวิธีการรักษาเชื้อไวรัสให้กับภรรยาของเขา
“คุณผู้ชาย ท่านพูดถูก” ผู้ช่วยประจบสอพลอ
เบอร์เกนเหลือบมองเขาแล้วกล่าวเรียบๆ “ถึงจะเป็นเช่นนี้ มาตรการรักษาความปลอดภัยของสถาบันวิจัยก็ต้องเข้มแข็งขึ้น เมื่อพบปัญหา เตรียมพร้อมเคลื่อนย้ายตลอดเวลา”
ผู้ช่วยรับคำครับ แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นเริ่มติดต่อคนขึ้นมา
ส่วนเบอร์เกนพิงพนักเก้าอี้ นวดและจับหว่างคิ้วด้วยมือเดียว ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย ทำให้คนมองไม่เห็นอารมณ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!