“สวัสดีครับ!” ฟางอี้หมิงพยักหน้าไปทางเอโลน
เอโลนก็ทักทายเขาอย่างสุภาพ ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรต่อกันอีก เขายืนอยู่ข้างหลังพิเอร์สอย่างสุภาพ
เห็นได้ว่าเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี
“ผู้ร่วมมืออยู่ที่ไหน?”
พิเอร์สถามขึ้นอย่างรีบร้อยและมองไปรอบๆ
จิ้นเฟิงเฉินยืนเงียบและมองดูเขาอย่างสงบ
“นี่ นี่ครับ”
ฟางอี้หมิงและฟางเฉิงหันมายิ้มและนำพิเอร์สเดินมาตรงจิ้นเฟิงเฉิน
“นี่คือผู้ดูแลSAกรุ๊ปพิเอร์ส”
ฟางเฉิงแนะนำพิเอร์สขึ้นก่อน จากนั้นจึงแนะนำจิ้นเฟิงเฉินให้พิเอร์ส “นี่คือจิ้นเฟิงเฉิน เขาเป็นพ่อค้าที่จัดหาโหราเดือยไก่ให้ผม”
เหตุผลที่พูดเช่นนี้เพราะจิ้นเฟิงเฉินบอกกับฟางเฉิงไว้ล่วงหน้า
สำหรับเหตุผลที่จิ้นเฟิงเฉินให้คำอธิบายเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่รู้เพราะอะไร
แต่พวกเขารู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินเป็นคนที่พวกเขาต้องประจบประแจงเอาใจ และวิธีที่ดีที่สุดก็คือ พวกเขาควรจะทำทุกสิ่งเพื่อให้จิ้นเฟิงเฉินพอใจ
“สวัสดี”
จิ้นเฟิงเฉินยื่นมือออกมาอย่างสุภาพ แม้จะพูดน้อย แต่เขาก็ยังมีกลิ่นอายของความเป็นหัวหน้า
“สวัสดี”
พิเอร์สยิ้มและจับมือเขา ก่อนจ้องมองไปที่จิ้นเฟิงเฉิน
เห็นได้ว่าความประทับใจครั้งแรกของเขาที่มีต่อจิ้นเฟิงเฉินค่อนข้างดี
“เข้าไปคุยกันข้างในเถอะครับ”
ทั้งสองฝ่ายทักทายกัน และฟางเฉิงก็พาพวกเขาไปยังห้องที่จองไว้
ร้านอาหารนี้ฟางเฉิงและฟางอี้หมิง เป็นคนจัดหา ซึ่งเป็นร้านจัดเลี้ยงระดับไฮเอนด์ และอาหารก็รสชาติอร่อยทั้งสี กลิ่นหอม และรสชาติ
เห็นได้ว่าทั้งพ่อและลูกทุ่มเทเวลาให้กับโครงการนี้มาก
หลังจากที่ทั้งสี่คนนั่งลงแล้ว พวกเขายังคงสนทนากันต่อ
ไม่มีใครพูดถึงโครงการขึ้นมาก่อน แม้จะเป็นเพราะความร่วมมือ แต่ก็ต้องมีกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป
ฟางเฉิงยิ้มและถามขึ้นว่า “คุณพิเอร์สมาที่ประเทศของเราบ่อยไหม?”
เพราะเมื่อกี้ พิเอร์สพูดภาษาจีนได้คล่องแคล่วมาก
“ก็ไม่ เราใช้เวลาส่วนใหญ่ในอิตาลี เราจะไปต่างประเทศก็ต่อเมื่อเจรจาทางธุรกิจเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือ”
พิเอร์สกางมือออกอย่างรู้สึกเบื่อหน่าย
......
คำพูดของพวกเขาเป็นเพียงแค่การทักทายเบื้องต้น จิ้นเฟิงเฉินจึงไม่ได้ตอบการสนทนา เขานั่งเงียบ พยายามหาเบาะแสจากการสนทนาแต่ละครั้งของพิเอร์ส
หลังจากนั้นฟางอี้หมิงก็ขยิบตาให้ฟางเฉิงเพื่อสื้อให้เขารินไวน์
ฟางอี้หมิง รินไวน์เสร็จก็ยกแก้วขึ้นมา “คุณพิเอร์ส คุณเฟิง ผมขอดื่มให้คุณ ขอบคุณที่ให้โอกาสผมและพ่อของผมในการสละเวลามาหารือเกี่ยวกับความร่วมมือกับเราในวันนี้”
จิ้นเฟิงเฉินเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วยกแก้วดื่ม
พิเอร์สก็เหมือนกัน
หลังจากดื่มเหล้าเข้าไป พิเอร์สอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ไวน์นี้รสชาติดี”
นี่คือไวน์แดงที่มีมูลค่ามหาศาลในจีนและมีราคาแพง
พิเอร์สเหลือบมองที่ประตูห้อง หลังจากแน่ใจว่ามันปิดสนิทแล้ว เขาจึงถามอย่างระมัดระวังว่า “แหล่งที่มาของสินค้าปลอดภัยหรือไม่”
อย่างที่เราทราบกันดีว่าโหราเดือยไก่มีพิษ แต่ถ้าควบคุมขนาดยาให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมและใช้สำหรับการรักษาทางการแพทย์ ก็ไม่มีปัญหาใหญ่อะไร
ท่าทางของพิเอร์สค่อนข้างระมัดระวัง
สิ่งนี้ทำให้จิ้นเฟิงเฉินสงสัย
เขาพูดหยั่งเชิงว่า “แน่นอนครับ นักธุรกิจทั่วไปทำธุรกิจถูกกฎหมาย คาดว่าSAกรุ๊ปก็เหมือนกันใช่ไหม?””
ที่จริงSAกรุ๊ปไม่ใช่องค์กรที่สะอาดสักเท่าไร การที่สามารถดำเนินกิจการมาได้นานขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าเขามีทั้งถูกกฎหมายและนอกกฎหมาย
ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ควบคุมกองกำลังที่อยู่เบื้องหลัง
แววตาแห่งความไม่พอใจแวบผ่านดวงตาของพิเอร์สเมื่อพูดถึงคำว่าถูกกฎหมาย แต่มันก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น
“แน่นอนครับ”
พิเอร์สตอบแล้วพูดว่า “เอาล่ะ ผมจะให้คำตอบคุณหลังจากที่กลับไปถามผู้บังคับบัญชาของผมแล้ว”
พวกเขาเป็นนักธุรกิจด้วยกัน เรื่องการพูดอย่างอ้อมค้อมมีกับดักอะไรเหล่านี้ โดยมากมักไม่เกิดขึ้น
“ผมขอดื่มให้ทุกคนอีกแก้ว และอวยพรให้ทุกคนมีความร่วมมือที่ดีต่อกัน!”
ฟางอี้หมิงดื่มหลายต่อหลายแก้ว ส่วนฟางเฉิงดูยินดีเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากดื่มไวน์ไปพอสมควร พวกเขาก็พากันออกจากร้านอาหารและกล่าวคำอำลาที่หน้าประตู
“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับของพวกคุณ”
หลังจากพิเอร์สพูดจบ เขาก็ตรงไปยังรถโรลส์รอยซ์และรถคันนั้นก็ขับตรงออกไป
จิ้นเฟิงเฉินมองดูรถที่แล่นออกไป ดวงตาของเขาค่อยๆเต็มไปด้วยความขมขื่นเล็กน้อย
มองดูแล้วSAกรุ๊ปคงไม่ได้ธรรมดาเหมือนที่ได้รู้มา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!