ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 846

บทที่ 846 ผมชื่อฟางยู่เชิน

“ก่อนหน้านี้แม่ของคุณได้ทำการผ่าตัดมาหลายครั้ง และในครั้งนี้เป็นเพราะโรคเก่ากำเริบ หัวใจของเธอมีสัญญาณแสดงถึงความล้มเหลวอยู่”

แพทย์นำผลการตรวจเมื่อสักครู่หยิบออกมาแล้ววางบนโต๊ะ ใช้นิ้วชี้ไปที่จุดหนึ่ง

เจียงสื้อสื้อก้มหน้ามองดู ด้านบนเต็มไปด้วยภาษาทางการแพทย์ซึ่งเธออ่านไม่ออก

แต่คำพูดของแพทย์นั้นเธอเข้าใจดี

หัวใจล้มเหลว......

“การที่ไข้ขึ้นสูงโดยไม่ลดในครั้งนี้คาดว่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ ผมแนะนำให้นอนรอดูอาการที่โรงพยาบาลสักระยะ”

แพทย์ทำสีหน้าเคร่งขรึมก่อนจะให้คำแนะนำอย่างเป็นกลางออกไป แล้วพูดต่อว่า “เนื่องจากการที่ไข้ไม่ลดลงนี้เป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก”

เจียงสื้อสื้อหลับตาลง บัดนี้เธอรู้สึกว่าโลกกำลังหมุน

เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเดินออกมาจากห้องทำงานของแพทย์ได้อย่างไร

ตรงหน้าห้องผู้ป่วยของฟางเสว่มั่น จิ้นเฟิงเฉินโอบกอดเจียงสื้อสื้อที่ทำสีหน้าเป็นกังวลไว้อย่างแน่น “สื้อสื้อครับ ผมจะกลับบ้านไปเอาเอกสาร และทำเรื่องเข้าโรงพยาบาล”

เจียงสื้อสื้อนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะหันมาพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ค่ะ ฉันจะอยู่ที่นี่ดูแม่เอง”

“ครับ ฟังผมนะ ไม่ต้องกังวลอะไรทุกอย่างจะดีขึ้น”

จิ้นเฟิงเฉินปลอบใจเธออยู่หลายประโยคในที่สุดเขาจึงตัดสินใจเดินทางออกจากโรงพยาบาลไป

เมื่อกลับมาถึงบ้านและหยิบเอกสารเรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้บอกกับพ่อจิ้นแม่จิ้นก่อนจะเดินทางออกไป

เมื่อกลับมาถึงโรงพยาบาลอีกครั้ง และจัดการเอกสารให้แม่นอนโรงพยาบาล ก็ได้เดินถือสิ่งของที่ต้องใช้ตอนอยู่ในโรงพยาบาลที่เขาเอามาจากบ้านมายังห้องผู้ป่วย

ตอนที่เขาเดินมาถึงห้องผู้ป่วย ฟางเสว่มั่นนอนหลับตื่นขึ้นมาแล้ว

เจียงสื้อสื้อนั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยตลอดเวลา เมื่อพบว่าฟางเสว่มั่นตื่นขึ้นมาแล้ว เธอก็ขยับริมฝีปากถามขึ้นว่า “แม่คะ มีตรงไหนไม่สบายไหม ตอนเย็นอยากทานอะไรไหม?”

แม้ว่าเธอยิ้มอยู่ แต่หัวคิ้วที่ขมวดเข้าหากันไม่อาจปกปิดไว้ถึงความกังวลได้

ฟางเสว่มั่นรู้ดีว่าร่างกายของตนนั้นย่ำแย่ขนาดไหน

“สื้อสื้อไม่ต้องกังวลไปหรอก แม่ยังดีๆอยู่นี่ไง”

ฟางเสว่มั่นพลิกมือขึ้นมากุมมือของเจียงสื้อสื้อเอาไว้ แล้วปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า “แม่ยังต้องคอยดูเถียนเถียนและเสี่ยวเป่าเติบโตนะ”

ปากของเจียงสื้อสื้อขยับเล็กน้อยแต่ในที่สุดเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ทำเพียงแค่พยักหน้า

“แม่คะ...... หนูจะไปซื้อโจ๊กหมูมาให้นะ”

“อืม”

ฟางเสว่มั่นพยักหน้าช้าๆ

เมื่อเจียงสื้อสื้อหันหลังไปก็พบว่าจิ้นเฟิงเฉินกลับมาแล้ว

จิ้นเฟิงเฉินวางของลงแล้วถามไถ่ฟางเสว่มั่นอย่างเป็นห่วง ก่อนจะพาเจียงสื้อสื้อเดินออกไปจากห้องผู้ป่วย

เขากุมข้อมือของเจียงสื้อสื้อเอาไว้ แล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด “สื้อสื้อ”

เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าผู้หญิงในอ้อมกอดคนนี้กำลังตัวสั่น

เธอกำลังหวาดกลัว

ฝ่ามือของจิ้นเฟิงเฉินกุมเข้าไปที่ศีรษะด้านหลังของเธอ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดด้วยความอ่อนโยนว่า “แม่ไม่เป็นอะไรหรอก ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลไปนะครับ”

ดวงตาของเจียงสื้อสื้อเริ่มแรงขึ้นมา

เธอรู้ว่าตนนั้นไม่ต้องทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้าจิ้นเฟิงเฉินก็ได้ ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวต่อไปแล้วร้องไห้ออกมา

“เฟิงเฉินคะ ฉันกลัวจริงๆ......”

คงไม่มีใครที่กล้าเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่คนในครอบครัวมีสภาพร่างกายย่ำแย่ขนาดนี้

แม้ว่าเธอจะทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้าฟางเสว่มั่นได้ แต่ว่าในใจของเธอนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและกังวล

เธอหายไปตั้งหลายปี กว่าจะได้มาอยู่ร่วมกันกับแม่อีกครั้ง เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น......

ทั้งสองคนกอดกันอยู่ที่ระเบียงทางเดินสักพัก หลังจากรอให้เจียงสื้อสื้อระบายอารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว ทั้งสองจึงได้ไปซื้ออาหารที่ร้านใกล้ๆ

หลังรับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงทั้งสี่ทิศ

จิ้นเฟิงเฉินรับโทรศัพท์สายหนึ่งแล้วมุ่งไปยังบริษัทด้วยท่าทางรีบร้อน เพื่อจัดการธุระทางบริษัท

เจียงสื้อสื้ออยู่ดูแลฟางเสว่มั่นอยู่คนเดียวที่ห้องผู้ป่วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!