บทที่ 849 เกรงว่าจะไม่สงบนัก
ตระกูลฟางที่เมืองหลวงนั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็นตระกูลยิ่งใหญ่ พวกเขาทำการค้าเรื่องวัตถุดิบในการผลิตยาจีน
เครือข่ายการติดต่อของเขานั้นกว้างขวางมาก และความสัมพันธ์ระหว่างคนในตระกูลฟางก็ซับซ้อนเช่นกัน ถ้าจู่ๆจะให้เขาเล่าคงเล่าไม่จบ
ท้ายที่สุดแล้วจิ้นเฟิงเหราจึงได้สรุปสั้นๆว่า “พูดง่ายๆก็คือ อำนาจที่พวกเขากุมอยู่ในมือน่าจะไม่น้อยกว่าพวกเราเลย”
จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกแปลกใจ เขานิ่งเงียบไปหลายวินาทีก่อนจะเอ่ยถามว่า “ตอนนี้ตระกูลฟางสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”
จิ้นเฟิงเหราไม่เข้าใจว่าพี่ชายของเขาถามเรื่องแบบนี้ไปแล้วมีประโยชน์อะไรแต่ก็ยังตอบเขาตามต้องการ
“ช่วงนี้ดูเหมือนตระกูลฟางจะไม่ค่อยสงบสักเท่าไหร่ เนื่องจากคุณท่านฟางสุขภาพร่างกายไม่ค่อยดี สมาชิกตระกูลฟางคนอื่นๆก็พากันแย่งอำนาจ วุ่นวายมากครับ”
ไม่เหมือนกับพ่อแม่ของเขาที่มีลูกเพียง 2 คน อีกทั้งไม่มีใครอยากกุมอำนาจนี้ มีแต่แย่งกันหาเวลาอยู่กับภรรยา
เมื่อจิ้นเฟิงเฉินได้ยินดังนั้น และคิดไปถึงว่าหลังจากนี้ไม่กี่วันเจียงสื้อสื้อจะต้องเดินทางไปเขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเข้าหากัน
จิ้นเฟิงเหรามองดูเขาและถามด้วยความสงสัยว่า “พี่ครับทำไมอยู่ๆถึงมาถามเรื่องนี้ล่ะ?”
“แม่ของพี่สะใภ้แก มาจากตระกูลฟางแห่งเมืองหลวงนี่แหละ”
จิ้นเฟิงเหราชะงักลงทันที “มันบังเอิญไปหรือเปล่าครับ”
คิดไม่ถึงว่าฟางเสว่มั่นที่มองไปแล้วช่างอบอุ่นเรียบง่าย เธอจะมาจากตระกูลฟางที่วุ่นวายขนาดนี้
จิ้นเฟิงเหราที่รู้อยู่เต็มอกว่าตระกูลฟางแห่งเมืองหลวงนั้นวุ่นวายขนาดไหนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
จิ้นเฟิงเฉินมองไปทางเขาแล้วถามเบาๆว่า “ถ้าไม่มีอะไรติดขัดพี่สะใภ้แกจะต้องเดินทางกลับไปจะกูลแทนแม่”
จิ้นเฟิงเหราสัมผัสได้ว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาเขาเองก็ขมวดคิ้วทำหน้ามุ่ย ด้วยท่าทางไม่วางใจนัก ตอนนี้เขาดูเย็นชาขึ้นเล็กน้อย
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย?”
คุณท่านฟางกำลังคิดทำอะไรอยู่กันแน่?
จิ้นเฟิงเฉินเม้มริมฝีปากเข้าหากัน มือข้างหนึ่งของเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปตรงหน้าต่าง
สายตาของเขามองออกไปยังพื้นที่ที่ไกลห่าง เป็นทิศทางเดียวกับเมืองหลวง
“เฟิงเหรา”
จิ้นเฟิงเฉินนิ่งเงียบไปเนิ่นนานเลยทีเดียวก่อนจะหันหลังกลับมาทางจิ้นเฟิงเหราแล้วกำชับว่า
“ในวันนี้มีคนจากตระกูลฟางเดินทางมาบอกว่าคุณท่านฟางจะจัดงานเลี้ยงวันเกิด อีกทั้งเรื่องของแม่สื้อสื้อช่วยฉันหาให้หน่อยว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า”
หลังพูดจบเขาก็หยุดนิ่งและพูดต่ออีกว่า “ต้องไปตรวจสอบให้ชัดเจนจะให้มีอะไรบกพร่องไม่ได้เลย”
จิ้นเฟิงเหรารู้ดีว่าสำหรับพี่ชายของเขาแล้วนั้นเจียงสื้อสื้อสำคัญเพียงใด
แม้แต่เรื่องเล็กน้อยที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับพี่สะใภ้ ก็จะถูกพี่ชายของเขากุมเอาไว้แน่น
“พี่วางใจได้เลยครับผมจะตรวจสอบให้อย่างชัดเจน”
สีหน้าของจิ้นเฟิงเหราก็เคร่งขรึมลงไปเช่นกัน
ค่ำคืนนี้เจียงสื้อสื้อนอนหลับไม่สบายเท่าไหร่นัก
ในฝันของเธอเต็มไปด้วยภาพอันวุ่นวายต่างๆนานาปรากฏขึ้น
และทุกครั้งที่เธออยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสหรือต้องการดูให้ชัดเจนภาพนั้นก็จะอันตรธานหายไป
“เฟิงเฉิน!” เจียงสื้อสื้อตกใจตื่นขึ้นจากฝันและนั่งลงหายใจเหนื่อยหอบ
“สื้อสื้อ คุณฝันร้ายเหรอครับ?”
มืออันอบอุ่นของจิ้นเฟิงเฉินเชื่อมไปกุมมืออันเย็นชื่อของเจียงสื้อสื้อเอาไว้
ต่อจากนั้นก็นำเธอเข้ามาสู่อ้อมอกอันอบอุ่น
“น่าจะใช่ค่ะ แต่ฉันจำไม่ได้แล้วว่าฝันถึงอะไร เฟิงเฉินคะ ตอนนี้ฉันอยากไปหาแม่จังเลย” เจียงสื้อสื้ออยู่ในอ้อมแขนของจิ้นเฟิงเฉินและพูดออกมาอย่างเป็นกังวล
จิ้นเฟิงเฉิน สางผมที่ยุ่งเหยิงของเธอหลังจากตื่นนอนดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและทะนุถนอม “ได้ครับพวกเราอาบน้ำทานอาหารเช้าเสร็จผมจะไปกับคุณเอง”
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
เจียงสื้อสื้อยืนอยู่หน้าห้องผู้ป่วยของฟางเสว่มั่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!