ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 92

สรุปบท บทที่ 92 อยู่ด้วยกันตลอดไป: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

บทที่ 92 อยู่ด้วยกันตลอดไป – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

ตอนนี้ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 92 อยู่ด้วยกันตลอดไป จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 92 อยู่ด้วยกันตลอดไป

ในห้องโถงงานเลี้ยง พ่อแม่จิ้นกำลังกำลังตามหาเสี่ยวเป่าและจิ้นเฟิงเฉิน ใกล้ถึงเวลาแล้ว จะตัดเค้กได้แล้ว แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปอยู่ที่ไหน

แม่จิ้นมาหาจิ้นเฟิงเหรา กล่าวว่า : “เฟิงเหรา รีบไปหาพี่ชายคุณกับเสี่ยวเป่าเร็วเข้าว่าอยู่ที่ไหน นี่ก็จะถึงเวลาตัดเค้กแล้ว”

“แม่ ไม่ต้องรีบหรอก นี่ฉันกำลังจะไป”

หลังพูดจบ จิ้นเฟิงเหราก็ไปหา

ด้านซูชิงหยิงก็เอ่ยปากกล่าวว่า : “ป้าสะใภ้ ฉันก็จะรีบไปช่วยหานะ!”

แม่จิ้นพยักหน้า

หลังพูดจบ ซูชิงหยิงก็ออกไป

หลังจากเธอเดินหาจนรอบก็ไม่พบแม้แต่เงาของจิ้นเฟิงเฉินและเสี่ยวเป่า หลังถามกับบริกรจึงได้รู้ว่า ดูเหมือนว่าคนทั้งสองจะไปที่บนดาดฟ้าเรือ

ซูชิงหยิงจึงมุ่งหน้าเดินไป เห็นเจียงสื้อสื้อและจิ้นเฟิงเฉินที่อยู่ไกลๆ แล้วยังมีเสี่ยวเป่ากำลังทานอาหารอยู่ตรงนั้น คนทั้งสามมีความสุขปรองดองกัน ไม่รู้ว่าพูดอะไรกันบ้าง มองดูแล้วช่างเป็นครอบครัวเดียวกัน

ฉากนี้ตกอยู่ในสายตาของซูชิงหยิง นิ้วมือเธอก็อดไม่ได้ที่จะจับกระโปรงไว้แน่น

เจียงสื้อสื้อไม่ได้สังเกตเห็นเลยทั้งสิ้นว่ามีสายตาคู่นึงกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ ในเวลานี้เธอกำลังให้ของขวัญกับเสี่ยวเป่า คือสร้อยคอดาวราศรีที่เคยให้เสี่ยวเป่าเลือกครั้งที่แล้ว หลังจากเสี่ยวเป่าได้สวมใส่แล้ว ก็ดีใจอย่างสุดๆ

“ขอบคุณครับน้าสื้อสื้อ เสี่ยวเป่าชอบของขวัญชิ้นนี้มาก!”

เจียงสื้อสื้อยิ้ม : “เสี่ยวเป่าชอบก็ดีแล้ว”

จิ้นเฟิงเฉินมองคนทั้งสองอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนโดยไม่ตั้งใจ บนใบหน้าของเขาปรากฎให้เห็นรอยยิ้มเล็กน้อย

เห็นสีหน้าบนใบหน้าของจิ้นเฟิงเฉิน ซูชิงหยิงก็โมโหจนกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน

เพราะอะไรกันห๊ะ จิ้นเฟิงเฉินกับเสี่ยวเป่าถึงไม่ใยดีกับตนเอง แต่ทีกับเจียงสื้อสื้อล่ะ?

ผู้หญิงคนนึงที่ซับซ้อนเสแสร้งแบบนั้น มีสิทธิ์อะไรที่จะมายื้อแย่งผู้ชายของตนเอง

สักครู่หนึ่ง ซูชิงหยิงจึงสงบสติอารมณ์ ถึงแม้ว่าเสี่ยวเป่าและจิ้นเฟิงเฉินจะชอบเธอยังไง เรื่องราวแบบนี้ที่ปรากฎในคืนนี้ เธอก็ไม่เชื่อว่าพ่อจิ้นและแม่จิ้นจะยอมรับลูกสะใภ้แบบนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจียงสื้อสื้อเดิมทีผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ธรรมดา ไม่ช้าก็เร็วจิ้นเฟิงเฉินก็จะได้เห็นธาตุแท้จริงๆของเธอได้อย่างชัดเจน

คิดพลาง ซูชิงหยิงก็เดินไปอย่างไม่ใส่ใจ ยิ้มแล้วกล่าวว่า : “ที่แท้พวกคุณก็อยู่กันที่นี่เอง เกือบจะได้เวลาตัดเค้กแล้วนะ คุณลุงคุณป้าให้ฉันมาเรียกพวกคุณ”

เจียงสื้อสื้อมองซูชิงหยิง ด้วยสีหน้าเจื่อนๆเล็กน้อย

จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า : “ขอบคุณ.”

เจียงสื้อสื้อจดจ่ออยู่สักครู่แล้วจึงเข้าไป ในที่สุดตอนนี้ก็ตามจิ้นเฟิงเฉินเสี่ยวเป่าเข้าไปด้วยกัน เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้กลุ่มคนทั้งงานเลี้ยงวิพากย์วิจารณ์กันอย่างเซ็งแซ่

หลังจากจิ้นเฟิงเฉินและเสี่ยวเป่าเดินออกมาไม่นาน งานเลี้ยงก็เริ่มขึ้น

เค้กก้อนใหญ่สามชั้นถูกนำออกมา เสี่ยวเป่ามีความสุขที่เป็นไปตามฝัน จากนั้นจึงตัดเคกด้วยกันกับจิ้นเฟิงเฉิน ชิ้นแรกก็มอบให้เจียงสื้อสื้อ

“น้าสื้อสื้อทานเค้ก!”

สังเกตสายตาของผู้คนโดยรอบ เจียงสื้อสื้อไม่สบายใจเล็กน้อย เพียงแต่ยังรับเค้กมา ยิ้มจากใจจริงแล้วกล่าวว่า : “สุขสันต์วันเกิดนะเสี่ยวเป่า!”

“ขอบคุณครับน้าสื้อสื้อ!” เสี่ยวเป่ายิ้มสองแก้มแดงระเรื่อ

หลังจากตัดเค้ก ดาดฟ้าเรือด้านนอกก็มีการจุดดอกไม้ไฟ คนทั้งหมดต่างหลั่งไหลกันไปดู

ดอกไม้ไฟหลากหลายรูปแบบผลิบานอยู่บนท้องฟ้า กล่าวได้คืองดงามอย่างมาก

เจียงสื้อสื้อเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า ภายในใจก็รู้สึกดีขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ

สีหน้าของแม่จิ้นอดไม่ได้ที่จะแปลกใจอยู่บ้าง เธอเอ่ยปากด้วยความอึดอัดใจว่า : “นั่นก็สอดคล้องกับสถานการณ์….คุณเจียงคนนี้ ไม่เหมาะสมกับเฟิงเฉินอย่างมาก”

ถึงแม้ว่าเจียงสื้อสื้อจะมีรูปร่างหน้าตาที่สวย แต่ภูมิหลังฐานะทางสังคมซับซ้อนแบบนั้น ถ้าจิ้นเฟิงเฉินอยู่ด้วยกันกับเธอจริงๆ ถึงเวลานั้นจะต้องมีเรื่องไร้สาระของตระกูลเจียงกับตระกูลหลานอย่างแน่นอน และก็ไม่รู้ว่าจะต้องก่อกวนกันไปถึงเมื่อไหร่

ยิ่งไปกว่านั้นคืนนี้ แม่จิ้นก็ไม่เห็นว่าเจียงสื้อสื้อจะมีอะไรตรงไหนที่ดีเลิศ ก็ไม่รู้ว่าเสี่ยวเป่าและเด็กๆที่บ้านของตนเองชอบอะไรเธอ

พ่อจิ้นก็รู้เองโดยธรรมชาติ เขาพยักหน้าแล้วกล่าวว่า : “มีโอกาสฉันจะไปพูดคุยกับเฟิงเฉิน”

“อืม”

แม่จิ้นตอบรับด้วยน้ำเสียงเย็นชา สีหน้าของเธอกังวลเล็กน้อย ในฐานะที่เป็นแม่เธอดูออกโดยธรรมชาติว่าจิ้นเฟิงเฉินเอาใจใส่ต่อเจียงสื้อสื้ออย่างมาก เสี่ยวเป่าก็เช่นกัน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาจะยินยอมออกจากเจียงสื้อสื้อได้ไหม

………

ทางด้านนี้ ภายในห้อง เสี่ยวเป่าเปลี่ยรชุดเป็นชุดนอนแล้วอยู่ในอ้อมกอดของเจียงสื้อสื้อ

สายตาอันแวววาวของเขามองเจียงสื้อสื้อยิ้มแล้วกล่าวว่า : “น้าสื้อสื้อ ฉันมีความใฝ่ฝันมากมายเลยนะ คุณลองเดามาอย่างนึงสิว่าคืออะไร?”

เจียงสื้อสื้อยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยนว่า : “อะไรหรอ?”

น้ำเสียงอันอ่อนวัยของเสี่ยวเป่าดังขึ้น แววตาของเจียงสื้อสื้อก็ค่อยๆเปล่งประกาย อยู่ด้วยกันตลอดไป? จะได้ไหม?

ตระกูลที่มีชื่อเสียงอย่างตระกูลจิ้นจะมายอมรับผู้หญิงอย่างเธอได้อย่างไร เจียงสื้อสื้อหลบสายตาลง เรื่องที่อุ้มท้องแทน ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องถูกเปิดโปงออกมา…..ตระกูลจิ้นก็คงจะไม่ยินยอมให้เธอและจิ้นเฟิงเฉินอยู่ด้วยกันมากขึ้นไปอีก

เสี่ยวเป่าดึงมือเจียงสื้อสื้อมาออดอ้อน : “ดีไหม? น้าสื้อสื้อ คุณจะหนีจากฉันและแด๊ดดี้ไปไม่ได้”

เจียงสื้อสื้อยิ้มๆ ไม่ได้ตอบกลับเขา และกล่าวว่า : “เสี่ยวเป่า ห้าทุ่มครึ่งแล้วนะ นอนได้แล้ว”

“โอเคร ราตรีสวัสดิ์ครับน้าสื้อสื้อ”

เสี่ยวเป่าไม่ได้พูดอะไรอีก ไม่ว่าจะยังไง เขาก็รักน้าสื้อสื้อ เขาอยากจะอยู่กับเธอตลอดไป!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!