ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 889

จากนั้น กู้เนี่ยนที่ติดตามจิ้นเฟิงเฉินอยู่ด้านหลังอย่างเงียบๆ ก็ได้ก้าวขึ้นรถเพื่อไปนำรถขับมา จอดหน้าจิ้นเฟิงเฉินอย่างช้าๆ

จิ้นเฟิงเฉินเอ่ยทักทายฟางเฉิงและลูกชายของเขาก่อนจะออกไป

ระหว่างทางกลับโรงแรม กู้เนี่ยนขับรถพลางมองไปที่คุณชายของเขาผ่านกระจกมองหลัง

“คุณชายครับ คิดว่าSAกรุ๊ปจะยกเลิกร่วมมือกับเราไหม?”

“ยกเลิกเหรอ? ไม่แน่”

จิ้นเฟิงเฉินดูเหมือนจะยิ้มและมองออกไปนอกหน้าต่างคิดถึงบางสิ่งอยู่

แม้ว่าพิเอร์สจะไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนในตอนนี้ แต่เมื่อสังเกตจากปฏิกิริยาของเขา เห็นได้ว่าเขาสนใจเรื่องนี้มาก

“คุณชายครับ นี่หมายความว่าอย่างไร?”

กู้เนี่ยนขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความงง

จิ้นเฟิงเฉินไม่ตอบ แต่กลับถามขึ้นมาว่า “คุณคิดว่าพิเอร์สเป็นยังไงบ้าง?”

“ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ลึกซึ้งมาก มันไม่ง่ายที่จะมองออกว่าเขาคิดอะไรอยู่”

กู้เนี่ยนตอบอย่างตรงไปตรงมา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาและจิ้นเฟิงเฉินไม่เคยปิดบังอะไรกัน

จิ้นเฟิงเฉินเอนกายลงตรงที่นั่งและนำมือขึ้นนวดขมับ พยายามจะบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะหลังจากดื่มเมื่อครู่ “คนที่สามารถรับผิดชอบตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของSAกรุ๊ปได้ เราจะมองความคิดของเขาไม่ออกแน่นอน”

กู้เนี่ยนติดตามเขามาหลายปีและมีประสบการณ์มากมาย และเขาจะไม่สงสัยในความสามารถของคุณชายของตนแน่

เพียงว่าเมื่อต้องเผชิญกับSAกรุ๊ปที่ลึกลับเช่นนี้ ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

เขาขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “แล้วคุณคิดว่าโอกาสที่เขาร่วมมือกับเรามีมากไหม?”

“น่าจะมาหาเราภายในสองสามวันนี้แหละ รอดูได้เลย”

จิ้นเฟิงเฉินหันศีรษะและมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง เขามองไปยังถนนที่มีคนพลุกพล่าน และอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสื้อสื้อและลูกอีกสองคนของเขา

เมื่อได้ยินเช่นนี้ กู้เนี่ยนก็พยักหน้า “ครับ”

หลังกลับมาถึงโรงแรม จิ้นเฟิงเฉินยังไม่ทันได้ถอดเสื้อนอกออก เขาแทบอดใจรอที่จะวิดีโอคอลหาเจียงสื้อสื้อไม่ไหว

“ที่รักครับ ทำอะไรอยู่?”

เนื่องจากดื่มไวน์เข้าไป ทำให้เสียงจิ้นเฟิงเฉินดูอืดอาด ความเร็วในการพูดของเขาก็ช้าลงเล็กน้อย

เจียงสื้อสื้อได้ยินก็รู้ทันที “คุณดื่มแอลกอฮอล์ใช่ไหมคะ?”

ฟังดูเหมือนว่าเธอกำลังตำหนิจิ้นเฟิงเฉินอยู่ แต่ใครก็ตามที่ไม่ได้ตาบอกก็สามารถเห็นได้ว่าเธอรู้สึกเป็นห่วงจิ้นเฟิงเฉิน

“เปล่า......”

จิ้นเฟิงเฉินทำท่าจะปฏิเสธ แต่ก็ไม่อยากโกหกเธอ เขาพูดออกมาเพียงคำเดียวก็ต้องยอมรับอย่างไม่เต็มใจว่า “ดื่มมานิดหน่อยครับ”

“คุณโกหก ถ้าดื่มแค่นิดหน่อยคุณจะไม่เป็นแบบนี้”

เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจเมื่อมองไปยังดวงตาแดงก่ำของชายหนุ่มคนนั้นหลังจากดื่มสุรา

เขาทำเพื่อพวกเธอ ทำเพื่อครอบครัว จึงจำเป็นต้องเข้าสังคม

จิ้นเฟิงเฉินยิ้มและปลอบโยนว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้รู้สึกไม่สบายตรงไหน ผมดื่มไปแค่นิดเดียวจริงๆ”

“นั่นไม่ใช่นิดหน่อยแน่ๆ คุณไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ? ถึงขนาดกลับห้องไปคุณยังไม่ถอดเสื้อคลุมด้วยซ้ำ”

เจียงสื้อสื้อ ทำเป็นบ่นเขาอย่างโมโห

แต่เธอรู้สึกกังวลมากกว่า ถ้าตอนนี้เธออยู่เคียงข้างเขาก็คงดี

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็ก้มหน้าลงมองดูตัวเอง เขาไม่ได้ถอดเสื้อจริงๆด้วย

เพื่อไม่ต้องให้สื้อสื้อกังวลอีกต่อไป เขาจึงทำท่าทางสดชื่นและเปลี่ยนเรื่องคุยว่า “เสี่ยวเป่า กับเถียนเถียนล่ะ หลับแล้วเหรอ?”

อันที่จริง เจ้าตัวเล็กสองคนมักวิ่งอยู่รอบตัวจนคุ้นเคยกับเสียงเล่นของพวกเขา แต่จู่ๆก็หายไปทำให้ไม่ชินเท่าไหร่นัก

“แด๊ดดี้ ผมอยู่นี่!”

“แด๊ดดี้ หนูก็อยู่นี่ค่ะ!”

ทันทีที่จิ้นเฟิงเฉินพูดจบ เสี่ยวเป่าและเถียนเถียนก็ปรากฏตัวต่อหน้ากล้องทันที

จิ้นเฟิงเฉินชะงักไปครู่หนึ่งและหัวเราะขึ้น “ฮ่าๆ เจ้าตัวเล็กทั้งสองคนรู้จักหลอกคนให้ตกใจตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

ปกติเขามักได้ยินเสียงวิ่งเล่นของสองพี่น้องดังขึ้นมาเสมอ แต่วันนี้เขาไม่ได้ยิน ตอนแรกยังสงสัยว่าสองคนนั้นหลับไปแล้วหรือเปล่า

คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจงใจจะซ่อนตัวและทำให้เขาตกใจ เจ้าสองคนนี่ร้ายขึ้นทุกวันแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!